“บิ๊กเต่า” ฉุน หลุดว่านักข่าวโง่ สมองบ้า กลางที่ประชุม หลังประชุมครั้งก่อนถูกถามจี้ใจดำ ระบบส่งแรงงานไทยไป ตปท. ล้มเหลว เจอปัญหาเพียบ เสพ - ค้ายา ขี้เหล้า ทะเลาะวิวาท ด้อยภาษา ถูกบังคับสอนปรุงอาหารไทย ก่อนเฉดหัวกลับ หันจ้างชาติอื่นที่ค่าแรงถูกกว่า สั่งเร่งแก้ไข ยันปัญหาไม่ได้เกิดจากระบบจัดส่ง อยู่ที่ตัวบุคคล ผุดแนวคิดยุบสำนักแรงงานไทยบางประเทศที่ไม่มีนโยบายรับแรงงานต่างชาติ
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวในการเป็นประธานมอบนโยบายและแนวทางปฎิบัติงาน ในการประชุมหัวหน้าสำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศจำนวน 13 แห่ง ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการสรุปปัญหาของแรงงานไทย ที่ถูกส่งไปทำงานในประเทศต่างๆ กว่า 3 แสนคน ทั้งในประเทศแถบเอเชียและตะวันออกกลาง ส่วนใหญ่มีปัญหาในการสื่อสารภาษาอังกฤษ และภาษาถิ่น ทำให้แรงงานจากฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เป็นที่นิยมมากกว่า ประกอบกับแรงงานไทยมีนิสัยติดเหล้า ทะเลาะวิวาท เล่นการพนัน มีการเสพและค้ายาเสพติดมากขึ้น จนน่าเป็นห่วงเช่น ในประเทศอิสราเอล มีแรงงานไทยจำนวน 2.7 หมื่นคน เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดถึงจำนวนนี้ 1.5 หมื่นคน ส่วนในคูเวต แรงงานหญิงถูกชักชวนไปทำงานนวดสปา แต่กลับถูกบังคับค้าประเวณี พ่อครัวไทยถูกนายจ้างบังคับถ่ายทอดฝีมือปรุงอาหารให้คนชาติอื่น แล้วเลิกจ้างคนไทยเพราะค่าแรงแพง จึงได้ให้ทบทวนยุทธศาสตร์แรงงานไทยไปต่างประเทศทำอย่างไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ตลอด 21 ปี กระทรวงแรงงานเดินตามหลังการเมืองมาตลอด ถึงเวลาต้องปรับทัศนคติใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งระหว่างการมอบนโยบาย รมว.แรงงาน ได้กล่าวต่อว่าสื่อมวลชนที่ถามถึงความล้มเหลวในการจัดส่งแรงงานไทย ว่า นักข่าวโง่ สองมันบ้าคนงานที่เสพยาในอิสราเอลมีน้อยกว่าคนที่เสพยาในประเทศ จะโทษผมได้ยังไง แรงงานติดยา ก็มาเขียนด่าผม ทั้งที่แรงงานไทยในต่างประเทศแค่ 3 แสนคน มีปัญหาน้อยมากเมื่อเทียบกับปัญหาของแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย แต่กลับมีทูตฝ่ายแรงงานดูแลดี ข้าราชการระดับ 8 ไปอยู่ต่างประเทศ มีหน้ามีตาไม่อยากกลับ ต่างจากการแก้ปัญหาในไทยที่ไม่มีการจัดการให้เป็นระบบ ปัญหาต่างด้าวทะลักเข้ามาทางชายแดน ล้วนโยนให้กระทรวงแรงงานทั้งหมด ทั้งที่มีหลายหน่วยงานดูแลร่วมกัน ขณะนี้ได้กำชับให้ทูตแรงงานทำงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ดี ทั้งการดูแลแรงงานไทย และขยายตลาดแรงงาน ซึ่งจะเร่งหานโยบายใหม่ที่สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้พิจารณาการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศว่าคุ้มค่าจริงหรือไม่ เพราะรายได้สูงแต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน หากทำงานในประเทศจะคุ้มค่ากว่าหรือไม่ เพื่อจะได้รณรงค์ได้ถูกทางว่ามีประเทศใดควรไป ประเทศใดไม่ควรไป เพราะไทยก็ยังขาดแคลนแรงงาน อาจจะต้องชะลอการจัดส่งแรงงานในบางประเทศ หันมาจัดส่งในกลุ่มประเทศอาเซียนแทน ส่วนปัญหาแรงงานไทยชอบดื่มเหล้า เสพยา เล่นพนัน ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล บังคับไม่ได้ ภาษาอังกฤษที่แรงงานไทยยังอ่อน ต้องจำแนกตามกลุ่มประเทศที่แรงงานจะเดินทางไปทำงาน ซึ่งหลายประเทศใช้ภาษาถิ่น เช่น ภาษาจีน หรือเกาหลี มากกว่าภาษาอังกฤษ สำนักบริหารแรงงานไทยในต่างประเทศบางแห่งที่มีแรงงานน้อย เช่น เยอรมัน ที่ไม่มีนโยบายรับแรงงานต่างชาติเข้าไปทำงาน อาจจะยุบ ไม่จำเป็นต้องมีทูตแรงงาน หรือปรับให้ไปอยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวในการเป็นประธานมอบนโยบายและแนวทางปฎิบัติงาน ในการประชุมหัวหน้าสำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศจำนวน 13 แห่ง ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการสรุปปัญหาของแรงงานไทย ที่ถูกส่งไปทำงานในประเทศต่างๆ กว่า 3 แสนคน ทั้งในประเทศแถบเอเชียและตะวันออกกลาง ส่วนใหญ่มีปัญหาในการสื่อสารภาษาอังกฤษ และภาษาถิ่น ทำให้แรงงานจากฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เป็นที่นิยมมากกว่า ประกอบกับแรงงานไทยมีนิสัยติดเหล้า ทะเลาะวิวาท เล่นการพนัน มีการเสพและค้ายาเสพติดมากขึ้น จนน่าเป็นห่วงเช่น ในประเทศอิสราเอล มีแรงงานไทยจำนวน 2.7 หมื่นคน เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดถึงจำนวนนี้ 1.5 หมื่นคน ส่วนในคูเวต แรงงานหญิงถูกชักชวนไปทำงานนวดสปา แต่กลับถูกบังคับค้าประเวณี พ่อครัวไทยถูกนายจ้างบังคับถ่ายทอดฝีมือปรุงอาหารให้คนชาติอื่น แล้วเลิกจ้างคนไทยเพราะค่าแรงแพง จึงได้ให้ทบทวนยุทธศาสตร์แรงงานไทยไปต่างประเทศทำอย่างไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ตลอด 21 ปี กระทรวงแรงงานเดินตามหลังการเมืองมาตลอด ถึงเวลาต้องปรับทัศนคติใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งระหว่างการมอบนโยบาย รมว.แรงงาน ได้กล่าวต่อว่าสื่อมวลชนที่ถามถึงความล้มเหลวในการจัดส่งแรงงานไทย ว่า นักข่าวโง่ สองมันบ้าคนงานที่เสพยาในอิสราเอลมีน้อยกว่าคนที่เสพยาในประเทศ จะโทษผมได้ยังไง แรงงานติดยา ก็มาเขียนด่าผม ทั้งที่แรงงานไทยในต่างประเทศแค่ 3 แสนคน มีปัญหาน้อยมากเมื่อเทียบกับปัญหาของแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย แต่กลับมีทูตฝ่ายแรงงานดูแลดี ข้าราชการระดับ 8 ไปอยู่ต่างประเทศ มีหน้ามีตาไม่อยากกลับ ต่างจากการแก้ปัญหาในไทยที่ไม่มีการจัดการให้เป็นระบบ ปัญหาต่างด้าวทะลักเข้ามาทางชายแดน ล้วนโยนให้กระทรวงแรงงานทั้งหมด ทั้งที่มีหลายหน่วยงานดูแลร่วมกัน ขณะนี้ได้กำชับให้ทูตแรงงานทำงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ดี ทั้งการดูแลแรงงานไทย และขยายตลาดแรงงาน ซึ่งจะเร่งหานโยบายใหม่ที่สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้พิจารณาการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศว่าคุ้มค่าจริงหรือไม่ เพราะรายได้สูงแต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน หากทำงานในประเทศจะคุ้มค่ากว่าหรือไม่ เพื่อจะได้รณรงค์ได้ถูกทางว่ามีประเทศใดควรไป ประเทศใดไม่ควรไป เพราะไทยก็ยังขาดแคลนแรงงาน อาจจะต้องชะลอการจัดส่งแรงงานในบางประเทศ หันมาจัดส่งในกลุ่มประเทศอาเซียนแทน ส่วนปัญหาแรงงานไทยชอบดื่มเหล้า เสพยา เล่นพนัน ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล บังคับไม่ได้ ภาษาอังกฤษที่แรงงานไทยยังอ่อน ต้องจำแนกตามกลุ่มประเทศที่แรงงานจะเดินทางไปทำงาน ซึ่งหลายประเทศใช้ภาษาถิ่น เช่น ภาษาจีน หรือเกาหลี มากกว่าภาษาอังกฤษ สำนักบริหารแรงงานไทยในต่างประเทศบางแห่งที่มีแรงงานน้อย เช่น เยอรมัน ที่ไม่มีนโยบายรับแรงงานต่างชาติเข้าไปทำงาน อาจจะยุบ ไม่จำเป็นต้องมีทูตแรงงาน หรือปรับให้ไปอยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
