กรมอนามัยแนะกินเจด้วยหลัก 4 ล. ล้างผักผลไม้ให้สะอาด ลดอาหารหวานเค็มก่อโรค เลี่ยงอาหารผัดทอดชวนอ้วน และเลือกอาหารที่มีโปรตีนแทนเนื้อสัตว์ ชี้ดูแลสุขภาพทั้งกายใจช่วยลดเสี่ยงเกิดโรค
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลกินเจ พ่อค้าแม่ค้ามักมีการปรุงประกอบอาหารจำหน่ายเป็นจำนวนมาก หากปรุงไม่สะอาด ไม่ถูกหลักโภชนาการอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้บริโภคได้ จึงแนะหลัก 4 ล. เพื่อสุขภาพที่ดี คือ 1.ล้าง ต้องล้างวัตถุดิบโดยเฉพาะผัก ผลไม้ ให้สะอาดเพื่อกำจัดยาฆ่าแมลง โดยล้างด้วยน้ำไหล 2 นาที หรือแช่ด้วยน้ำเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตรงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตหนึ่งช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร โดยแช่นาน 15-30 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่าอีก 2 ครั้ง 2. ลด อาหารรสเค็มหรือหวานมากจนเกินไป เพราะความเค็มมีโซเดียมสูงส่งผลต่อภาวะความดันโลหิตสูงและไตทำงานหนัก ส่วนความหวานจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ ควรลดการเติมซอส ซีอิ๊ว และน้ำตาล
นพ.พรเทพ กล่าวว่า 3. เลี่ยง อาหารเจที่มีแป้งมาก และประเภทผัด ทอด เพราะมีไขมันสูง หากได้รับเกินความจำเป็นจะทำให้น้ำหนักเกินและอ้วน ควรเน้นประเภทต้มที่มีผักเป็นส่วนประกอบ และ 4. เลือก เนื่องจากอาหารเจไม่มีเนื้อสัตว์ จึงควรเลือกอาหารที่มีถั่วหรือผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น น้ำเต้าหู้ ฟองเต้าหู้ โปรตีนเกษตร และซื้อจากร้านอาหารหรือแผงลอยมีป้ายสัญลักษณ์ อาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste)
“เทศกาลกินเจเป็นเทศกาลที่ละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการขาดโปรตีนและธาตุเหล็ก โดยเฉพาะเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย แม้จะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ในรูปแบบต่างๆ แต่เป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์จากแป้ง จึงควรเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้ง 3 มื้อ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และควรเลือกบริโภคอาหารประเภทธัญพืชและถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ รวมทั้งเต้าหู้ โปรตีนเกษตรเป็นแหล่งโปรตีนทดแทน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวและว่า การกินเจช่วยให้อวัยวะภายในทำงานน้อยลง ได้หยุดพัก สุขภาพกายโดยรวมจะดีขึ้น ช่วยให้มีสมาธิ พลังใจที่เข้มแข็ง ซึ่งการดูแลร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน จะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ไม่เพียงเฉพาะช่วงกินเจเท่านั้น การดูแลสุขภาพตนเองเป็นประจำด้วยการกินอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลกินเจ พ่อค้าแม่ค้ามักมีการปรุงประกอบอาหารจำหน่ายเป็นจำนวนมาก หากปรุงไม่สะอาด ไม่ถูกหลักโภชนาการอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้บริโภคได้ จึงแนะหลัก 4 ล. เพื่อสุขภาพที่ดี คือ 1.ล้าง ต้องล้างวัตถุดิบโดยเฉพาะผัก ผลไม้ ให้สะอาดเพื่อกำจัดยาฆ่าแมลง โดยล้างด้วยน้ำไหล 2 นาที หรือแช่ด้วยน้ำเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตรงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตหนึ่งช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร โดยแช่นาน 15-30 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่าอีก 2 ครั้ง 2. ลด อาหารรสเค็มหรือหวานมากจนเกินไป เพราะความเค็มมีโซเดียมสูงส่งผลต่อภาวะความดันโลหิตสูงและไตทำงานหนัก ส่วนความหวานจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ ควรลดการเติมซอส ซีอิ๊ว และน้ำตาล
นพ.พรเทพ กล่าวว่า 3. เลี่ยง อาหารเจที่มีแป้งมาก และประเภทผัด ทอด เพราะมีไขมันสูง หากได้รับเกินความจำเป็นจะทำให้น้ำหนักเกินและอ้วน ควรเน้นประเภทต้มที่มีผักเป็นส่วนประกอบ และ 4. เลือก เนื่องจากอาหารเจไม่มีเนื้อสัตว์ จึงควรเลือกอาหารที่มีถั่วหรือผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น น้ำเต้าหู้ ฟองเต้าหู้ โปรตีนเกษตร และซื้อจากร้านอาหารหรือแผงลอยมีป้ายสัญลักษณ์ อาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste)
“เทศกาลกินเจเป็นเทศกาลที่ละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการขาดโปรตีนและธาตุเหล็ก โดยเฉพาะเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย แม้จะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ในรูปแบบต่างๆ แต่เป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์จากแป้ง จึงควรเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้ง 3 มื้อ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และควรเลือกบริโภคอาหารประเภทธัญพืชและถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ รวมทั้งเต้าหู้ โปรตีนเกษตรเป็นแหล่งโปรตีนทดแทน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวและว่า การกินเจช่วยให้อวัยวะภายในทำงานน้อยลง ได้หยุดพัก สุขภาพกายโดยรวมจะดีขึ้น ช่วยให้มีสมาธิ พลังใจที่เข้มแข็ง ซึ่งการดูแลร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน จะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ไม่เพียงเฉพาะช่วงกินเจเท่านั้น การดูแลสุขภาพตนเองเป็นประจำด้วยการกินอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่