“ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ใช้ระบบประกันสุขภาพภาพบังคับประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้จะต้องจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพให้กับบริษัทประกันเอกชนที่ตนเลือกเอง แต่ที่ผ่านมาชาวสวิตฯต้องจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพที่แพงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ”
www.hfocus.org : ถึงแม้ว่าระบบประกันสุขภาพของประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะได้รับการจัดอันดับว่าเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ระบบดังกล่าวก็ยังคงมีจุดอ่อนอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงมีการตั้งคำถามที่ว่า ประเทศนี้ควรหันมาใช้ระบบประกันสุขภาพแบบกองทุนเดียวหรือไม่ ทั้งนี้ การนำรูปแบบประกันสุขภาพที่ใช้อยู่ไปเปรียบเทียบกับระบบประกันสุขภาพในประเทศต่างๆ อาจทำให้เห็นมุมมองแตกต่างที่น่าสนใจ
ระบบประกันสุขภาพของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นระบบที่มีความเสมอภาคโดยมีประชาชนเป็นผู้ชี้นำตลาด แม้จะบังคับให้ประชาชนทุกคนต้องมีประกันสุขภาพ แต่ประชาชนผู้เอาประกันก็มีเสรีภาพในการเลือกทำประกันสุขภาพกับบริษัทเอกชนที่มีให้เลือกมากกว่า 60 บริษัท รูปแบบการดำเนินงานในลักษณะนี้สามารถเป็นต้นแบบให้แก่ประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่นานมานี้ได้มีการปฏิรูประบบประกันสุขภาพครั้งใหญ่ภายใต้กฎหมายที่สร้างความขัดแย้งภายในประเทศอย่าง Affordable Care Act ซึ่งเป็นกฏหมายประกันสุขภาพที่รู้จักกันในชื่อ “โอบามาแคร์” (Obamacare)
แม้จะเป็นประเทศต้นแบบของระบบประกันสุขภาพดังกล่าว แต่ล่าสุด ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กำลังพิจารณาที่จะปฏิรูปไปเป็นระบบประกันสุขภาพแบบกองทุนเดียวซึ่งดำเนินงานโดยรัฐ และกำลังจะจัดให้มีการลงประชามติเพื่อรับรองข้อเสนอดังกล่าวในวันที่ 28 กันยายน 2557 ที่จะถึงนี้
จากรายงานผลการศึกษาของกองทุนคอมมอนเวลธ์ มูลนิธิเอกชนที่ส่งเสริมให้มีการพัฒนาระบบสาธารณสุขในสหรัฐฯ ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ระบุว่า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีผลดำเนินงานด้านระบบประกันสุขภาพที่ดีกว่าประเทศพัฒนาแล้วอีก 9 ประเทศที่เข้าร่วมการสำรวจ
ในปัจจุบัน ระบบประกันสุขภาพของสวิตเซอร์แลนด์ ถูกจัดให้เป็นระบบสุขภาพที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากระบบสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร ซึ่งพิจารณาจากความทันต่อเวลาในการรับรู้ปัญหาสุขภาพเป็นข้อแรก ตามมาด้วยความสะดวกในการเข้าถึงบริการตรวจรักษา ความเท่าเทียมของการบริการและการดูแลโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
.... คำถามคือ ในเมื่อระบบสุขภาพของสวิตเซอร์แลนด์ดีอยู่แล้ว ทำไมจึงต้องปฏิรูปอีก ?
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hfocus.org
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)