xs
xsm
sm
md
lg

อธิการสวนนันรับ รุ่นพี่ใช้น้ำตาเทียนหยดรับรุ่นน้องจริง “กำจร” สั่งเร่งรายงานผล ไม่ฟันเอาผิดผู้บริหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อธิการราชภัฏสวนนัน เสียใจเหตุรับน้องรุนแรงขอโทษสังคมและผู้ปกครอง รับเหตุเกิดในมหา’ลัย ลั่นเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย ชี้ นศ. ทำผิดกฎใน 2 ข้อ ทั้งรับน้องเกินช่วงเวลาที่กำหนดไว้ภายในเดือนสิงหาคม และห้ามถูกตัวรุ่นน้อง ระบุไม่มั่นใจรุ่นพี่กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวที่เคยก่อเหตุชกท้องรุ่นน้องหรือไม่ ด้าน “กำจร” จวกปัญญาชนไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้ สั่งมหา’ลัยเร่งแจง ไม่ฟันธงเอาผิดผู้บริหารขอดูรายงานผล

 
 
ตามที่มีการเผยแพร่ภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บการน้ำตาเทียนหยดใส่จนเป็นแผลพุพอง ผ่านสังคมออนไลน์และมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งใช้ชื่อว่า Aut Tra Pon ได้โพสต์ข้อความว่า “น้องผมเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา สาขาเทคโนโลยีการพิมพ์ แล้วโดนรุ่นพี่รับน้องแบบป่าเถื่อนมาก แล้วพอไปสอบถามอาจารย์กับได้คำตอบที่ ดีมาก ว่ามันเป็นการ รับน้องของรุนพี่กับ รุนน้อง ที่ทำต่อๆ กันมา แล้วเค้าก็บอกว่าได้เรียก รุนพี่มาตักเตือนแล้ว ถ้าเป็นลูกเป็นหลาน คุณบ้างละ คุณคงไม่อยู่เฉยๆ แน่นอน ผมกับครอบครัวคงไม่ ปล่อยให้เรื่องนี้ จบลงแบบง่ายๆ แน่นอนผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด มันจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์นี้กับใครอีกลบกวนขอความเห็นใจช่วยกันแชร์ทีนะคับ เหตุการณ์แบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นกับน้องคนอื่นๆ อีก “ผมไม่อยากให้เรื่องนี้มัน เงียบหายไปจากพี่ผมไปสอบถามคุณพ่อ คุณแม่ของเด็กบางคนเค้าก็กลัวไม่ก้าไปแจ้งความเพราะกลัวลูก จะถูกรุ่นพี่ทำร้าย ละบางคนก็ไม่มีเวลาพาลูกไปแจ้งความ เพราะความจนงานก็หยุดไม่ได้จะนั่งรถ ไปแต่ละทีค่ารถก็หลายร้อยบาท มันคงจะดูเป็น เงินไม่เยอะสำหรับคน รวย แต่มันเยอะมากนะคับสำหรับคน จนๆ กับการที่ต้องมานั่งลางานแล้วหาเงินค่า รถไปแจ้งความกับการกระทำสิ้นคิดของพวกคุณ”
 
โดย รศ.ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนสุนันทา (มร.สส.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตนรับทราบเรื่องดังกล่าว และได้มอบให้คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และทางคณะฯ ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า มีรุ่นพี่จำนวนหนึ่งจัดกิจกรรมรับน้อง และได้กระทำการโดยใช้น้ำตาเทียบหยดใส่แขนรุ่นน้องจริง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ทราบว่ามีรุ่นพี่ที่กระทำดังกล่าวทั้งหมดกี่คน และยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจและจะดำเนินการสอบสวนให้ถึงที่สุด และจะทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ต่อไป
 
“รู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องขออภัยต่อทั้งผู้ปกครองและนักศึกษาที่ถูกกระทำ และจะดำเนินการทุกวิถีทางให้เรื่องยุติและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่านักศึกษารุ่นพี่มีความผิดจริง โดยผิดใน 2 กรณี คือ 1. เป็นการจัดกิจกรรมรับน้องเกินขอบเขตเวลาที่กำหนด ตามประกาศการจัดกิจกรรมรับน้องของ มร.สส. ที่กำหนดให้ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ส.ค. แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา 2. การจัดกิจกรรมรับน้อง รุ่นพี่ต้องห้ามแตะต้องตัวรุ่นน้อง อีกทั้งหากนักศึกษารุ่นพี่ชุดนี้เป็นชุดเดียวกับที่เคยถูกพ่อแม่ผู้ปกครองร้องเรียนว่ามีการต่อยท้องรุ่นน้องเมื่อจัดกิจกรรมรับน้องก่อนหน้านี้ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ตักเตือน ลงโทษโดยภาคทัณฑ์บนไปแล้ว หากเป็นชุดเดียวกันก็จะลงโทษโดยพักการเรียน ตามระเบียบสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2548 รวมทั้งต้องไปขอโทษคู่กรณีอย่างเป็นทางการ เพราะถือเป็นการผิดทางวินัยและเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และหากทางพ่อแม่ผู้ปกครองได้ไปแจ้งความก็ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย”อธิการบดีมร.สส.กล่าว
 
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ทางมหาวิทยาลัยรายงานผลที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร เกิดความบกพร่องในส่วนไหน เพราะที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้กำชับไปมหาวิทยาลัยทั่วประเทศแล้วให้ดูแลเรื่องการรับน้องอย่างใกล้ชิด และจะต้องไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก และหากเรื่องนี้เป็นจริงมหาวิทยาลัยจะต้องดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิด เพราะมหาวิทยาลัยมีระเบียบในการลงโทษนักศึกษาที่ทำผิดวินัยอยู่แล้ว ส่วนผู้เสียหายจะไปแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมาย ก็สามารถกระทำได้เพราะเป็นสิทธิ์และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การจะลงโทษผู้บริหารมหาวิทยาลัยหรือไม่นั้นต้องขอดูผลการรายงานก่อนว่าเป็นอย่างไร หากผิดก็จะต้องถูกลงโทษเช่นกัน
 
“จากสภาพของนักศึกษาที่ถูกกระทำถือว่าเป็นการถูกประทุษร้าย เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าน้ำตาเทียนร้อน และหากถูกจะเกิดผลอะไรตามมา และการกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นด้วย ส่วนที่ว่าเป็นประเพณีเคยทำกันต่อมานั้นผมถามว่าทำไปเพื่ออะไร ถ้าคิดว่าตัวเองเคยถูกทำเช่นนี้แล้วจะต้องมาทำคนอื่นต่อไม่ใช่เหตุผล ปัญญาชนเค้าไม่ทำกัน ประเพณีที่ไม่ดีก็ไม่ควรที่จะต้องทำตาม อย่างไรก็ตามหากผลออกมาว่าตั้งใจกระทำผิดต้องลงโทษให้เด็ดขาด” รศ.นพ.กำจร กล่าว



ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น