นักดื่มเฮ! มติ คกก.เหล้าไม่ห้ามขายช่วงปีใหม่ - สงกรานต์ ให้กลับไปศึกษาเพิ่ม แต่มีมติห้ามขายวันออกพรรษาเพิ่มเติม จากเดิมกำหนดแค่วันมาฆะ วันวิสาข์ และวันเข้าพรรษา เตรียมชง คกก.นโยบายเหล้าแห่งชาติไฟเขียวประกาศใช้กฎหมายต่อไป
วันนี้ (19 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน โดยมีวาระพิจารณาการออกอนุบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) เสนอ 5 ฉบับ คือ 1. ห้ามขายห้ามดื่มเหล้าในท่าเรือโดยสารสาธารณะ 2. กำหนดสถานที่หรือบริเวณ ห้ามขายห้ามดื่มเหล้าในสถานีขนส่ง 3. ห้ามขายห้ามดื่มเหล้าในสถานที่ที่อยู่ในการกำกับดูแลของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งหมายถึงลานกีฬา สนามหน้าอาคาร เป็นต้น 4. ห้ามขายเหล้าบริเวณรอบสถานศึกษา และ 5. ห้ามขายเหล้าในวันที่ 31 ธ.ค. วันที่ 1 ม.ค. และวันที่ 13 - 15 เม.ย.ของทุกปี
โดยระหว่างก่อนการประชุมนั้น เมื่อเวลา 09.00 น. เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่กว่า 40 คน ได้ยื่นหนังสือต่อที่ประชุม เพื่อขอให้พิจารณาผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อลดความสูญเสียจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับผิดชอบต่อความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ โดยนายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 7 วันอันตรายที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุทางถนน 3,174 ครั้ง เสียชีวิต 367 ราย สาเหตุมาจากการเมาสุรา 41.71% โดยไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง และสถิติยังสูงกว่าช่วงสงกรานต์ แม้หลายฝ่ายจะร่วมรณรงค์ แต่ก็ยังไม่มีรัฐบาลไหนกล้าจัดการกับต้นตอสำคัญของปัญหานี้
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า เครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนและมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1. ขอให้กำลังใจ สธ. และสนับสนุนการทำงานควบคุมปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยินดีร่วมเฝ้าระวังและสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายของ สธ. 2. ขอเรียกร้องให้ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับผิดชอบต่อความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกเทศกาล หยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น ขายให้คนเมาขาดสติ ขายนอกเวลา ขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และ 3. ขอเรียกร้องผ่านไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้จริงจังกับการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และวิงวอนประชาชนที่พบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วยกันแจ้งเรื่องร้องเรียน
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดของร่างอนุบัญญัติต่างๆ โดยมีมติเห็นชอบคือ 1. ห้ามขายห้ามดื่มเหล้าในท่าเรือโดยสารสาธารณะ 2. ห้ามขายห้ามดื่มเหล้าในสถานีขนส่ง 3. ห้ามขายห้ามดื่มเหล้าในสถานที่ที่อยู่ในกำกับของรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งกฎหมายเดิมกำหนดเพียงตัวอาคาร แต่ร่างนี้จะกำหนดบริเวณภายในของสถานที่ราชการทั้งหมด ทั้งสนามหญ้า ลานกีฬา ฯลฯ และ 4. การกำหนดวันสำคัญในการห้ามขายเหล้า ที่ประชุมมีมติห้ามขายเหล้าในวันออกพรรษาด้วย จากเดิมวันเข้าพรรษา วันวิสาขบูชา และวันมาฆบูชา ซึ่งทั้งหมดจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 24 ธ.ค. นี้ เพื่อพิจารณาและประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
“สำหรับมาตรการห้ามขายเหล้าในวันปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์ ให้กลับไปศึกษารายละเอียดเพิ่มอีกครั้ง โดยที่ประชุมเห็นว่าต้องคำนึงถึงความเห็นที่หลากหลายของสังคม เพราะกระทบกับคนหมู่มาก จึงต้องมีการศึกษาและทบทวน พร้อมทั้งสำรวจความคิดเห็นอย่างรอบด้านมากกว่านี้ ส่วนการห้ามขายเหล้ารอบสถานศึกษานั้น ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ แต่ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องเพิ่มเติม เนื่องจากบางร้านอยู่มานาน และร้านค้าเหล่านี้ไม่ใช่ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยตรง แต่เป็นร้านค้าร้านอาหาร จึงให้ สคอ. กลับไปร่างกรอบแนวทางการปฏิบัติให้ชัดเจนที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อร้านค้าอื่นๆ ส่วนร่างกฎกระทรวงห้ามขายห้ามดื่มเหล้าบนทางรถไฟนั้น ได้มีมติเห็นชอบไปแล้ว สมัย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ปฏิบัติหน้าที่แทน รมว.สาธารณสุข จึงสามารถเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายฯ ได้เลย” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มติดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีนายกฯ เคยพูดไว้ว่าไม่มีการห้ามจำหน่ายในช่วงปีใหม่หรือไม่ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า คำปรารภของนายกฯก็รับฟัง แต่ในที่ประชุมก็มีความเห็นที่แตกต่าง ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การเฉลิมฉลองด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีมาตรการห้ามขายเหล้าปีใหม่ แต่ สธ. มีมาตรการในเรื่องการจัดทีมดูแลเฝ้าระวัง และให้ความรู้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากการดื่มเหล้า รวมทั้งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้มงวดตรวจจับผู้กระทำผิดทั้งการจำหน่ายและดื่มที่ขัดกับกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นายธีระ วัชระปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า พร้อมยอมรับเรื่องนี้ แต่เครือข่ายฯจะร่วมกับฝ่ายวิชาการศึกษามาตรการช่วงปีใหม่นี้ ว่า จะลดจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเมาแล้วขับได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็จะรวบรวมข้อมูลไว้เป็นกรณีศึกษา เพื่อนำเสนอต่อในการควบคุมช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น
