สมาคมเซลล์บำบัดยันฉีด “เฟรชเซลล์” ไม่ก่อมะเร็ง ระบุ 70% ฉีดแล้วช่วยคืนความเป็นหนุ่มสาว เหตุกลับมาสร้างคอลลาเจนได้ดีดังเดิม ส่วนการรักษาโรคยังไม่ยืนยัน
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท นพ.สมนึก ศิริพานทอง กรรมการและประชาสัมพันธ์สมาคมเซลล์บำบัดไทย แถลงข่าว เรื่อง “ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้เซลล์บำบัด” ว่า ขณะนี้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เฟรชเซลล์คลาดเคลื่อน ซึ่งอาจส่งผลต่อการปิดกั้นโอกาสทางการรักษาของคนไข้ สมาคมฯจึงขอชี้แจง 3 ประเด็น คือ 1. ทางการเยอรมนีสั่งปิดสถานบริการฉีดเฟรชเซลล์ไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบผู้ประสานงานในเยอรมนี พบว่า ยังมีให้บริการถูกกฎหมายอยู่ 3 แห่ง เป็นโรงพยาบาล 1 แห่ง และคลินิก 2 แห่ง 2. การรักษาโดยใช้เซลล์บำบัด ไม่มีข้อบ่งชี้กับโรคเส้นเลือดสมองตีบ ทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ไม่เป็นความจริง เนื่องจากสมาคมฯมีข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับข้อบ่งชี้ของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ว่า มีการนำเซลล์มาใช้บำบัดในประเทศเยอรมนี สามารถค้นหาข้อมูลได้จากสถาบันที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยทางการแพทย์ เช่น PUBMED
นพ.สมนึก กล่าวว่า และ 3. การใช้เฟรชเซลล์แล้วทำให้เกิดโรคมะเร็งก็ไม่เป็นความจริง โดยตามข้อบ่งชี้ของสมาคมเซลล์บำบัดของประเทศเยอรมนีได้รับรองไว้เป็นที่แน่ชัดว่าหากคนปกติฉีดเฟรชเซลล์จากเซลล์แกะ จะไม่ทำให้เกิดโรคมะเร็งอย่างแน่นอน แต่หากเป็นผู้ป่วยมะเร็งจะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เป็นกรณีพิเศษ เพราะเซลล์ที่ใช้ต้องเป็นเซลล์พิเศษที่ได้มาจากต่อมไทมัส
“ในทางการแพทย์ไม่มีวิธีการรักษาใดได้ผล 100% แต่การใช้เฟรชเซลล์ ข้อบ่งชี้ที่ได้ผลทางการรักษาที่ดี จากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยในเยอรมนี พบว่า 70% มีผลทางการแพทย์ที่ดี ทำให้แข็งแรง เป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้น ส่วนในการรักษาต่างๆ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าได้ผลเท่าไร และภายหลังการฉีดภายใน 1 - 2 เดือนอาจมีอาการแพ้โดยเกิดผื่นคัน แต่ไม่มีอันตรายอะไร ซึ่งในการฉีดเฟรชเซลล์ต้องดำเนินการโดยแพทยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ” นพ.สมนึก กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพิสูจน์อย่างไรว่าช่วยคืนความหนุ่มสาวได้ นพ.สมนึก กล่าวว่า ปกติสภาพผิวของคนอายุก่อน 40 ปี จะผลิตคอลลาเจนอยู่ที่ระดับ 3 อายุหลัง 40 ปี จะผลิตคอลลาเจนในระดับที่ 1 จากการศึกษาวิจัยในต่างประเทศพบว่า หลังฉีดเฟรชเซลล์ในกลุ่มคนอายุหลัง 40 ปีแล้ว ทำให้ผิวสามารถกลับมาผลิตคอลลาเจนได้ในระดับ 3 เช่นเดิม
