รพ.ราษีไศล ศึกษาพบนวดสายราชสำนัก ร่วมประคบสมุนไพร 3 ครั้งต่อสัปดาห์ช่วยลดอาการปวดไมเกรนลงได้ ช่วยระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ย้ำแก้ตรงสาเหตุ ไม่ต้องกินยา
วันนี้ (11 ก.ย.) นายอิทธิพล ตาอุด แพทย์แผนไทย ประจำโรงพยาบาลราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เสนอผลการศึกษาเรื่อง “การศึกษาประสิทธิผลการนวดไทยสายราชสำนัก ร่วมกับการประคบสมุนไพรต่อการลดความเจ็บปวดของโรคลมตะกัง หรือ โรคไมเกรน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย” ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2557 ว่า สภาพสังคมปัจจุบันและเศรษฐกิจมีการแข่งขันสูง ส่งผลให้เกิดความเครียด โดยเฉพาะโรคไมเกรน หรือโรคลมตะกัง ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทที่แฝงมากับความเครียดและพบได้บ่อย มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตมาก เพราะจะปวดศีรษะเป็นๆ หายๆ ปวดตึง ร้าวไปที่บริเวณกล้ามเนื้อรอบๆ กะโหลกศีรษะ หน่วงที่บริเวณขมับ และมีอาการอื่นร่วมด้วย ได้แก่ ตามัว มองเห็นภาพซ้อน อาการปวดมีความรุนแรงแตกต่างกัน
นายอิทธิพล กล่าวว่า จากการศึกษาวิธีการบำบัดรักษาผู้ป่วยไมเกรนด้วยการนวดไทยสายราชสำนัก ร่วมกับการประคบสมุนไพร ที่ไม่ได้รับการรักษาด้วยยาและไปรับบริการที่ รพ.ราษีไศล จำนวน 30 คน ตั้งแต่ ธ.ค. 2556 - เม.ย. 2557 ใช้เวลาเพียง 45 นาทีต่อครั้ง แบ่งเป็นนวด 30 นาที และประคบสมุนไพรอีก 15 นาที ทำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ วันเว้นวัน จากการประเมินผลพบว่าได้ผลดี อาการปวดทุเลาขึ้น ก่อนนวดผู้ป่วยมีค่าเฉลี่ยความเจ็บปวดอยู่ที่ 6.07 คะแนน จาก 10 คะแนน แต่หลังจากนวดในครั้งที่ 3 ค่าเฉลี่ยความเจ็บปวดลดลงเหลือ 3.63 คะแนน ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น อาการปวดศีรษะลดลงมาก ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
“จุดเด่นของศาสตร์การแพทย์แผนไทย เป็นศาสตร์ที่เริ่มดูแลรักษาตัวเองที่ต้นเหตุมากกว่าปลายเหตุ เน้นรักษาแบบองค์รวม ไม่เน้นรักษาตามอาการ เนื่องจากหากสามารถรักษากำจัดต้นเหตุหมดไป อาการของโรคก็จะหายขาดหรือลดลงไปด้วย การบำบัดรักษาโดยใช้การนวดราชสำนัก ควบคู่กับการประคบลูกประคบสมุนไพร จึงเป็นทางเลือกของการรักษาผู้ป่วยโรคไมเกรน ค่ารักษาประมาณครั้งละ 200 บาท และไม่ต้องกินยา” นายอิทธิพล กล่าว
นายอิทธิพล กล่าวว่า สูตรในการนวดแบบราชสำนักเพื่อบำบัดอาการปวดไมเกรนนั้น จะเน้นจุดนวดสำคัญ 8 จุด ได้แก่ 1. นวดพื้นฐานหลัง 2. นวดพื้นฐานแขนด้านนอก 3. นวดพื้นฐานแขนด้านใน 4. นวดพื้นฐานบ่า 5. กดจุดสัญญาณหลัง 6. กดจุดสัญญาณหัวไหล่ 7. นวดเส้นโค้งคอ และ 8. กดจุดสัญญาณที่ศีรษะด้านหลัง และการประคบร้อนจากลูกประคบสมุนไพรจะช่วยทำให้อาการดีขึ้น เพราะความร้อนจากสมุนไพรช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว คลายความเจ็บปวดลงได้ โดยประคบเป็นเวลา 15 นาที ทั้งนี้ โรงพยาบาลราษีไศลได้ผลิตลูกประคบสมุนไพรเองด้วย มีส่วนผสมสมุนไพร 8 ชนิด ได้แก่ ไพล ขมิ้นชัน ผิวมะกรูด ใบมะขาม ตะไคร้ ใบหนาด เกลือ และ การบูร
สำหรับการนวดไทยจะมี 2 แบบ คือ นวดแบบเชลยศักดิ์ คือ การใช้นิ้วมือ ฝ่ามือ อุ้งมือ สันมือ ศอก เข่า มีการทุบ กด บิด ดัด ตี มีการบิดและดัดบริเวณต่างๆ ของผู้ป่วย ส่วนการนวดแบบสายราชสำนัก ซึ่งเป็นการนวดที่ปลอดภัยต่อผู้ป่วย โดยใช้นิ้วมือเป็นหลักและใช้อุ้งมือ สันมือร่วมด้วย ไม่มีการดัด บิด ทุบ ตี ในบริเวณที่ทำการนวด มีการลงน้ำหนักของนิ้วมือบริเวณจุดนวดหรือที่เรียกกันว่า การแต่งรสมือ มีจังหวะนิ้วมือในการนวด คือ หน่วง เน้น นิ่ง เพื่อกระตุ้นให้เลือดและกระแสประสาทไปเลี้ยงบริเวณที่ต้องการรักษา
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (11 ก.ย.) นายอิทธิพล ตาอุด แพทย์แผนไทย ประจำโรงพยาบาลราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เสนอผลการศึกษาเรื่อง “การศึกษาประสิทธิผลการนวดไทยสายราชสำนัก ร่วมกับการประคบสมุนไพรต่อการลดความเจ็บปวดของโรคลมตะกัง หรือ โรคไมเกรน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย” ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2557 ว่า สภาพสังคมปัจจุบันและเศรษฐกิจมีการแข่งขันสูง ส่งผลให้เกิดความเครียด โดยเฉพาะโรคไมเกรน หรือโรคลมตะกัง ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทที่แฝงมากับความเครียดและพบได้บ่อย มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตมาก เพราะจะปวดศีรษะเป็นๆ หายๆ ปวดตึง ร้าวไปที่บริเวณกล้ามเนื้อรอบๆ กะโหลกศีรษะ หน่วงที่บริเวณขมับ และมีอาการอื่นร่วมด้วย ได้แก่ ตามัว มองเห็นภาพซ้อน อาการปวดมีความรุนแรงแตกต่างกัน
นายอิทธิพล กล่าวว่า จากการศึกษาวิธีการบำบัดรักษาผู้ป่วยไมเกรนด้วยการนวดไทยสายราชสำนัก ร่วมกับการประคบสมุนไพร ที่ไม่ได้รับการรักษาด้วยยาและไปรับบริการที่ รพ.ราษีไศล จำนวน 30 คน ตั้งแต่ ธ.ค. 2556 - เม.ย. 2557 ใช้เวลาเพียง 45 นาทีต่อครั้ง แบ่งเป็นนวด 30 นาที และประคบสมุนไพรอีก 15 นาที ทำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ วันเว้นวัน จากการประเมินผลพบว่าได้ผลดี อาการปวดทุเลาขึ้น ก่อนนวดผู้ป่วยมีค่าเฉลี่ยความเจ็บปวดอยู่ที่ 6.07 คะแนน จาก 10 คะแนน แต่หลังจากนวดในครั้งที่ 3 ค่าเฉลี่ยความเจ็บปวดลดลงเหลือ 3.63 คะแนน ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น อาการปวดศีรษะลดลงมาก ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
“จุดเด่นของศาสตร์การแพทย์แผนไทย เป็นศาสตร์ที่เริ่มดูแลรักษาตัวเองที่ต้นเหตุมากกว่าปลายเหตุ เน้นรักษาแบบองค์รวม ไม่เน้นรักษาตามอาการ เนื่องจากหากสามารถรักษากำจัดต้นเหตุหมดไป อาการของโรคก็จะหายขาดหรือลดลงไปด้วย การบำบัดรักษาโดยใช้การนวดราชสำนัก ควบคู่กับการประคบลูกประคบสมุนไพร จึงเป็นทางเลือกของการรักษาผู้ป่วยโรคไมเกรน ค่ารักษาประมาณครั้งละ 200 บาท และไม่ต้องกินยา” นายอิทธิพล กล่าว
นายอิทธิพล กล่าวว่า สูตรในการนวดแบบราชสำนักเพื่อบำบัดอาการปวดไมเกรนนั้น จะเน้นจุดนวดสำคัญ 8 จุด ได้แก่ 1. นวดพื้นฐานหลัง 2. นวดพื้นฐานแขนด้านนอก 3. นวดพื้นฐานแขนด้านใน 4. นวดพื้นฐานบ่า 5. กดจุดสัญญาณหลัง 6. กดจุดสัญญาณหัวไหล่ 7. นวดเส้นโค้งคอ และ 8. กดจุดสัญญาณที่ศีรษะด้านหลัง และการประคบร้อนจากลูกประคบสมุนไพรจะช่วยทำให้อาการดีขึ้น เพราะความร้อนจากสมุนไพรช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว คลายความเจ็บปวดลงได้ โดยประคบเป็นเวลา 15 นาที ทั้งนี้ โรงพยาบาลราษีไศลได้ผลิตลูกประคบสมุนไพรเองด้วย มีส่วนผสมสมุนไพร 8 ชนิด ได้แก่ ไพล ขมิ้นชัน ผิวมะกรูด ใบมะขาม ตะไคร้ ใบหนาด เกลือ และ การบูร
สำหรับการนวดไทยจะมี 2 แบบ คือ นวดแบบเชลยศักดิ์ คือ การใช้นิ้วมือ ฝ่ามือ อุ้งมือ สันมือ ศอก เข่า มีการทุบ กด บิด ดัด ตี มีการบิดและดัดบริเวณต่างๆ ของผู้ป่วย ส่วนการนวดแบบสายราชสำนัก ซึ่งเป็นการนวดที่ปลอดภัยต่อผู้ป่วย โดยใช้นิ้วมือเป็นหลักและใช้อุ้งมือ สันมือร่วมด้วย ไม่มีการดัด บิด ทุบ ตี ในบริเวณที่ทำการนวด มีการลงน้ำหนักของนิ้วมือบริเวณจุดนวดหรือที่เรียกกันว่า การแต่งรสมือ มีจังหวะนิ้วมือในการนวด คือ หน่วง เน้น นิ่ง เพื่อกระตุ้นให้เลือดและกระแสประสาทไปเลี้ยงบริเวณที่ต้องการรักษา
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่