ทูตมะกันหารือ สธ. ความร่วมมือด้านสาธารณสุข ชมมีมาตรการป้องกันอีโบลาดี ระบุผลเฝ้าระวังขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ เตือนคนไทยกลับมาจากพื้นที่ระบาด หากมีไข้ห้ามซื้อแอสไพริน - ไอบรูโพรเฟน กินลดไข้ เหตุทำเลือดออกง่ายขึ้น ให้รีบพบแพทย์ แจ้งประวัติเดินทาง
วันนี้ (17 ต.ค.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้การต้อนรับ นายแพทริค เมอร์ฟี อัครราชทูตที่ปรึกษาและอุปทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายเอริก ฟราเทอร์ เลขานุการอันดับ 1 ด้านเศรษฐกิจสุขภาพ และนายไมค์ เบิร์คลี ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุข องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อหารือความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ นพ.สมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือว่า นายแพทริค ได้ชื่นชมประเทศไทยในการเตรียมความพร้อมมาตรการควบคุมป้องกันโรคอีโบลา หลังจาก ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข ได้เข้าร่วมประชุมวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลกที่ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา และยังชื่นชมประเทศไทยที่มีความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบสาธารณสุข เช่น ด้านอนามัยแม่และเด็ก การควบคุมป้องกันโรคเอดส์ โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าด้วย
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา องค์การอนามัยโรครายงานพบผู้ป่วยยืนยันสงสัย และเข้าข่ายติดเชื้อ ใน 7 ประเทศ ได้แก่ กินี ไลบีเรีย ไนจีเรีย เซเนกัล เซียร์ราลีโอน สเปน และสหรัฐอเมริกา จนถึงวันที่ 12 ต.ค. รวม 8,997 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,493 ราย ส่วนไทยยังคงมาตรการป้องกันโรค เน้นการเฝ้าระวังใน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค ที่สนามบิน ช่องทางเข้าออกประเทศทางบกและทางเรือ กลุ่มผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน และชุมชนที่มีชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่องทุกวัน ผลการเฝ้าระวังในกลุ่มดังกล่าวมีจำนวน 2,229 คน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา
“ขอประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด หากจำเป็นต้องเดินทางไปขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ และเมื่อกลับมาหากมีไข้ภายใน 21 วัน อย่าซื้อยาลดไข้กินเอง โดยเฉพาะยาแอสไพริน และไอบูรโพรเฟน เนื่องจากจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง เพื่อดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที” รมช.สาธารณสุข กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (17 ต.ค.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้การต้อนรับ นายแพทริค เมอร์ฟี อัครราชทูตที่ปรึกษาและอุปทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายเอริก ฟราเทอร์ เลขานุการอันดับ 1 ด้านเศรษฐกิจสุขภาพ และนายไมค์ เบิร์คลี ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุข องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อหารือความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ นพ.สมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือว่า นายแพทริค ได้ชื่นชมประเทศไทยในการเตรียมความพร้อมมาตรการควบคุมป้องกันโรคอีโบลา หลังจาก ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข ได้เข้าร่วมประชุมวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลกที่ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา และยังชื่นชมประเทศไทยที่มีความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบสาธารณสุข เช่น ด้านอนามัยแม่และเด็ก การควบคุมป้องกันโรคเอดส์ โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าด้วย
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา องค์การอนามัยโรครายงานพบผู้ป่วยยืนยันสงสัย และเข้าข่ายติดเชื้อ ใน 7 ประเทศ ได้แก่ กินี ไลบีเรีย ไนจีเรีย เซเนกัล เซียร์ราลีโอน สเปน และสหรัฐอเมริกา จนถึงวันที่ 12 ต.ค. รวม 8,997 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,493 ราย ส่วนไทยยังคงมาตรการป้องกันโรค เน้นการเฝ้าระวังใน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค ที่สนามบิน ช่องทางเข้าออกประเทศทางบกและทางเรือ กลุ่มผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน และชุมชนที่มีชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่องทุกวัน ผลการเฝ้าระวังในกลุ่มดังกล่าวมีจำนวน 2,229 คน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา
“ขอประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด หากจำเป็นต้องเดินทางไปขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ และเมื่อกลับมาหากมีไข้ภายใน 21 วัน อย่าซื้อยาลดไข้กินเอง โดยเฉพาะยาแอสไพริน และไอบูรโพรเฟน เนื่องจากจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง เพื่อดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที” รมช.สาธารณสุข กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
Loadingเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น