อุบลราชธานี - สสจ.ร่วมกับหน่วยงานทางการแพทย์ เขตบริการสุขภาพที่ 10 ซ้อมแผนรับมือไวรัสอีโบลา หลังองค์การอนามัยโลกเตือนพบผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 2,200 ราย โดยจำลองเหตุการณ์สาวไทยเดินทางกลับจากประเทศแถบแอฟริกาแล้วได้รับเชื้อมา ต้องถูกกักในห้องปลอดเชื้อเพื่อกันแพร่สู่คนภายนอก
ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี นายแพทย์ สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ จัดซ้อมแผนรับมือการระบาดโรคติดต่อเชื้ออีโบลา จากนักเดินทางและนักท่องเที่ยวที่ใช้ช่องทางผ่านแดนด้าน จ.อุบลราชธานี แล้วเกิดมีอาการป่วยที่น่าสงสัยได้รับเชื้อจากไวรัส
โดยจำลองเหตุการณ์พบผู้ต้องสงสัยเป็นชาวไทยเพศหญิง อายุ 28 ปี มีประวัติมาจากประเทศเซียร์ราลีโอน และมีอาการสงสัยว่าจะติดเชื้ออีโบลา ชุดเผชิญเหตุที่มีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อได้ไปรับตัวผู้ป่วยเข้ามารับการตรวจหาเชื้อในห้องกักกันเชื้อโรคของโรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ แพทย์ได้ทำการเก็บตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยต้องสงสัยส่งไปให้ห้องแล็บของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจยืนยัน
โดยขั้นตอนการเก็บตัวอย่างเลือดและรับเลือดนำส่งไปตรวจ มีกระบวนการกักกันไม่ให้เชื้อสามารถแพร่กระจายไปสู่ภายนอกโดยผ่านตู้ปลอดเชื้อ หลังแพทย์และพยาบาลปฏิบัติการเสร็จแล้ว ต้องนำชุดและอุปกรณ์ป้องกันเชื้อที่สัมผัสกับผู้ป่วยมาทำลายทิ้ง ป้องกันไม่ให้เชื้อมีโอกาสแพร่กระจายต่อไป ด้านการดูแลผู้ป่วยนั้น บุคลากรที่ไม่ผ่านการฝึกปฏิบัติหรือไม่มีชุดป้องกันเชื้อไม่สามารถเข้าไปในห้องดังกล่าว การติดต่อสื่อสารต้องทำผ่านระบบที่ติดตั้งไว้ใช้พูดคุยกับผู้ป่วยจากภายนอกเท่านั้น
สำหรับการซ้อมแผนครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขให้จังหวัดเป็นตัวแทนเขตบริการสุขภาพที่ 10 ฝึกซ้อมเพื่อทำการสอบสวนโรค และตรวจจับการระบาดผ่านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล หลังองค์การอนามัยโลกรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาที่ระบาดเป็นวงกว้างในประเทศทวีปแอฟริกา คือ กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ปัจจุบันพบผู้ป่วย 4,366 ราย เสียชีวิตแล้ว 2,218 ราย
หากเชื้อไวรัสดังกล่าวมีโอกาสเล็ดลอดเข้ามาในประเทศไทย บุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการฝึกซ้อมจะสามารถเข้าปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนอย่างถูกต้องทันท่วงที เพื่อลดการแพร่เชื้อดังกล่าวต่อไป
