xs
xsm
sm
md
lg

ทางรอดวัคซีนไทย หาก “มหาอำนาจ” เมินผลิตวัคซีนพื้นฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย...สิรวุฒิ รวีไชยวัฒน์

วัคซีนพื้นฐานถือว่ามีความสำคัญในการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทย เนื่องจากเป็นวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดให้เด็กไทยทุกคนต้องได้รับ เพื่อป้องกันโรคสำคัญที่ติดต่อได้ง่าย หรือโรคที่ก่ออันตรายรุนแรง ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 10 โรค อาทิ วัณโรค โรคตับอักเสบบี โรคโปลิโอ โรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน โรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อตาย เป็นต้น

แน่นอนว่าเมื่อเป็นวัคซีนพื้นฐานที่ต้องฉีดให้เด็กไทยจำนวนมาก ทำให้การนำเข้าวัคซีนจำนวนมากมีราคาถูกลง แต่ที่น่าห่วงคือมีแนวโน้มว่าต่างชาติจะหันไปผลิตวัคซีนรวมมากขึ้น โดย นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า แนวโน้มฝรั่งจะหันมาผลิตวัคซีนใหม่ๆ ที่มีราคาแพง และนำวัคซีนพื้นฐานต่างๆ มาผลิตรวมกันเป็นวัคซีนรวม เพื่อให้ง่ายต่อการฉีดวัคซีนแต่ละครั้ง เนื่องจากการผลิตวัคซีนพื้นฐานไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่การนำมารวมเป็นวัคซีนเดียวก็จะทำให้ได้ราคาแพงขึ้น ตรงนี้จะทำให้ประเทศไทยเกิดปัญหานำเข้าวัคซีนพื้นฐานได้ยากขึ้น สปสช. จึงต้องหาแหล่งวัคซีนพื้นฐานใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย คือ จีน และ อินเดีย

