รองนายกฯ ชี้ตรวจคุณภาพสถานศึกษาทุกแห่งทำผลประเมินไม่ดีพอ เหตุรีบเร่งทำประเมิน ย้ำระบบสุ่มตรวจสอบดีกว่ามีเวลาให้สถานศึกษาเตรียมตัว ยืนยันคุณภาพไม่ลดลง
วันนี้ (26 พ.ย.) นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านสังคม ให้สัมภาษณ์กรณีเตรียมแก้ไขพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน ) พ.ศ. 2543 เพื่อปรับปรุงเกณฑ์ประเมินจากเดิมที่กำหนดให้ต้องตรวจสอบคุณภาพสถานศึกษาทุกแห่ง เหลือเพียงสุ่มตรวจเพียงบางแห่งเท่านั้น ว่า จากการตรวจประเมินคุณภาพสถานศึกษาทั้งหมดกว่า 5 หมื่นแห่ง จำนวน 3 รอบที่ผ่านมา พบว่า มีความยากลำบากและผลประเมินก็ออกมาได้ไม่ดี เนื่องจากต้องรีบทำการประเมินคุณภาพให้เสร็จตามกำหนด ขณะที่สถานศึกษากลับมีจำนวนมากและต้องตรวจสอบคุณภาพทุกแห่ง จึงมีการหารือว่าจะเปลี่ยนมาใช้เป็นการสุ่มตรวจสถานศึกษาเพียงบางแห่งเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการวางระบบการสุ่มตรวจ เช่น สถานศึกษาในกลุ่มนี้ต้องตรวจทั้งหมดกี่แห่ง และการตรวจประเมินก็จะเวียนสถานศึกษากันไป ไม่ใช่ว่าสุ่มตรวจแล้วจะไม่ถูกประเมินเลย ทั้งนี้ หากหันมาใช้ระบบนี้ก็จะช่วยให้มีเวลาในการเตรียมตัวในการประเมินมากขึ้น ได้ผลการตรวจประเมินที่ดียิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสุ่มตรวจสถานศึกษาเพียงบางแห่ง จะทำให้คุณภาพยิ่งลดลงหรือไม่ เพราะแม้จะตรวจทุกแห่งก็ยังพบว่ามีปัญหา นายยงยุทธ กล่าวว่า คุณภาพของสถานศึกษาไม่ลดลงแน่นอน เพราะสถานศึกษาจะมีเวลาในการเตรียมตัวเพื่อทำการประเมินมากขึ้น เพราะสถานศึกษาจะไม่รู้ว่าตัวเองจะถูกตรวจสอบคุณภาพเมื่อไร ซึ่งสักวันการตรวจสอบก็ต้องเวียนมาถึง จึงต้องมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่