ก.แรงงาน ร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้องตั้งทีมติดตาม ตรวจสอบปัญหาแรงงานต่างด้าวพื้นที่ กทม. จี้นายจ้างเร่งขึ้นทะเบียนต่างด้าวก่อนหมดเขต ขู่ตรวจพบเอาผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ขณะที่ยอดแรงงานต้างด้าวทั่วประเทศขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 1.1 ล้านคน
วันนี้ (18 ก.ย.) นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังประชุมติดตามคณะทำงานติดตามและตรวจสอบการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ กรุงเทพมหานคร ว่า ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้งทีมติดตามและตรวจสอบการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ในพื้นที่เขต กทม. ขึ้น ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผอ.เขต กทม. ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลในแต่ละพื้นที่ ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) จัดหางานเขต พัฒนาสังคมและสวัสดิการพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบว่า นายจ้าง สถานประกอบการใด ที่ยังไม่นำแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนตามประกาศของ คสช. รวมทั้งติดตามและช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับ ซึ่งจะเป็นการแบ่งตามเขตการดูแลตามพื้นที่ที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานเพื่อความคล่องตัวและชำนาญพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบอยู่แล้ว โดยที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุปัญหาแรงงานต่างด้าว ค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับขึ้นด้วย โดยเบื้องต้นจะใช้สายด่วน 1694 ของกรมการจัดหางาน (กกจ.) ในการรับเรื่องร้องเรียน และจะรวบรวมข้อมูลการร้องเรียนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ของกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายจีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ จะเร่งเซ็นอนุมัติคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ก่อนสิ้นเดือน ก.ย. นี้ และสามารถดำเนินการได้ทันที โดยหากตรวจพบว่านายจ้างใน กทม. รายใด ยังไม่นำลูกจ้างต่างด่าวมาขึ้นทะเบียน จะแนะนำให้นำลูกจ้างมาขึ้นทะเบียน ตามเวลาที่กำหนดภายในวันที่ 31 ต.ค. หลังจากนั้น หากยังพบว่ายังไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับนายจ้าง โดยมีโทษปรับ 1 หมื่น ถึง 1 แสนบาทต่อลูกจ้าง 1 ราย รวบทั้งจะมีโทษตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ฐานให้ที่พักพิงแก่คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และหากเป็นการกระทำผิดกรณีการค้ามนุษย์ก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศก็จะมีการตั้งคณะกรรมการฯ เช่นกันโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
ส่วนการการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว (วันสตอปเซอร์วิส) ทั่วประเทศ ที่เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน - 17 กันยายน 2557 ขณะนี้มีนายจ้างจำนวน 213,545 ราย พาแรงงานเพื่อนบ้านและผู้ติดตาม 3 สัญชาติ ไปจดทะเบียนแล้วจำนวน 1,122,493 คน นี้แยกเป็นแรงงานจำนวน 1,056,738 คน ผู้ติดตามแรงงาน 65,755 คน โดยเป็นสัญชาติกัมพูชามากที่สุด จำนวน 494,996 คน เป็นแรงงานจำนวน 467,095 คน ผู้ติดตาม จำนวน 27,901 คน รองลงมาเป็นสัญชาติพม่า 452,354 คน เป็นแรงงานจำนวน 422,164 คน ผู้ติดตามจำนวน 30,190 คน และสัญชาติลาว จำนวน 175,143 คน เป็นแรงงานจำนวน 167,479 คน ผู้ติดตามจำนวน 7,664 คน ซึ่งเมื่อหมดเขตการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว วันที่ 31 ต.ค. ที่จะถึงนี้ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จะออกหนังสือถึงนายจ้างแจ้งให้พาแรงงานต่างด้าวไปดำเนินการพิสูจน์สัญชาติตามรายละเอียดที่แจ้งไว้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (18 ก.ย.) นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังประชุมติดตามคณะทำงานติดตามและตรวจสอบการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ กรุงเทพมหานคร ว่า ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้งทีมติดตามและตรวจสอบการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ในพื้นที่เขต กทม. ขึ้น ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผอ.เขต กทม. ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลในแต่ละพื้นที่ ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) จัดหางานเขต พัฒนาสังคมและสวัสดิการพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบว่า นายจ้าง สถานประกอบการใด ที่ยังไม่นำแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนตามประกาศของ คสช. รวมทั้งติดตามและช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับ ซึ่งจะเป็นการแบ่งตามเขตการดูแลตามพื้นที่ที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานเพื่อความคล่องตัวและชำนาญพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบอยู่แล้ว โดยที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุปัญหาแรงงานต่างด้าว ค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับขึ้นด้วย โดยเบื้องต้นจะใช้สายด่วน 1694 ของกรมการจัดหางาน (กกจ.) ในการรับเรื่องร้องเรียน และจะรวบรวมข้อมูลการร้องเรียนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ของกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายจีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ จะเร่งเซ็นอนุมัติคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ก่อนสิ้นเดือน ก.ย. นี้ และสามารถดำเนินการได้ทันที โดยหากตรวจพบว่านายจ้างใน กทม. รายใด ยังไม่นำลูกจ้างต่างด่าวมาขึ้นทะเบียน จะแนะนำให้นำลูกจ้างมาขึ้นทะเบียน ตามเวลาที่กำหนดภายในวันที่ 31 ต.ค. หลังจากนั้น หากยังพบว่ายังไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับนายจ้าง โดยมีโทษปรับ 1 หมื่น ถึง 1 แสนบาทต่อลูกจ้าง 1 ราย รวบทั้งจะมีโทษตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ฐานให้ที่พักพิงแก่คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และหากเป็นการกระทำผิดกรณีการค้ามนุษย์ก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศก็จะมีการตั้งคณะกรรมการฯ เช่นกันโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
ส่วนการการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว (วันสตอปเซอร์วิส) ทั่วประเทศ ที่เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน - 17 กันยายน 2557 ขณะนี้มีนายจ้างจำนวน 213,545 ราย พาแรงงานเพื่อนบ้านและผู้ติดตาม 3 สัญชาติ ไปจดทะเบียนแล้วจำนวน 1,122,493 คน นี้แยกเป็นแรงงานจำนวน 1,056,738 คน ผู้ติดตามแรงงาน 65,755 คน โดยเป็นสัญชาติกัมพูชามากที่สุด จำนวน 494,996 คน เป็นแรงงานจำนวน 467,095 คน ผู้ติดตาม จำนวน 27,901 คน รองลงมาเป็นสัญชาติพม่า 452,354 คน เป็นแรงงานจำนวน 422,164 คน ผู้ติดตามจำนวน 30,190 คน และสัญชาติลาว จำนวน 175,143 คน เป็นแรงงานจำนวน 167,479 คน ผู้ติดตามจำนวน 7,664 คน ซึ่งเมื่อหมดเขตการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว วันที่ 31 ต.ค. ที่จะถึงนี้ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จะออกหนังสือถึงนายจ้างแจ้งให้พาแรงงานต่างด้าวไปดำเนินการพิสูจน์สัญชาติตามรายละเอียดที่แจ้งไว้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
