นายกฯ สั่งอาชีวะสำรวจจำนวนแรงงานนำมาพัฒนาฝีมือ และจัดทำบัญชีให้สถานประกอบการเลือกคนที่ต้องการไปใช้ และให้จัดทำแผนแม่บทระยะเวลา 5 - 10 ปี กำหนดทิศทางการพัฒนาคนให้สอดคล้องกับแผนเศรษฐกิจ พร้อมย้ำอาชีวะมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจ แนะใช้ระบบทวิภาคีเชื่อมโยงภาครัฐและภาคเอกชนเข้าด้วยกัน
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดงานอาชีวศึกษาทวิภาคีไทย ระหว่างวันที่ 27 - 28 พฤศจิกายน 2557 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) พร้อมด้วยผู้บริหาร สอศ. ให้การต้อนรับ ผู้บริหารระดับสูงของสถานประกอบการชั้นนำ และนักเรียน นักศึกษา อาจารย์ และผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
โดย พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ผู้เรียนอาชีวศึกษา คือ ผู้ทรงคุณค่าของสังคม” มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันที่ตนได้เห็นว่าประเทศกำลังเดินหน้า เพราะในช่วงปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ดังนั้น ประเทศไทยจะต้องมาดูเรื่องการพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ โดยเราต้องมองตัวเองจากข้างนอกเข้ามาข้าง เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าประเทศไทยมีความได้เปรียบหรือเสียเปรียบกับประเทศอื่นๆ ในด้านใดบ้าง อีกทั้งความท้าทายของเราก็คือการผลิตกำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศชาติและของโลก เพราะฉะนั้นเวลานี้รัฐบาลจึงต้องมุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศ เพื่อนำพาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า โดยปราศจากความขัดแย้ง ซึ่งไม่ใช่แค่รัฐบาลเพียงอย่างเดียวที่จะทำหน้าที่ดังกล่าว แต่รวมถึงประชาชน นิสิต นักศึกษา ภาครัฐ และอกชนทุกคนจะต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น ด้วยการลดความขัดแย้ง แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเพื่อประเทศให้เดินหน้าไปได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ อาชีวศึกษามีบทบาทอย่างมากต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยระบบทวิภาคี คือ การจับคู่ สถานศึกษากับสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคนให้มีทักษะฝีมือและมีคุณภาพ ดังนั้น ขอฝากให้ภาครัฐและเอกชน และนักศึกษา ต้องสร้างความเชื่อมโยง และขอให้จัดทำแผนแม่บทในการทำงานว่าในอีก 5 - 10 ปีประเทศไทยต้องการกำลังคนด้านใดบ้าง จำนวนเท่าไรให้สอดคล้องกับการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งหากทำตามนี้ก็จะสามารถพัฒนาประเทศไปได้อย่างรวดเร็ว
“ปัจจุบันประเทศไทยขาดแคลนแรงงานอาชีวะหลายหมื่นคน และในปี 2558 จะเพิ่มเป็นหลายแสนคน ดังนั้น ขอให้ สอศ. ไปสำรวจแรงงานแต่ละสาขาว่ามีจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นให้นำมาพัฒนาต่อยอดและขึ้นบัญชีไว้ เพื่อให้สถานประกอบการได้คัดเลือกแรงงานตามความต้องการจากบัญชีดังกล่าวได้ทันที เพราะถือว่าเป็นแรงงานที่ได้รับการพัฒนาแล้ว อย่างไรก็ตามขอให้ ศธ. เร่งแก้ปัญหาให้ทุกคนเรียนอย่างมีความสุขทั้งครู นักเรียน และผู้ปกครอง เพราะผมต้องการการศึกษาที่มีความสุข และมีผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน”นายกฯ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
Loadingเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น