พม. ประสานหน่วยงานช่วยเหลือชาวโรฮิงญา - พม่า ถูกหลอกไปทำงาน ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เข้ามาเลเซีย สั่ง พมจ.พังงา ดูแลชี้แจงสิทธิ ส่งกลับประเทศ เผยเตรียมลงพื้นที่หารือแนวท้องป้องกัน แก้ไขปัญหา
วันนี้ (17 ก.ย.) พล.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา จำนวน 32 คน ที่จังหวัดพังงา ว่า ผู้เสียหายประกอบด้วย ชาวบังกลาเทศ 27 คนและชาวพม่า 5 คน ได้รับการช่วยเหลือจากการเข้าจับกุมสถานีตำรวจภูธรคุระบุรี ซึ่งทั้งหมดได้ถูกชักชวนจากนายหน้า เพื่อไปทำงานที่ประเทศมาเลเชีย โดยจะต้องจ่ายค่าเดินทางให้แก่นายหน้า เป็นจำนวนเงิน 60,000 - 80,000 บาท บางรายที่ไม่สามารถนำเงินมาให้นายหน้าได้ จะโดนทำร้ายร่างกาย ด้วยการปิดตา ทุบตี กักขัง หน่วงเหนี่ยว ข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ เพื่อเป็นการบีบบังคับญาติผู้เสียหายให้โอนเงินมาให้แก่นายหน้า จึงจะยอมหยุดการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย และการกระทำดังกล่าว มี 15 คน เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ มีการแสวงหาผลโดยมิชอบที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการจัดหา การหน่วงเหนี่ยว การกักขัง มีการข่มขู่ การใช้กำลังบังคับ ส่วนอีก 17 คน ไม่เป็นผู้เสียจากการค้ามนุษย์ เนื่องจากเป็นผู้สมัครใจที่จะเดินทางไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย และไม่มีลักษณะถูกกระทำด้วยวิธีการใดๆ ที่นำไปสู่การแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบแต่อย่างใด
พล.อ.อดุลย์ กล่าวด้วยว่า ตนได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดพังงา ให้ช่วยเร่งดำเนินคดีนี้ และได้สั่งการ ไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา (พมจ.) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา เข้าไปดูแลและ ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย รวมทั้ง ชี้แจงให้ทราบถึงสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองกรณีจากการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ รวมถึงขั้นตอนในการดำเนินการช่วยเหลือ การส่งตัวกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ ตนจะลงพื้นที่เพื่อเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
วันนี้ (17 ก.ย.) พล.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา จำนวน 32 คน ที่จังหวัดพังงา ว่า ผู้เสียหายประกอบด้วย ชาวบังกลาเทศ 27 คนและชาวพม่า 5 คน ได้รับการช่วยเหลือจากการเข้าจับกุมสถานีตำรวจภูธรคุระบุรี ซึ่งทั้งหมดได้ถูกชักชวนจากนายหน้า เพื่อไปทำงานที่ประเทศมาเลเชีย โดยจะต้องจ่ายค่าเดินทางให้แก่นายหน้า เป็นจำนวนเงิน 60,000 - 80,000 บาท บางรายที่ไม่สามารถนำเงินมาให้นายหน้าได้ จะโดนทำร้ายร่างกาย ด้วยการปิดตา ทุบตี กักขัง หน่วงเหนี่ยว ข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ เพื่อเป็นการบีบบังคับญาติผู้เสียหายให้โอนเงินมาให้แก่นายหน้า จึงจะยอมหยุดการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย และการกระทำดังกล่าว มี 15 คน เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ มีการแสวงหาผลโดยมิชอบที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการจัดหา การหน่วงเหนี่ยว การกักขัง มีการข่มขู่ การใช้กำลังบังคับ ส่วนอีก 17 คน ไม่เป็นผู้เสียจากการค้ามนุษย์ เนื่องจากเป็นผู้สมัครใจที่จะเดินทางไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย และไม่มีลักษณะถูกกระทำด้วยวิธีการใดๆ ที่นำไปสู่การแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบแต่อย่างใด
พล.อ.อดุลย์ กล่าวด้วยว่า ตนได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดพังงา ให้ช่วยเร่งดำเนินคดีนี้ และได้สั่งการ ไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา (พมจ.) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา เข้าไปดูแลและ ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย รวมทั้ง ชี้แจงให้ทราบถึงสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองกรณีจากการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ รวมถึงขั้นตอนในการดำเนินการช่วยเหลือ การส่งตัวกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ ตนจะลงพื้นที่เพื่อเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
