xs
xsm
sm
md
lg

วธ.พา “ทูต” ยลวิถีล้านนาน่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย...สุกัญญา แสงงาม

"ขยับเข้ามาใกล้ๆ ซิคะ"

“รักนะ จุ๊ฟๆๆ”

นี่คือมุมสบายๆ น่ารักๆ ที่คณะทูตานุทูตผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำท่า “กระซิบรักก้องโลก” ตำนานรักของปู่ม่านย่าม่าน ที่บรมครูด้านศิลป์วาดภาพการบอกรักของคนหนุ่มสาวในอดีตผ่านจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน

ปัจจุบันกลายเป็นมนต์เสน่ห์กวักผู้มาเยือนน่านจะต้องแซะ แชะ บันทึกภาพกับปู่ม่านย่าม่าน ไว้เป็นที่ระลึก แม้จะผ่านกาลเวลามานาน ทว่าเสน่ห์วิถีล้านนาแบบดั้งเดิมของน่านยังไม่จืดจาง เลือนหาย คนรุ่นใหม่ยังสืบสานวัฒนธรรมวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทอผ้าพื้นเมือง ทำเกลือ นอกจากนี้ ยังมีการเล่าประวัติความรุ่งเรืองในอดีตผ่านการแสดง ตลอดจนผืนป่าเขียวขจี สิ่งเหล่านี้จูงใจให้คนเมือง ต่างชาติ หลังไหลมาเที่ยวน่านเพิ่มขึ้นทุกปี

เพื่อให้น่านเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้นำคณะทูตานุทูตกว่า 20 ประเทศมาสัญจร จ.น่าน เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ และเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย สู่สายตาชาวต่างชาติ โดยใช้มิติวัฒนธรรมเป็นตัวขับเคลื่อน และได้พิจารณาแล้วว่าแหล่งโบราณคดีและแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมจังหวัดน่านเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายในการนำเสนอชื่อเพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกในอนาคต จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะเผยแพร่แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม แหล่งศิลปหัตถกรรม วิถีชีวิตและภูมิปัญญาพื้นบ้านแก่คณะทูตานุทูต สื่อมวลชน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือและการสนับสนุนการดำเนินงานด้านต่างๆ รวมถึงการเสนอเมืองน่านเป็นมรดกโลกต่อยูเนสโก

ตลอดระยะเวลา 3 วัน จะนำคณะทูตานุทูตเข้าร่วมกิจกรรมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เป็นสถานที่เก็บงาช้างดำวัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่าน วัตถุโบราณที่หายากและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จากนั้นเดินทางไปวัดภูมินทร์ ซึ่งเป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย เยี่ยมชมวัดพระธาตุแช่แห้ง และแหล่งโบราณคดีเตาเผาโบราณบ้านสวก นอกจากนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมยังต้องการให้คณะทูตานุทูตได้ศึกษาเรียนรู้ และมีความเข้าใจถึง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพื้นที่ จ.น่าน จึงได้พาไปเยี่ยมชมศูนย์ภูฟ้าพัฒนา และศูนย์วัฒนธรรมภูฟ้า ซึ่งถือว่า มีระบบการบริหารจัดการเกี่ยวกับการ ส่งเสริมอาชีพ ให้กับคนในท้องถิ่น ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก รวมทั้งพาไปศึกษาวิถีชีวิตจริงความเป็นอยู่ของชาวไทลื้อ และการสาธิตการทอผ้าพื้นเมือง และการอนุรักษ์งานศิลปะที่หอศิลป์เมืองน่าน

Mr.Kirill Mikhailovich Barsky เอกอัครราชทูตรัสเซีย บอกว่า รู้สึกประทับใจ น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะโครงการของสมเด็จพระเทพฯ นำความหวังดีมาสู่คนของท้องถิ่น ขณะเดียวกัน ก็เห็นความตั้งใจของคนในท้องถิ่นด้วย ที่เสนอบ้านของตัวเองเป็นมรดกโลก ซึ่งตรงนี้คนท้องถิ่นต้องมีส่วนร่วมอย่างจริงใจ รักษาความเป็นล้านนาของตัวเองเอาไว้

อย่างไรก็ตาม การเสนอขึ้นเป็นมรดกโลก จะต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ องค์กรเอ็นจีโอ และคนในท้องถิ่นเข้ามาช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น แต่ทั้งหมดทั้งมวล ซึ่งสิ่งที่น่าสงวน น่าสนใจจังหวัดน่าน มีเป็น100 อย่าง คงทำได้ยาก ทำได้ไม่หมด ฉะนั้น ต้องมาจัดลำดับความสำคัญ มาโฟกัส แล้วมาสนับสนุนเพื่อให้ถึงจุดหมาย “มรดกโลก” ทั้งนี้ รัสเซีย ยินดีให้การสนับสนุนทุนด้วย

ขณะที่เอกอัครราชทูตหลายท่านได้เสนอแนะทิศทางเดียวกันว่า ชาวบ้าน หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อนุรักษ์ความเป็นล้านนาดั้งเดิมเอาไว้ และต้องพัฒนาคนในท้องถิ่นให้มีความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ และทำโบชัวร์ ป้ายบอกเส้นทางให้มีภาษาสากลด้วย

อย่างไรก็ดี วันนี้ชาวบ้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน หน่วยงานต่างๆ ตื่นตัวเปิดบ้านต้อนรับแขกผู้มาเยือนน่าน



ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น