โดย..นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด จะเกิดขึ้นที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา บนเนื้อที่ 2,000 ไร่ ของตำบลปากบางเทพา ขนาดกำลังการผลิต 2,200 เมกะวัตต์ หรือเกิดเท่ากับความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้ทั้งภาคในปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือ การประชาสัมพันธ์ข้อมูลในพื้นที่นั้น เน้นการใช้วาทกรรมที่ว่า โรงไฟฟ้านี้จะใช้“ถ่านหินสะอาด” จากเหมืองถ่านหินของบริษัทบ้านปูที่ขนมาจากอินโดนีเซีย และพาประชาชนในพื้นที่ไปดูงานโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบทัศนศึกษาอย่างกินดีอยู่ดีที่ประเทศมาเลเซีย
ข้อมูลจาก กฟผ. ระบุว่า ถ่านหินดังกล่าวมีโลหะหนักปะปนอยู่กับเนื้อถ่านหินที่นำเข้ามาจำนวนไม่มาก ที่มีการเปิดเผยในรายงานได้แก่ มีสารหนู ประมาณ 9 มิลลิกรัมต่อถ่านหิน 1 กิโลกรัม มีแคดเมียม มีปรอท และมีสารตะกั่ว จำนวนประมาณ 1 , 0.5 และ 20 มิลลิกรัมต่อถ่านหิน 1 กิโลกรัมตามลำดับ ซึ่งหากดูตัวเลขโดยผิวเผินก็มีจำนวนไม่มากนัก ในถ่านหิน 1 กิโลกรัมมีโลหะปนอยู่เพียง 30 มิลลิกรัม แต่เพราะโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพานี้ ใช้ถ่านหินต่อวัน 23,000 ตัน หรือกว่า 1,000 รถบรรทุกต่อวัน เมื่อนำจำนวนถ่านหินที่ใช้ต่อวันที่ 23,000 ตัน หรือเท่ากับ 23 ล้านกิโลกรัมมาคำนวณสารโลหะหนักที่จำนำเข้ามาสู่พื้นที่และคำนวณเป็นปี จะพบว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จะมีการนำเข้าโลหะหนักสู่พื้นที่จำนวนมาก
จะมีสารหนูปนเปื้อนนำเข้าพื้นที่ วันละ 207 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับ 75,555 กิโลกรัม/ปี
จะมีแคดเมียมปนเปื้อนนำเข้าพื้นที่ วันละ 23 กิโลกรัม หรือเท่ากับ 8,395 กิโลกรัม/ปี
จะมีปรอทปนเปื้อนนำเข้ามาในพื้นที่ 11.5 กิโลกรัม/วันหรือเท่ากับ 4,198 กิโลกรัม/ปี
และจะมีตะกั่วปนเปื้อนนำเข้ามาในพื้นที่ 460 กิโลกรัม/วัน หรือเท่ากับ 167,900 กิโลกรัม/ปี
โดยรวมของโลหะหนักทั้ง 4 ชนิดนี้ มีปริมาณโลหะหนักซึ่งเป็นสารพิษรุนแรงที่ปนเปื้อนนำเข้ามาในพื้นที่รวม 256,000 กิโลกรัมต่อปี หรือคำนวณไปตลอด 30 ปีของอายุโรงไฟฟ้าถ่านหินจะพบตัวเลขที่น่าตกใจมากถึง 7,681,000 กิโลกรัม ซึ่งตรงกันข้ามกับคำวาทกรรมที่ว่า “สะอาด” อย่างสิ้นเชิง โลหะหนักเจ็ดล้านหกแสนกิโลกรัมที่จะปนเปื้อนในพื้นที่นั้นจะเรียกว่าสะอาดปลอดภัยได้อย่างไร
เมื่อถ่านหินถูกเผา โลหะหนักเหล่านี้ส่วนใหญ่จะปนเปื้อนออกสู่บรรยากาศ ลอยฟุ้งกระจายไปสู่พื้นที่ต่างๆ บางส่วนปนเปื้อนในน้ำที่ฉีดรดกองถ่านหินเพื่อไม่ให้ติดไฟ อีกบางส่วนปนเปื้อนในน้ำทะเล เพราะโรงงานแห่งนี้บำบัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ด้วยการเอาอากาศร้อนผ่านน้ำทะเล ซึ่งแน่นอนว่าโลหะหนักเหล่านี้จะปนเปื้อนลงไปสู่ทะเล ทั้งผืนดิน แหล่งน้ำ อากาศ ทะเล นากุ้ง พืชอาหาร รวมทั้งคนและสัตว์ย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสะสมสารพิษเหล่านี้ ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งโรคมะเร็งและความเสื่อมวายของอวัยวะทั้งตับ ไต ระบบเลือด ระบบประสาท จากการได้รับสารพิษวันละนิดวันละน้อยแต่ต่อเนื่องยาวนานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จนชั่วลูกหลาน
หลักสัจธรรมทางวิทยาศาสตร์ประการหนึ่งคือ สสารไม่หายไปไหนเพียงแต่เปลี่ยนรูปได้ โลหะหนักทั้ง 4 ชนิดนี้จะมีระบบการบำบัดดักจับให้มากที่สุดอย่างไร ใช้เทคโนโลยีใดในการดักจับ ดักจับได้กี่เปอร์เซ็นต์ ต้นทุนดำเนินการแพงไหม สิ่งเหล่านี้ยังไม่ปรากฏข้อมูลใดๆ จากเอกสารชี้แจงโครงการ อีกทั้งดูเหมือนว่า จะไม่มีการตรวจวัดเฝ้าระวังสารโลหะหนักอย่างเป็นระบบทั้งที่ปากปล่อง จากน้ำทิ้ง หรือในคนในสัตว์น้ำหน้าอ่าวเทพาหรือในนากุ้งแต่อย่างใด ราวกับว่าปริมาณที่ปนเปื้อนขนาดนี้เป็นสิ่งที่คนเทพาและคนสงขลาต้องรับไว้และทนให้ได้
ทุกสิ่งล้วนมีประโยชน์และโทษภัย เมื่อต้องการไฟฟ้าก็ต้องยอมรับกับมลพิษที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่สิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้คือ การใช้”วาทกรรมสะอาด”มาสร้างภาพหลอกลวงประชาชน เพราะถ่านหินในโลกนี้ล้วนสกปรก เพียงแต่อาจสกปรกลดลงกว่าเดิมเล็กน้อยเท่านั้น แล้วจะมาเรียก “ถ่านหินสะอาด” ไม่ได้
การโกหกประชาชนคือปฐมบทแห่งความขัดแย้งและการออกมาเรียกร้องหาความจริงและคัดค้านโครงการ การบอกกล่าวความจริงแล้วให้ประชาชนคนในพื้นที่และให้เขาร่วมตัดสินใจในชะตากรรมของเขาเท่านั้นคือทางออกที่ดีที่สุดของการอยู่ร่วมกัน หากสอบไม่ผ่านก็ต้องพับโครงการไปหาที่ใหม่ เพราะเขาคนเทพา คนสงขลา คือ เจ้าของแผ่นดิน นั่นคือบ้านเกิดเมืองนอนของเขา เขาต้องหายใจอยู่ที่นั่นทุกวัน จงอย่าใช้ “วาทกรรมสะอาด” มาบิดเบือนความจริง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
Loadingเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น