สบส. ตรวจคลินิกอุ้มบุญตรงข้าม รพ.จุฬาฯ ยังไม่พบทำผิดกฎหมาย หลังได้รับข้อมูลทำอุ้มบุญหญิงรายหนึ่งแล้วแท้ง
วันนี้ (17 ก.ย.) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวภายหลังนำเจ้าหน้าที่และตำรวจกองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) เข้าทำการตรวจสอบ “สมาร์ท” คลินิกเวชกรรมเฉพาะทางสูตินรีเวช ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 8 อาคารชาญอิสสระ ถ.พระราม 4 หลังได้ข้อมูลจากหญิงรายหนึ่งที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ ปคม. ว่า มาทำการอุ้มบุญที่คลินิกแห่งนี้ เมื่อ 6 เดือนทก่อนผ่านระบบนายหน้า แต่เกิดแท้งขึ้น ว่า ผลตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งคลินิกและสูตินรีแพทย์ ได้รับอนุญาตจาก ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และ สบส. อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งตลอดการเปิดดำเนินการระยะเวลากว่า 1 ปี ยังไม่พบพฤติกรรมให้บริการอุ้มบุญหญิงอื่นที่ไม่ใช่เครือญาติ เว้นหญิงรายที่ไปแจ้งความไว้กับ ปคม. ซึ่งระหว่างนี้กำลังเร่งหาเวชระเบียนของหญิงรายนี้อยู่ เนื่องจากหญิงรายนี้มีการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง
น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า ทั้งนี้ หากตรวจพบชื่อของหญิงรายนี้ว่าเคยทำการฝังตัวอ่อนที่นี่จริง ก็จะดำเนินการกับคลินิกแห่งนี้ ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 34 (2) ที่อนุญาตให้แพทย์ดำเนินการผิดหลักวิชาชีพ ซึ่งจะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และจะส่งรายชื่อแพทย์ ผู้ดำเนินการ รับทำอุ้มบุญ ให้กับ แพทยสภา เพื่อดำเนินการด้านจริยธรรม ซึ่งแพทย์ผู้ทำอุ้มบุญมีฐานะรายเป็นเจ้าของคลินิกด้วย สำหรับการตรวจมาตรฐานคลินิกที่ให้บริการด้านอนามัยเจริญพันธุ์ล่าสุด สบส. ได้ดำเนินการตรวจไปแล้วทั้งสิ้น 20 แห่ง ซึ่งรวมถึงคลินิกที่เข้าตรวจในวันนี้ด้วย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (17 ก.ย.) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวภายหลังนำเจ้าหน้าที่และตำรวจกองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) เข้าทำการตรวจสอบ “สมาร์ท” คลินิกเวชกรรมเฉพาะทางสูตินรีเวช ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 8 อาคารชาญอิสสระ ถ.พระราม 4 หลังได้ข้อมูลจากหญิงรายหนึ่งที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ ปคม. ว่า มาทำการอุ้มบุญที่คลินิกแห่งนี้ เมื่อ 6 เดือนทก่อนผ่านระบบนายหน้า แต่เกิดแท้งขึ้น ว่า ผลตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งคลินิกและสูตินรีแพทย์ ได้รับอนุญาตจาก ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และ สบส. อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งตลอดการเปิดดำเนินการระยะเวลากว่า 1 ปี ยังไม่พบพฤติกรรมให้บริการอุ้มบุญหญิงอื่นที่ไม่ใช่เครือญาติ เว้นหญิงรายที่ไปแจ้งความไว้กับ ปคม. ซึ่งระหว่างนี้กำลังเร่งหาเวชระเบียนของหญิงรายนี้อยู่ เนื่องจากหญิงรายนี้มีการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง
น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า ทั้งนี้ หากตรวจพบชื่อของหญิงรายนี้ว่าเคยทำการฝังตัวอ่อนที่นี่จริง ก็จะดำเนินการกับคลินิกแห่งนี้ ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 34 (2) ที่อนุญาตให้แพทย์ดำเนินการผิดหลักวิชาชีพ ซึ่งจะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และจะส่งรายชื่อแพทย์ ผู้ดำเนินการ รับทำอุ้มบุญ ให้กับ แพทยสภา เพื่อดำเนินการด้านจริยธรรม ซึ่งแพทย์ผู้ทำอุ้มบุญมีฐานะรายเป็นเจ้าของคลินิกด้วย สำหรับการตรวจมาตรฐานคลินิกที่ให้บริการด้านอนามัยเจริญพันธุ์ล่าสุด สบส. ได้ดำเนินการตรวจไปแล้วทั้งสิ้น 20 แห่ง ซึ่งรวมถึงคลินิกที่เข้าตรวจในวันนี้ด้วย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่