ว่าที่ ร.ต.ต.นพ.บัญชา แดงเนียม เลขาธิการสมาคมเซลล์บำบัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เฟรชเซลล์จากเซลล์แกะที่จะนำมาใช้ฉีดให้กับคน จะต้องเป็นเซลล์ที่ผลิตจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ โดยในประเทศเยอรมนีผลิตจากแกะที่มีการเลี้ยงในระบบฟาร์มปิด รั้วรอบขอบชิด ควบคุมอาหารและต้องเป็นแกะที่มีการเลี้ยงมานานอย่างน้อย 30 ปี เพื่อให้มั่นว่าแกะมีความปลอดเชื้อ ปราศจากการที่จะนำโรคมาสู่คน และก่อนนำมาใช้ต้องมีการตรวจสอบความบริสุทธิ์ต้องอยู่ในระดับที่สามารถใช้ฉีดได้ระดับเดียวกับยาฉีด
“การใช้เฟรชเซลล์ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจหาความเข้ากันได้ของเซลล์ เนื่องจากเป็นการใช้เซลล์ตัวอ่อนในระยะที่กำหนด จึงยังไม่มีโปรตีนที่สร้างการต่อต้านเซลล์ และการใช้เฟรชเซลล์จะไปซ่อมแซม กระตุ้นให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่ถ้าป่วยเป็นโรคไตวายที่ต้องฟอกไต หรือเป็นโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซุลิน ลักษณะเช่นนี้การใช้เฟรชเซลล์จะไม่ได้ผล” ว่าที่ ร.ต.ต.นพ.บัญชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแพทย์พาผู้ป่วยไปฉีดเฟรชเซลล์ที่ต่างประเทศถือเข้าข่ายเป็นเอเยนซี ผิดตามประกาศของแพทยสภาหรือไม่ รวมถึงการโฆษณาที่แพทยสภาห้ามเอาไว้เช่นเดียวกัน นพ.บัญชา กล่าวว่า แพทย์ไม่ได้เป็นเอเยนซี เพียงแต่ให้บริการตรวจสุขภาพ ตรวจทางห้องปฏิบัติการว่าสามารถรับบริการเฟรชเซลล์ได้หรือไม่ก่อนส่งไปรักษาตัวที่ประเทศเยอรมนีต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท นพ.สมนึก ศิริพานทอง กรรมการและประชาสัมพันธ์สมาคมเซลล์บำบัดไทย แถลงข่าว เรื่อง “ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้เซลล์บำบัด” ว่า ขณะนี้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เฟรชเซลล์คลาดเคลื่อน ซึ่งอาจส่งผลต่อการปิดกั้นโอกาสทางการรักษาของคนไข้ สมาคมฯจึงขอชี้แจง 3 ประเด็น คือ 1. ทางการเยอรมนีสั่งปิดสถานบริการฉีดเฟรชเซลล์ไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบผู้ประสานงานในเยอรมนี พบว่า ยังมีให้บริการถูกกฎหมายอยู่ 3 แห่ง เป็นโรงพยาบาล 1 แห่ง และคลินิก 2 แห่ง 2. การรักษาโดยใช้เซลล์บำบัด ไม่มีข้อบ่งชี้กับโรคเส้นเลือดสมองตีบ ทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ไม่เป็นความจริง เนื่องจากสมาคมฯมีข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับข้อบ่งชี้ของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ว่า มีการนำเซลล์มาใช้บำบัดในประเทศเยอรมนี สามารถค้นหาข้อมูลได้จากสถาบันที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยทางการแพทย์ เช่น PUBMED
