สพฐ. ได้ฤกษ์ถ่ายทอดทีวีทางไกลดาวเทียมสมบูรณ์ทั่วประเทศ 3 พ.ย. นี้ กำหนดใช้จอทีวี 32 นิ้ว พอดีกับห้องเรียน ไม่ได้ใช้งบมากเกิน ยันโปร่งใสตรวจสอบได้
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม พบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการทดสอบสัญญาณส่งจากต้นสัญญาณโรงเรียนวังไกลวังวล กับโรงเรียนปลายทางมีความชัดเจนสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำยืนยันจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าจะสามารถส่งสัญญาณทางไกลผ่านดาวเทียมอย่างเต็มระบบได้ในวันที่ 3 พ.ย. นี้ แน่นอน ในส่วนของการใช้อุปกรณ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ สพฐ. ได้จัดอบรมชี้แจงความเข้าใจให้กับโรงเรียนและครูที่อยู่ปลายทางที่จะนำไปใช้กับนักเรียนแล้ว รวมทั้งอบรมโรงเรียนแกนนำทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเรียบร้อยแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ส่วนใหญ่การส่งสัญญาณมีความคมชัดดี มีเป็นบางโรงเรียนเท่านั้นที่อยู่ห่างไกล สัญญาณไม่ค่อยเสถียร ซึ่งตนก็ได้สั่งการให้ลงไปช่วยแก้ไขแล้ว
“ส่วนที่มีการระบุว่าจะต้องใช้จอทีวี 32 นิ้วนั้น เป็นการกำหนดขนาดให้พอดีกับห้องเรียน ถ้าเล็กไปก็มองไม่เห็นและใหญ่ไปก็จะเป็นการใช้งบประมาณที่มากเกินไป เกินความจำเป็น และผมก็เชื่อว่าการดำเนินการของ สพฐ. โปร่งใสตรวจสอบได้ เพราะ สพฐ. ได้โอนเงินให้โรงเรียนหาซื้อเอง ไม่มีบริษัทใด บริษัทหนึ่งขายเป็นจำนวนมาก จนผิดปกติ” พล.อ.สุเชษฐ์ กล่าวและว่า ที่สำคัญ เมื่อจบเทอม 2 แล้วจะต้องมีการประเมินผลการเรียนของนักเรียนด้วยว่า คะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ของนักเรียนดีขึ้นตามทฤษฎีการวิจัยหรือไม่ เมื่อเทียบกับการปฏิบัติ ซึ่งก็ต้องดูผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้น และต้องตามไปดูอีกครั้ง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม พบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการทดสอบสัญญาณส่งจากต้นสัญญาณโรงเรียนวังไกลวังวล กับโรงเรียนปลายทางมีความชัดเจนสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำยืนยันจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าจะสามารถส่งสัญญาณทางไกลผ่านดาวเทียมอย่างเต็มระบบได้ในวันที่ 3 พ.ย. นี้ แน่นอน ในส่วนของการใช้อุปกรณ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ สพฐ. ได้จัดอบรมชี้แจงความเข้าใจให้กับโรงเรียนและครูที่อยู่ปลายทางที่จะนำไปใช้กับนักเรียนแล้ว รวมทั้งอบรมโรงเรียนแกนนำทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเรียบร้อยแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ส่วนใหญ่การส่งสัญญาณมีความคมชัดดี มีเป็นบางโรงเรียนเท่านั้นที่อยู่ห่างไกล สัญญาณไม่ค่อยเสถียร ซึ่งตนก็ได้สั่งการให้ลงไปช่วยแก้ไขแล้ว
“ส่วนที่มีการระบุว่าจะต้องใช้จอทีวี 32 นิ้วนั้น เป็นการกำหนดขนาดให้พอดีกับห้องเรียน ถ้าเล็กไปก็มองไม่เห็นและใหญ่ไปก็จะเป็นการใช้งบประมาณที่มากเกินไป เกินความจำเป็น และผมก็เชื่อว่าการดำเนินการของ สพฐ. โปร่งใสตรวจสอบได้ เพราะ สพฐ. ได้โอนเงินให้โรงเรียนหาซื้อเอง ไม่มีบริษัทใด บริษัทหนึ่งขายเป็นจำนวนมาก จนผิดปกติ” พล.อ.สุเชษฐ์ กล่าวและว่า ที่สำคัญ เมื่อจบเทอม 2 แล้วจะต้องมีการประเมินผลการเรียนของนักเรียนด้วยว่า คะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ของนักเรียนดีขึ้นตามทฤษฎีการวิจัยหรือไม่ เมื่อเทียบกับการปฏิบัติ ซึ่งก็ต้องดูผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้น และต้องตามไปดูอีกครั้ง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่