ท่าเรือแหลมฉบัง จัดกิจกรรมเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในท่าเรือ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง จัดกิจกรรมเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ท่าเรือแหลมฉบัง ครั้งที่ 1 ดูแลทุกชีวิตในท่าเรือ และประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ

วันนี้ (26 ส.ค.) ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็นประธานการเปิดกิจกรรม “เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย” สำหรับกท่าเรือแหลมฉบัง บริษัท ตลอดจนประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบท่าเรือ โดยตัวแทนมีบริษัทในท่าเรือแหลมฉบัง และตัวแทนประชาชนรอบท่าเรือร่วมงานกว่า 100 คน

ร.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและการจราจร (สนข.) จัดประชุมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนป้องกันอุบัติเหตุ แนวทางการแก้ไข และการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยเพิ่มเติมตลอดทั้งปีแบบต่อเนื่องให้เห็นเป็นรูปธรรมนั้น การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้จัดทำแผนป้องกันอุบัติเหตุ แนวทางแก้ไขและการณรงค์ขับขี่ปลอดภัย

พร้อมทั้งได้ทำส่ง สนข.แล้ว และเพื่อให้เป็นไปตามแผน ทางท่าเรือจึงจัดกิจกรรมเสวนาโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตภายในการท่าเรือแหลมฉบัง บริษัทต่างๆ ตลอดจนประชาชนโดยรอบท่าเรือ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องความปลอดภัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแก่บุคลากรท่าเรือแหลมฉบัง บริษัท ตลอดจนประชาชน และเพื่อรณรงค์ให้เกิดจิตสำนึกด้านวัฒนธรรมความปลอดภัย

ทั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมบรรยายเกี่ยวกับการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ด้วยหลัก SHE และ Happy Workplace : Humanization การจัดเสวนาแลกเปลี่ยนมุมอง ประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมความปลอดภัย กิจกรรมสันทนาการ และนิทรรศการวัฒนธรรมความปลอดภัย

ร.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ท่าเรือได้คำนึงถึงเรื่อง Safety First หรือปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งถือเป็นหัวใจของการทำงานที่หน่วยงานต่างๆ ต้องให้ความสำคัญ เพราะสถานที่ทำงานที่มีความปลอดภัย นอกจากจะช่วยลดปัญหาความรุนแรงของอุบัติเหตุ ยังทำให้พนักงานมีความอุ่นใจขณะปฏิบัติหน้าที่ ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิต แนวคิดที่จะนำ SHE มาปรับใช้ จึงน่าจะเหมาะสมต่อจัดกิจกรรมเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย โดยเน้นพัฒนาสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงาน และการใช้อุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน บนพื้นฐานความปลอดภัยของพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับการจัดทำ ISO, HACCP และ GAP ต่างกันที่วัตถุประสงค์การใช้งานที่ไม่เหมือนกัน เช่น ISO14000 เน้นเรื่องมาตรฐานการจัดการระบบสิ่งแวดล้อม ขณะที่ HACCP เป็นเรื่องของระบบการวิเคราะห์อันตราย และจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร และ GAP คือ ระบบการผลิตพืชที่ดี และเหมาะสม แต่ส่วนสำคัญที่เครื่องมือการจัดการทุกชนิดต้องมี และถือเป็นเรื่องเคร่งครัดที่ต้องปฏิบัติ คือ การจดบันทึกข้อมูล และจัดทำระบบเอกสารในทุกขั้นตอนการทำงานให้ถูกต้อง เพื่อนำใช้วิเคราะห์ และประเมินผลการดำเนินการว่ามีประสิทธิภาพดีพอหรือไม่

ส่วนองค์กรแห่งความสุขนั้น คนในองค์กรทุกฝ่ายต้องมีความพึงพอใจ และตั้งใจทำงาน สถานที่ทำงานมีบรรยากาศเกื้อหนุนให้บุคลากรมีสุขภาพดี และทุกคนในองค์กรทำงานร่วมกันอย่างสมานฉันท์ มีกระบวนการที่เน้นสุขภาวะของคนทำงานในองค์กร หลักการที่สำคัญ คือ ความสำเร็จของภารกิจ ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของบุคคลทุกฝ่าย ความสุขของทุกคน เนื่องจากคำว่าองค์กรแห่งความสุข มีลักษณะเป็นนามธรรมการอธิบาย จึงต้องเชื่อมโยงสู่ชีวิตของคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกันในองค์กร