นพ.สมนึก กล่าวว่า และ 3. การใช้เฟรชเซลล์แล้วทำให้เกิดโรคมะเร็งก็ไม่เป็นความจริง โดยตามข้อบ่งชี้ของสมาคมเซลล์บำบัดของประเทศเยอรมนีได้รับรองไว้เป็นที่แน่ชัดว่าหากคนปกติฉีดเฟรชเซลล์จากเซลล์แกะ จะไม่ทำให้เกิดโรคมะเร็งอย่างแน่นอน แต่หากเป็นผู้ป่วยมะเร็งจะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เป็นกรณีพิเศษ เพราะเซลล์ที่ใช้ต้องเป็นเซลล์พิเศษที่ได้มาจากต่อมไทมัส
“ในทางการแพทย์ไม่มีวิธีการรักษาใดได้ผล 100% แต่การใช้เฟรชเซลล์ ข้อบ่งชี้ที่ได้ผลทางการรักษาที่ดี จากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยในเยอรมนี พบว่า 70% มีผลทางการแพทย์ที่ดี ทำให้แข็งแรง เป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้น ส่วนในการรักษาต่างๆ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าได้ผลเท่าไร และภายหลังการฉีดภายใน 1 - 2 เดือนอาจมีอาการแพ้โดยเกิดผื่นคัน แต่ไม่มีอันตรายอะไร ซึ่งในการฉีดเฟรชเซลล์ต้องดำเนินการโดยแพทยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ” นพ.สมนึก กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพิสูจน์อย่างไรว่าช่วยคืนความหนุ่มสาวได้ นพ.สมนึก กล่าวว่า ปกติสภาพผิวของคนอายุก่อน 40 ปี จะผลิตคอลลาเจนอยู่ที่ระดับ 3 อายุหลัง 40 ปี จะผลิตคอลลาเจนในระดับที่ 1 จากการศึกษาวิจัยในต่างประเทศพบว่า หลังฉีดเฟรชเซลล์ในกลุ่มคนอายุหลัง 40 ปีแล้ว ทำให้ผิวสามารถกลับมาผลิตคอลลาเจนได้ในระดับ 3 เช่นเดิม
ว่าที่ ร.ต.ต.นพ.บัญชา แดงเนียม เลขาธิการสมาคมเซลล์บำบัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เฟรชเซลล์จากเซลล์แกะที่จะนำมาใช้ฉีดให้กับคน จะต้องเป็นเซลล์ที่ผลิตจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ โดยในประเทศเยอรมนีผลิตจากแกะที่มีการเลี้ยงในระบบฟาร์มปิด รั้วรอบขอบชิด ควบคุมอาหารและต้องเป็นแกะที่มีการเลี้ยงมานานอย่างน้อย 30 ปี เพื่อให้มั่นว่าแกะมีความปลอดเชื้อ ปราศจากการที่จะนำโรคมาสู่คน และก่อนนำมาใช้ต้องมีการตรวจสอบความบริสุทธิ์ต้องอยู่ในระดับที่สามารถใช้ฉีดได้ระดับเดียวกับยาฉีด
“การใช้เฟรชเซลล์ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจหาความเข้ากันได้ของเซลล์ เนื่องจากเป็นการใช้เซลล์ตัวอ่อนในระยะที่กำหนด จึงยังไม่มีโปรตีนที่สร้างการต่อต้านเซลล์ และการใช้เฟรชเซลล์จะไปซ่อมแซม กระตุ้นให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่ถ้าป่วยเป็นโรคไตวายที่ต้องฟอกไต หรือเป็นโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซุลิน ลักษณะเช่นนี้การใช้เฟรชเซลล์จะไม่ได้ผล” ว่าที่ ร.ต.ต.นพ.บัญชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแพทย์พาผู้ป่วยไปฉีดเฟรชเซลล์ที่ต่างประเทศถือเข้าข่ายเป็นเอเยนซี ผิดตามประกาศของแพทยสภาหรือไม่ รวมถึงการโฆษณาที่แพทยสภาห้ามเอาไว้เช่นเดียวกัน นพ.บัญชา กล่าวว่า แพทย์ไม่ได้เป็นเอเยนซี เพียงแต่ให้บริการตรวจสุขภาพ ตรวจทางห้องปฏิบัติการว่าสามารถรับบริการเฟรชเซลล์ได้หรือไม่ก่อนส่งไปรักษาตัวที่ประเทศเยอรมนีต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
