แพทย์แผนไทยชี้ แนวโน้มผู้ชายมีลูกยากเพิ่มขึ้นไม่ต่างจากผู้หญิง เปิด 2 ตำรับ “บุรุษกายา - ทลายพังค่าย” ช่วยบำรุงกำลังเพศชาย ร่างกาย และสเปิร์มแข็งแรง ย้ำห้ามกินเอง เพราะสัดส่วนต้องเหมาะสม แนะให้แพทย์แผนไทยวินิจฉัยโรคพร้อมจัดยาให้
นายคมสัน ทินกร ณ อยุธยา แพทย์แผนไทย และที่ปรึกษากรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตำรับการแพทย์แผนไทยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะทางเพศทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ได้เป็นการรักษา หรือบำรุงเพื่อความสุขทางเพศ แต่ระบบสืบพันธุ์มีความเกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของร่างกาย หากเป็นคำโบราณจะใช้คำว่า เลือดลม หมายถึงระบบการไหลเวียนของเลือด ซึ่งเป็นระบบหลักของร่างกาย หากการไหลเวียนของเลือดดี ก็จะส่งผลต่อสุขภาพด้วย ทั้งนี้ การเปิดเผยสูตรสมุนไพรไทยต่างๆ หากเป็นการกินเพื่อบำรุง สมุนไพรบางชนิดก็สามารถเลือกกินเองได้ แต่หากเป็นการรักษา การเลือกใช้ยาก็เหมือนแพทย์แผนปัจจุบัน คือ ต้องตรวจหาให้ทราบก่อนว่า มีปัญหาอย่างไร เจ็บป่วยตรงไหน ไม่ใช่เลือกกินยาเองโดยที่ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร
นายคมสัน กล่าวว่า สำหรับปัจจุบันพบว่า ปัญหาการมีบุตรยากไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้ชายก็มีแนวโน้มมากขึ้นด้วย โดยมีตำรับยาสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือดเพื่อบำรุงกำลังเพศชาย เช่น ตำรับบุรุษกายา ตำรับบุรุษโลหิตัง ตำรับราคะณัคคี ตำรับทลายพังค่าย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม? การแก้ปัญหาในทางการแพทย์แผนไทยจะสามารถหาปัญหาของโรคได้ด้วยการกดจุด แต่ละจุดจะมีความเชื่อมโยงไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เมื่อสัมผัสแล้วจะทำให้ทราบได้ว่า การไหลเวียนของเลือดสะดวกหรือไม่ ลมเดินอย่างไร ก่อนที่จะใช้สมุนไพรเพื่อการรักษาก็จำเป็นต้องตรวจให้ทราบภาวะของตนเองก่อน ซึ่งปัจจุบันแพทย์แผนไทยที่สามารถกดจุดเพื่อตรวจสอบโรคได้ มีจำนวนน้อยลงมาก
นายคมสัน กล่าวว่า สูตรตำรับบุรุษกายานั้น ประกอบด้วย เทียนขาว กระชาย โกฐเชียง ซึ่งจะช่วยในเรื่องการบำรุงร่างกาย ให้มีกำลังวังชา เลือดลมไหลเวียนเป็นปกติ ส่วนสูตรตำรับทลายพังค่าย ประกอบด้วย เหง้ากระชาขาวและดำ ม้ากระทืบโรง โด่ไม่รู้ล้ม เปลืองตะโกน กำลังวัวเถลิง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรง และทำให้สเปิร์มแข็งแรงขึ้น แต่ทั้งหมดจะต้องมีแพทย์แผนไทยแนะนำ ไม่สามารถรับประทานได้เอง เพราะสัดส่วนสมุนไพรจะต้องเหมาะสม จึงต้องปรึกษาแพทย์แผนไทย เพื่อวินิจฉัยโรคและจัดยาให้อย่างถูกต้อง มิเช่นนั้นก็จะไม่ก่อประโยชน์ใดๆ
“การดูแลสุขภาพทางเพศ ทำได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งตำรับแพทย์แผนไทยที่บำรุงสุขภาวะทางเพศก็แยกระหว่างชาย หญิง เช่นกัน โดยการดูแลสมดุลสุขภาวะทางเพศสามารถทำได้ตั้งแต่วัยเด็ก ในเด็กหญิงตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือน เด็กชายตั้งแต่เสียงเริ่มแตก การดูแลคือทำให้เกิดความสมดุล หากเด็กเป็นหนุ่มสาวเร็วเกินไป หรือ ช้าเกินไปก็ทำให้เสียสมดุลได้ ที่สำคัญคือ การหายามารับประทานเองต้องมีความรู้ก่อนว่าความเจ็บป่วยเป็นอย่างไร” นายคมสัน กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายคมสัน ทินกร ณ อยุธยา แพทย์แผนไทย และที่ปรึกษากรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตำรับการแพทย์แผนไทยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะทางเพศทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ได้เป็นการรักษา หรือบำรุงเพื่อความสุขทางเพศ แต่ระบบสืบพันธุ์มีความเกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของร่างกาย หากเป็นคำโบราณจะใช้คำว่า เลือดลม หมายถึงระบบการไหลเวียนของเลือด ซึ่งเป็นระบบหลักของร่างกาย หากการไหลเวียนของเลือดดี ก็จะส่งผลต่อสุขภาพด้วย ทั้งนี้ การเปิดเผยสูตรสมุนไพรไทยต่างๆ หากเป็นการกินเพื่อบำรุง สมุนไพรบางชนิดก็สามารถเลือกกินเองได้ แต่หากเป็นการรักษา การเลือกใช้ยาก็เหมือนแพทย์แผนปัจจุบัน คือ ต้องตรวจหาให้ทราบก่อนว่า มีปัญหาอย่างไร เจ็บป่วยตรงไหน ไม่ใช่เลือกกินยาเองโดยที่ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร
นายคมสัน กล่าวว่า สำหรับปัจจุบันพบว่า ปัญหาการมีบุตรยากไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้ชายก็มีแนวโน้มมากขึ้นด้วย โดยมีตำรับยาสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือดเพื่อบำรุงกำลังเพศชาย เช่น ตำรับบุรุษกายา ตำรับบุรุษโลหิตัง ตำรับราคะณัคคี ตำรับทลายพังค่าย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม? การแก้ปัญหาในทางการแพทย์แผนไทยจะสามารถหาปัญหาของโรคได้ด้วยการกดจุด แต่ละจุดจะมีความเชื่อมโยงไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เมื่อสัมผัสแล้วจะทำให้ทราบได้ว่า การไหลเวียนของเลือดสะดวกหรือไม่ ลมเดินอย่างไร ก่อนที่จะใช้สมุนไพรเพื่อการรักษาก็จำเป็นต้องตรวจให้ทราบภาวะของตนเองก่อน ซึ่งปัจจุบันแพทย์แผนไทยที่สามารถกดจุดเพื่อตรวจสอบโรคได้ มีจำนวนน้อยลงมาก
นายคมสัน กล่าวว่า สูตรตำรับบุรุษกายานั้น ประกอบด้วย เทียนขาว กระชาย โกฐเชียง ซึ่งจะช่วยในเรื่องการบำรุงร่างกาย ให้มีกำลังวังชา เลือดลมไหลเวียนเป็นปกติ ส่วนสูตรตำรับทลายพังค่าย ประกอบด้วย เหง้ากระชาขาวและดำ ม้ากระทืบโรง โด่ไม่รู้ล้ม เปลืองตะโกน กำลังวัวเถลิง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรง และทำให้สเปิร์มแข็งแรงขึ้น แต่ทั้งหมดจะต้องมีแพทย์แผนไทยแนะนำ ไม่สามารถรับประทานได้เอง เพราะสัดส่วนสมุนไพรจะต้องเหมาะสม จึงต้องปรึกษาแพทย์แผนไทย เพื่อวินิจฉัยโรคและจัดยาให้อย่างถูกต้อง มิเช่นนั้นก็จะไม่ก่อประโยชน์ใดๆ
“การดูแลสุขภาพทางเพศ ทำได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งตำรับแพทย์แผนไทยที่บำรุงสุขภาวะทางเพศก็แยกระหว่างชาย หญิง เช่นกัน โดยการดูแลสมดุลสุขภาวะทางเพศสามารถทำได้ตั้งแต่วัยเด็ก ในเด็กหญิงตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือน เด็กชายตั้งแต่เสียงเริ่มแตก การดูแลคือทำให้เกิดความสมดุล หากเด็กเป็นหนุ่มสาวเร็วเกินไป หรือ ช้าเกินไปก็ทำให้เสียสมดุลได้ ที่สำคัญคือ การหายามารับประทานเองต้องมีความรู้ก่อนว่าความเจ็บป่วยเป็นอย่างไร” นายคมสัน กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
