รพ.ชำนิ โชว์เทคนิค “เขย่าอม กดพร้อมดูด กลั้นแล้วกลั้ว” 5 ขั้นตอนช่วยผู้ป่วยโรคหืดใช้ยาพ่นได้ผล คุมอาการหอบหืดได้เอง ช่วยผู้ป่วยร้อยละ 70 ไม่ต้องไปพ่นยาที่โรงพยาบาล ลดอัตราการนอนรักษาตัวร้อยละ 92 ลดเสี่ยงเสียชีวิตจากการใช้ยาไม่ถูกวิธี
ภญ.ภัทรจิตรา สมานชาติ เภสัชกรประจำ รพ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้นำเสนอผลงานวิชาการ ด้านสาขาเภสัชกรรมเรื่อง “เขย่าอม กดพร้อมดูด กลั้นแล้วกลั้ว” ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2557 ว่า ในรอบ 3 ปี รพ.ชำนิ มีผู้ป่วยโรคหืดมารับบริการในคลินิกโรคหืด 76 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน อายุเฉลี่ย 41 ปี เป็นหญิงมากกว่าชาย ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง และเกษตรกร ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักไม่ไปพบแพทย์ตามนัด เนื่องจากไม่สะดวกในการเดินทาง และไม่ใส่ใจการดูแลตัวเอง เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกไปเยี่ยมบ้านก็ไม่พบ และจากการศึกษาการใช้ยาพ่นขยายหลอดลมเองที่บ้านเมื่อเกิดอาการเฉียบพลัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังใช้ยาพ่นไม่ถูกวิธีเช่น ผู้ป่วยมักจะไม่กลั้นลมหายใจ ไม่บ้วนปาก ไม่กลั้วคอ พ่นยาติดกันหลายครั้งโดยไม่เว้นช่วง ทำให้การรักษาไม่ได้ผล เนื่องจากละอองยาไม่เข้าที่หลอดลม ทำให้เกิดผลเสีย และเสี่ยงเสียชีวิตสูง
ภญ.ภัทรจิตรา กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหอบหืดให้สามารถพ่นยาได้ถูกวิธี และสามารถดูแลตัวเองได้ในภาวะฉุกเฉินที่เกิดอาการอย่างเฉียบพลัน ทีมเภสัชกรได้ร่วมกับทีมสหวิชาชีพของ รพ.ชำนิ คิดค้นเทคนิค 5 ขั้นตอนให้ผู้ป่วยโรคหืดสามารถนำไปใช้ได้ คือ “เขย่าอม กดพร้อมดูด กลั้นแล้วกลั้ว” มี 5 ขั้นตอนคือ 1. ให้เขย่าตัวยาพ่น เพื่อให้ยากระจายทั่วกระบอกยา 2. ให้ผู้ป่วยใช้ริมฝีปากอมปากหลอดพ่นยาให้สนิท 3. ให้ผู้ป่วยสูดยา ไปพร้อมๆ กันกับการกดกระบอกยา เพื่อให้ละอองยา กระจายลงไปสู่หลอดลมได้อย่างเต็มที่ 4. กลั้นลมหายใจสักระยะ และ 5. กลั้วยาที่พ่นเข้าไป เพื่อให้ละอองยาได้ไหลลงสู่หลอดลมได้อย่างเต็มที่ โดยการสอนผู้ป่วยจะสอนตัวต่อตัว และให้ฝึกทำต่อหน้าทุกครั้งที่มารับบริการ
“ผลการดำเนินการในรอบ 3 ปีนี้ พบว่าได้ผลดี ผู้ป่วยที่ได้รับยาพ่น สามารถนำไปพ่นยาเองได้อย่างถูกต้อง สามารถควบคุมอาการได้ผลดี ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ถึงร้อยละ 70 ของผู้ป่วยโรคหืดทั้งหมด สามารถลดปัญหาที่เกิดจากการใช้ยาได้จาก 47 ครั้ง เหลือเพียง 11 ครั้ง ทำให้ลดอัตราการนอนโรงพยาบาลได้ ถึงร้อยละ 92 และช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย” ภญ.ภัทรจิตรา กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ภญ.ภัทรจิตรา สมานชาติ เภสัชกรประจำ รพ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้นำเสนอผลงานวิชาการ ด้านสาขาเภสัชกรรมเรื่อง “เขย่าอม กดพร้อมดูด กลั้นแล้วกลั้ว” ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2557 ว่า ในรอบ 3 ปี รพ.ชำนิ มีผู้ป่วยโรคหืดมารับบริการในคลินิกโรคหืด 76 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน อายุเฉลี่ย 41 ปี เป็นหญิงมากกว่าชาย ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง และเกษตรกร ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักไม่ไปพบแพทย์ตามนัด เนื่องจากไม่สะดวกในการเดินทาง และไม่ใส่ใจการดูแลตัวเอง เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกไปเยี่ยมบ้านก็ไม่พบ และจากการศึกษาการใช้ยาพ่นขยายหลอดลมเองที่บ้านเมื่อเกิดอาการเฉียบพลัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังใช้ยาพ่นไม่ถูกวิธีเช่น ผู้ป่วยมักจะไม่กลั้นลมหายใจ ไม่บ้วนปาก ไม่กลั้วคอ พ่นยาติดกันหลายครั้งโดยไม่เว้นช่วง ทำให้การรักษาไม่ได้ผล เนื่องจากละอองยาไม่เข้าที่หลอดลม ทำให้เกิดผลเสีย และเสี่ยงเสียชีวิตสูง
ภญ.ภัทรจิตรา กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหอบหืดให้สามารถพ่นยาได้ถูกวิธี และสามารถดูแลตัวเองได้ในภาวะฉุกเฉินที่เกิดอาการอย่างเฉียบพลัน ทีมเภสัชกรได้ร่วมกับทีมสหวิชาชีพของ รพ.ชำนิ คิดค้นเทคนิค 5 ขั้นตอนให้ผู้ป่วยโรคหืดสามารถนำไปใช้ได้ คือ “เขย่าอม กดพร้อมดูด กลั้นแล้วกลั้ว” มี 5 ขั้นตอนคือ 1. ให้เขย่าตัวยาพ่น เพื่อให้ยากระจายทั่วกระบอกยา 2. ให้ผู้ป่วยใช้ริมฝีปากอมปากหลอดพ่นยาให้สนิท 3. ให้ผู้ป่วยสูดยา ไปพร้อมๆ กันกับการกดกระบอกยา เพื่อให้ละอองยา กระจายลงไปสู่หลอดลมได้อย่างเต็มที่ 4. กลั้นลมหายใจสักระยะ และ 5. กลั้วยาที่พ่นเข้าไป เพื่อให้ละอองยาได้ไหลลงสู่หลอดลมได้อย่างเต็มที่ โดยการสอนผู้ป่วยจะสอนตัวต่อตัว และให้ฝึกทำต่อหน้าทุกครั้งที่มารับบริการ
“ผลการดำเนินการในรอบ 3 ปีนี้ พบว่าได้ผลดี ผู้ป่วยที่ได้รับยาพ่น สามารถนำไปพ่นยาเองได้อย่างถูกต้อง สามารถควบคุมอาการได้ผลดี ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ถึงร้อยละ 70 ของผู้ป่วยโรคหืดทั้งหมด สามารถลดปัญหาที่เกิดจากการใช้ยาได้จาก 47 ครั้ง เหลือเพียง 11 ครั้ง ทำให้ลดอัตราการนอนโรงพยาบาลได้ ถึงร้อยละ 92 และช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย” ภญ.ภัทรจิตรา กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่