วธ.ทุ่มงบ 20 ล้านสร้างภาพยนตร์เผยแพร่วัฒนธรรมไทย เล็งทาบทามดาราจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ร่วมแสดง ฉายอาเซียน ซีเอ็นเอ็น บีบีซี เปิดตัวสารคดี 10 เมืองน่าสนใจปลายปีนี้
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมภาพยนตร์แห่งชาติ และการท่องเที่ยว สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ผู้กำกับภาพยนตร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้นำนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดำเนินการจัดสร้างภาพยนตร์เพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของประเทศไทยมาหารือ ซึ่งที่ประชุมได้สรุปจัดสร้างภาพยนตร์ 3 ประเภท ได้แก่ 1.ภาพยนตร์สารคดี ความยาว 7 นาที จะแล้วเสร็จธ.ค.นี้ 2. จัดประกวดผลงานภาพยนตร์ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปส่งผลงานสารคดีความยาว 3- 5 นาที และจะคัดเลือกนำมาจัดฉายช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 และ 3. จัดสร้างภาพยนตร์เรื่องยาว โดยตั้งเป้าจัดฉายโรงภาพยนตร์ในประเทศเอเชีย ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทาบทามตัวนักแสดงทั้งจากจีน เกาหลี และญี่ปุ่น คาดว่าจะแล้วเสร็จ เม.ย.58
“เนื้อหาของภาพยนตร์สารคดี การประกวด และภาพยนตร์เรื่องยาว จะครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรม และภาพลักษณ์ของประเทศ เผยแพร่ไปในต่างประเทศ ในโอกาสต่างๆ รวมทั้งในสื่อสาธารณะ และสื่อโซเซียลมีเดีย อาทิ ยูทูป เฟสบุ๊ค รวมไปถึงอาจได้รับการเผยแพร่ระดับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น บีบีซี ด้วย โดยมอบหมายให้สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ จะคัดเลือกโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ ซึ่งการทำงานจะไม่ซ้ำซ้อนกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะต่างกันที่เนื้อหาการเดินเรื่องที่จะเน้นความเป็นวิถีวัฒนธรรมเบื้องต้นใช้ตั้งงบปี 2557 จัดสร้างไว้ 20 ล้านบาท" นายวีระ กล่าว
ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ภาพยนตร์เหล่านี้ จะปรับให้เป็นภาษาอังกฤษด้วย มีการใช้ภาษากาย หรือภาษาการแสดงที่จะทำให้คนต่างชาติ ต่างภาษา สื่ออารมณ์ให้ดูแล้วเข้าใจได้ง่าย เพราะถ้าเนื้อหาภาพยนตร์มีความเป็นสากล ก็อาจจะได้รับความสนใจจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่างซีเอ็นเอ็น บีบีซี
ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัด วธ. กล่าวว่า จากการหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และททท. ได้เน้นถึงการผลิตสารคดีโดยเน้นไปในพื้นที่เมืองรอง ที่ ททท. ได้จัดทำรายชื่อไว้ 10 จังหวัด อาทิ ได้แก่ ลำปาง เลย บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ จันทรบุรี สมุทรสงคราม ตราด ชุมพร ตรัง และราชบุรี โดยเมื่อจัดสร้างแล้วเสร็จทาง ททท.จะไปจัดหาตลาดเผยแพร่ต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมภาพยนตร์แห่งชาติ และการท่องเที่ยว สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ผู้กำกับภาพยนตร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้นำนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดำเนินการจัดสร้างภาพยนตร์เพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของประเทศไทยมาหารือ ซึ่งที่ประชุมได้สรุปจัดสร้างภาพยนตร์ 3 ประเภท ได้แก่ 1.ภาพยนตร์สารคดี ความยาว 7 นาที จะแล้วเสร็จธ.ค.นี้ 2. จัดประกวดผลงานภาพยนตร์ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปส่งผลงานสารคดีความยาว 3- 5 นาที และจะคัดเลือกนำมาจัดฉายช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 และ 3. จัดสร้างภาพยนตร์เรื่องยาว โดยตั้งเป้าจัดฉายโรงภาพยนตร์ในประเทศเอเชีย ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทาบทามตัวนักแสดงทั้งจากจีน เกาหลี และญี่ปุ่น คาดว่าจะแล้วเสร็จ เม.ย.58
“เนื้อหาของภาพยนตร์สารคดี การประกวด และภาพยนตร์เรื่องยาว จะครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรม และภาพลักษณ์ของประเทศ เผยแพร่ไปในต่างประเทศ ในโอกาสต่างๆ รวมทั้งในสื่อสาธารณะ และสื่อโซเซียลมีเดีย อาทิ ยูทูป เฟสบุ๊ค รวมไปถึงอาจได้รับการเผยแพร่ระดับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น บีบีซี ด้วย โดยมอบหมายให้สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ จะคัดเลือกโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ ซึ่งการทำงานจะไม่ซ้ำซ้อนกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะต่างกันที่เนื้อหาการเดินเรื่องที่จะเน้นความเป็นวิถีวัฒนธรรมเบื้องต้นใช้ตั้งงบปี 2557 จัดสร้างไว้ 20 ล้านบาท" นายวีระ กล่าว
ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ภาพยนตร์เหล่านี้ จะปรับให้เป็นภาษาอังกฤษด้วย มีการใช้ภาษากาย หรือภาษาการแสดงที่จะทำให้คนต่างชาติ ต่างภาษา สื่ออารมณ์ให้ดูแล้วเข้าใจได้ง่าย เพราะถ้าเนื้อหาภาพยนตร์มีความเป็นสากล ก็อาจจะได้รับความสนใจจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่างซีเอ็นเอ็น บีบีซี
ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัด วธ. กล่าวว่า จากการหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และททท. ได้เน้นถึงการผลิตสารคดีโดยเน้นไปในพื้นที่เมืองรอง ที่ ททท. ได้จัดทำรายชื่อไว้ 10 จังหวัด อาทิ ได้แก่ ลำปาง เลย บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ จันทรบุรี สมุทรสงคราม ตราด ชุมพร ตรัง และราชบุรี โดยเมื่อจัดสร้างแล้วเสร็จทาง ททท.จะไปจัดหาตลาดเผยแพร่ต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่