“แต่การนำเข้าวัคซีนจากประเทศจีนและอินเดียนั้น ทำให้หลายฝ่ายห่วงว่าแม้จะนำเข้ามาในราคาถูกก็จริง แต่อาจมีปัญหาในเรื่องของคุณภาพมาตรฐาน ดังนั้น การจะหาแหล่งผลิตวัคซีนเพื่อนำเข้าก็ต้องดูระบบการผลิต การควบคุมมาตรฐาน เพื่อความร่วมมือในระยะยาว” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช. (ซ้าย)
โดยล่าสุด พบว่าไทยได้มีการนำเข้าวัคซีนจากจีนแล้ว คือ กรมควบคุมโรค (คร.) นำเข้าวัคซีนโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็น ซึ่งผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งเมืองเฉินตู (Chengdu Institute of Biological Products) ซึ่งมีสถานะเสมือนหนึ่งรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลจีน ผ่านบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด เพื่อนำมาเป็นวัคซีนพื้นฐานตัวใหม่แทนวัคซีนโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อตาย ซึ่งมีการใช้มานานกว่า 50 ปี ตามคำแนะนำของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยนำร่องในพื้นที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) ที่ 10 ก่อน ประกอบด้วย 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน คือ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน และ พะเยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบปัญหาโรคดังกล่าวรุนแรง ในปี 2012-2014 จำนวนปีละ 2 แสนโดส โดยจะขยายพื้นที่นำร่อง สคร. เพิ่มอีก 3 เขตในปี 2015 จำนวน 6 แสนโดส งบประมาณ 120 ล้านบาท และจะขยายทั่วประเทศในปี 2016 ซึ่งจัดหาโดย สปสช.
การผลิตวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี ชนิดเชื้อ โดยโรงงานผลิตวัคซีนในสถาบันชีววัตถุแห่งเมืองเฉิงตู ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก ทางเลือกใหม่ในการนำเข้าวัคซีนพื้นฐานราคาถูก หากประเทศมหาอำนาจเลิกผลิตวัคซีนพื้นฐาน แต่หันไปผลิตวัคซีนรวมที่มีราคาแพงมากขึ้น
นพ.ประทีป เปิดเผยว่า ที่ต้องเปลี่ยนเป็นชนิดเชื้อเป็น เนื่องจากวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อตายผลิตมาจากสมองหนู ทำให้ความบริสุทธิ์ของวัคซีนอาจมีชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อสมองหนูปนติดมา หากฉีดเข้าไปอาจเกิดปฏิกิริยาทางระบบประสาทอย่างรุนแรงและเกิดอาการแทรกซ้อนทางระบบประสาท ซึ่งเคยมีรายงานจากญี่ปุ่น เดนมาร์ก และเกาหลี ของการเกิดการอักเสบของสมองและไขสันหลังอย่างเฉียบพลัน แต่วัคซีนชนิดเชื้อเป็นผลิตมาจากเซลล์ไตของหนูแฮมสเตอร์ ทำให้ไม่มีการปนของเนื้อเยื่อสมองหนู ซึ่งคิดค้นโดย ศ.นพ.หยู หย่ง ซิน สถาบันควบคุมชีวเภสัชภัณฑ์แห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีการทดลองใช้และจดทะเบียนใช้ในประเทศไปมากกว่า 600 ล้านโดส ตั้งแต่ปี 2531 เช่น จีน อินเดีย เกาหลีใต้ เนปาล เกาหลีเหนือ ศรีลังกา พม่า ลาว มาเลเซีย และ ไทย ซึ่งจากการมาศึกษาโรงงานผลิตวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็น ของสถาบันชีววัตถุแห่งเมืองเฉิงตู ก็พบว่ามีการผลิตได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลกเป็นแห่งแรกของจีน จึงมีมาตรฐานสูง และไม่มีรายงานปัญหาการฉีดวัคซีนในประเทศที่จดทะเบียนใช้
วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี ชนิดเชื้อเป็น ซึ่งผ่านกระบวนการจนเปลี่ยนจากของเหลวเป็นผง เพื่อให้เก็บรักษาได้นานขึ้น
นอกจากนี้ การฉีดยังใช้เพียง 2 เข็ม ต่างจากชนิดเชื้อตายที่ต้องฉีดถึง 3 เข็ม โดยเริ่มให้เข็มแรกเมื่ออายุ 9 เดือน และเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3 เดือน - 1 ปี ซึ่งเพียงเข็มแรกก็สามารถป้องกันโรคได้ 95% แต่เพื่อความมั่นใจ 100% จึงฉีด 2 เข็ม ซึ่งต่างจากประเทศอื่นที่ฉีดเพียงเข็มเดียว อย่างไรก็ตาม แม้การฉีด 2 เข็มจะมีราคาแพงกว่าการฉีด 3 เข็ม เพราะวัคซีนมีคุณภาพมากกว่าราคาจึงสูงกว่า ซึ่งหากคำนวนจากจำนวนเด็กไทยเกิดใหม่ปีละ 8 แสนคน ฉีดคนละ 2 เข็ม จึงต้องใช้วัคซีนโดยประมาณ 2 ล้านโดส ใช้งบประมาณ 220 ล้านบาท แต่เมื่อต้องใช้วัคซีนจำนวนมาก ก็จะสามารถต่อรองราคาวัคซีนให้ลดลงได้ รวมไปถึงหากวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอีกยี่ห้อหนึ่ง หากสามารถขึ้นทะเบียนผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ภายในปี 2016 ก็จะทำให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้น ราคาวัคซีนก็จะยิ่งถูกลงอีก

นพ.ประทีป กล่าวอีกว่า ไม่เพียงเท่านั้น หากโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ชนิดเชื้อเป็นที่จังหวัดสระบุรีขององค์การเภสัชกรรม สามารถเดินหน้าผลิตได้เมื่อไร ก็จะเป็นแหล่งผลิตวัคซีนดังกล่าวให้กับประเทศไทยได้ด้วย ราคาวัคซีนก็จะถูกลง

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่




กำลังโหลด


รุ่นพี่เทคโนฯสวนนันขอขมาอธิการบดี กรณีหยดน้ำตาเทียนใส่รุ่นน้อง ขณะที่ผลสอบวินัยสั่งลงโทษไม่ร้ายแรง ตักเตือน 23 คน ภาคทัณฑ์ 10 คน ตัดคะแนนความประพฤติอีก 10 คน

ดูบน Instagram






กำลังโหลดความคิดเห็น