ราชภัฏสวนสุนันทา สรุปผลสอบวินัยรุ่นพี่หยดน้ำตาเทียน 43 คน พบไม่มีเอี่ยว 5 คน ส่วนอีก 38 คน ลงโทษวินัยไม่ร้ายแรง โดยลงโทษตักเตือน 23 คน ภาคทัณฑ์ 10 คน และตัดคะแนนความประพฤติ 50 คะแนน 10 คน ชี้เด็กสารภาพทั้งยังเป็นเยาวชนไม่ได้มีเจตนาให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทั้งรุ่นน้องไม่ติดใจเอาความจึงควรให้โอกาสเด็ก ด้าน อธิการบดี มร.สส. ยันไม่ได้นิ่งนอนใจให้คำมั่นจะให้เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย
วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา รศ.ดร.ฤาเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) พร้อมด้วยกรรมการมหาวิทยาลัยและคณบดี ร่วมแถลงข่าวกรณีนักศึกษาสาขาเทคโนโลยีการพิมพ์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ปี 2 จัดกิจกรรมรับน้องใหม่ ด้วยการใช้น้ำตาเทียนหยดบริเวณแขนนักศึกษารุ่นน้องปี 1 ทำให้เกิดบาดแผลผุพองและปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนทุกแขนง โดยก่อนหน้านี้ ทางอธิการบดีได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและสอบวินัยนักศึกษารุ่นพี่
โดย รศ.ดร.ฤาเดช กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยขอแสดงความเสียใจต่อนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และครอบครัวได้ซึ่งถูกกระทำจนได้รับบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อทราบเรื่องก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและสอบวินัย ดูแลรักษาพยาบาลร่างกายให้หายปกติรวมทั้งเยียวยาจิตใจของนักศึกษาปี 1 คนดังกล่าว เพื่อให้กลับมาเรียนได้ตามปกติ ซึ่งขณะนี้นักศึกษาก็ได้กลับมาเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ตามปกติแล้ว ส่วนรุ่นพี่ก็ได้มีตั้งคณะกรรมการสอบวินัยและทางคณะกรรมการฯ ก็ได้มีการพิจารณาโทษตามระเบียบมหาวิทยาลัยแล้ว
“ผลการสอบสวนพบว่า รุ่นพี่ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายรุ่นน้อง ทั้งไม่ได้มีการเตรียมการล่วงหน้า และไม่ได้อาฆาตรุ่นน้อง แต่เหตุการณ์นี้เกิดจากความพลั้งพลาดและความคึกคะนอง แต่ด้วยความเป็นครูก็ได้ให้อภัย ที่ผ่านมา สังคมมีคำถามมาก ว่า ทำไมเราไม่มีการลงโทษเด็กให้รุนแรงหรือไล่ออกเลย ซึ่งผมอยากให้มองย้อนกลับในฐานะที่เป็นพ่อแม่ ถ้าพี่น้องในบ้านทะเลาะกัน พ่อแม่ก็คงไม่ไล่พี่คนโตออกจากบ้าน แต่เราต้องแก้ปัญหา ซึ่งผมรับปากจะดูแลเรื่องนี้ให้ดีที่สุดและจะให้เหตุการณ์นี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ซึ่งต่อจากนี้มหาวิทยาลัยรวมทั้งนักศึกษาทุกคนก็จะมุ่งจัดกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ที่สร้างสรรค์แก่สังคมต่อไป” รศ.ดร.ฤาเดช กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ชนนาถ มีนะนันท์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยนักศึกษา เปิดเผยว่า คณะกรรมการใช้เวลาทำการสอบสวนเป็นเวลา 3 วัน โดยสอบสวนทั้งคณบดี อาจารย์ และนักศึกษาจำนวน 43 คน พบว่า มีนักศึกษา 5 คน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว จึงเหลือนักศึกษาที่ถูกสอบสวนทั้งหมด 38 คน คณะกรรมการพิจารณาโทษโดยเห็นว่า นักศึกษากลุ่มดังกล่าวอายุไม่ถึง 20 ปี เป็นบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทั้งยังได้รับสารภาพ และผู้ถูกกระทำก็ไม่ได้ติดใจเอาความ และเพื่อให้บรรยากาศการเรียนกลับมาเป็นปกติ ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม และเพื่อเป็นการให้โอกาสผู้กล่าวหา จึงเห็นสมควรลดหย่อนโทษ ซึ่งในที่สุดแล้วคณะกรรมการจึงมีมติลงโทษนักศึกษาในความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ดังนี้ ว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษร 23 คน, ภาคทัณฑ์ 10 คน และตัดคะแนนความประพฤติกรรม 50 คะแนน จำนวน 5 คน ส่วนการสอบสวนอาจารย์ พบว่า ไม่ได้ถือเป็นการละเลย เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่อาจารย์ทำบายศรีสู่ขวัญนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว ทั้งมีอาจารย์ดูแลเหตุการณ์ 1 คน ซึ่งเมื่อทราบว่ามีเหตุการณ์หยดน้ำตาเทียน ก็ได้สั่งระงับทันที ทั้งนี้ในส่วนมาตรการป้องกันนั้น การใช้คำสั่งห้ามการรับน้อง คงไม่เพียงพอ เพราะแม้จะห้ามไม่ให้รับน้องภายในสถานที่ เด็กก็อาจหนีไปรับน้องที่อื่นได้ อย่างไรก็ตาม เท่าที่สอบถามจะพบว่าเด็กสายช่างจะมีวิธีการรับน้องที่ไม่เหมือนสาขาอื่น ดังนั้นจะมีการวิจัยเชิงลึกและหารือร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่เปิดสอนสายช่าง เพื่อหารากฐานของปัญหาและแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด
ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังจากที่ รศ.ดร.ฤาเดช แถลงข่าวแล้วนั้น รศ.ดร.ปรุงศักดิ์ อัตพุฒ คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและตัวแทนนักศึกษารุ่นพี่ที่จัดกิจกรรม นำพานธูปเทียนแพ ขอขมามหาวิทยาลัยที่ทำให้มหาวิทยาลัยเสียภาพลักษณ์ และขอขมาสังคมที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่