xs
xsm
sm
md
lg

คุมราคา “หญ้าฮี๋ยุ่ม” หลังโก่งราคาต้นละ 300 บาท ย้ำต้มกินไม่ช่วยกระชับช่องคลอด (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปชช. รุมซื้อ “หญ้าฮี๋ยุ่ม” ช่วยกระชับช่องคลอดเป็นวันที่ 3 พบกว่า 60% ของคนมาร่วมงานมาเพราะหญ้าตัวนี้ อธิบดีแพทย์แผนไทย เผย มีการโก่งราคาถึงต้นละ 300 บาท เร่งคุมราคาห้ามเกินต้นละ 50 บาท ย้ำต้มดื่มช่วยกระชับช่องคลอดไม่ได้อย่างที่เข้าใจ ต้องใช้วิธีรมควันเท่านั้น เล็งต่อยอดทำยารักษาแผล ธุรกิจสปา ขณะที่ชาชงหญ้าฮี๋ยุ่มบูท รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ขายรวมได้แล้วกว่า 2.3 หมื่นซอง ช่วยคอชุ่มชื่น ลดคอเลสเตอรอล



วันนี้ (5 ก.ย.) ที่ฮอลล์ 6-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมหกรรมสมุนไพรครั้งที่ 11 ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 3-7 ก.ย. 2557 จัดโดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยังคงมีประชาชนจำนวนมากสนใจเดินทางมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจับจ่ายซื้อยาสมุนไพร ยาแผนไทย รวมไปถึงการใช้บริการรักษาทางแพทย์แผนไทย เช่น การนวดประคบ การตอกเส้น การฝังเข็ม เป็นต้น

ส่วนที่เป็นที่จับตาและอยู่ในความสนใจของประชาชน คือ หญ้าฮี๋ยุ่ม หรือหญ้ารีแพร์ ที่มีสรรพคุณช่วยกระชับช่องคลอดได้ โดยมีประชาชนทั้งหญิงและชายมารอคิวซื้อหญ้ารีแพร์ตามบูทต่างๆ อย่างล้นหลาม จนบางร้านถึงกับต้องขึ้นป้ายว่า ของกำลังมา และทันทีที่ของมาถึงปรากฏว่าผู้ที่มารอเข้าคิวซื้อหญ้ารีแพร์ต่างกรูเข้ามาแย่งซื้อกันอุตลุด จนคนขายขายแทบไม่ทัน จากการสังเกตผู้ที่มาซื้อส่วนใหญ่เป็นหญิงวัยกลางคน ซึ่งจากการพูดคุยพบว่าส่วนใหญ่ซื้อเพื่อนำไปใช้เอง โดยเข้าใจว่าต้องนำไปต้มดื่มจึงจะสามารถช่วยกระชับช่องคลอดให้เต่งตึงคืนมาได้

นางสายฝน เดชมิตร แม่ค้าขายหญ้ารีแพร์จาก จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า วันนี้นำหญ้ารีแพร์มาขายเป็นวันแรก โดยเก็บมาจากยอดเขาป่าทึบและป่าสนที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติ นำมาขายทั้งต้นสด ราคาต้นละ 50 บาท และแบบต้นแห้งซึ่งบรรจุเป็นห่อ ราคาห่อละ 350 บาท ซื้อ 3 ห่อราคา 1,000 บาท โดยนำมาขายประมาณ 250 ห่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หญ้ารีแพร์ต้นแห้งที่มีการนำมาบรรจุเป็นห่อ ไม่ได้มีการติดฉลากให้คำแนะนำถึงวิธีในการใช้สมุนไพรแต่อย่างใด ซึ่งระหว่างการขาย แม่ค้ามีการแนะนำผู้ซื้อให้นำไปต้มดื่ม

นายประสาท ตราดธารทิพย์ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า วันนี้นับเป็นวันที่ 3 ของการจัดงาน โดยพบว่า ทุกบูทมีความพึงพอใจ เพราะปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยวันละประมาณ 50,000 คน ซึ่งกว่า 60% ของผู้เข้าร่วมงานล้วนมาเพื่อซื้อหญ้ารีแพร์ ซึ่งจากการสำรวจมีผู้นำหญ้ารีแพร์แบบต้นสดเข้ามาขายประมาณ 10 บูท เป็นแบบต้นแห้งอีก 1 บูท การขายไม่น้อยกว่า 500 กำมือต่อวัน ขณะที่บูทของ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร แจกอยู่ที่ 50 ต้นต่อวัน แต่ส่วนของชาชงจากหญ้าฮี๋ยุ่มพบว่า ขายดีขึ้นเรื่อยๆ โดยวันแรกขายได้ประมาณ 5,000 ซอง วันที่สองราว 8,000 ซอง และวันที่สามถึง 10,000 ซอง

ต่อมา นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ แถลงข่าวการต่อยอดหญ้ารีแพร์เข้าสู่กระบวนการวิจัย ว่า ทราบว่าตอนนี้มีการนำหญ้ารีแพร์มาจำหน่ายในราคาที่สูงมาก โดยมีการปั่นราคาขึ้นไปสูงถึงต้นละ 300 บาท ซึ่งขณะนี้กรมฯ พยายามควบคุมราคาให้ขายไม่เกินต้นละ 50 บาท เนื่องจากหญ้ารีแพร์เป็นหญ้าที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย และวัตถุประสงค์ของการจัดงานก็เพื่อแจกสมุนไพรไม่ได้เน้นการขาย โดยหญ้ารีแพร์นั้นเป็นพืชตระกูลไผ่และหญ้า มีข้อและปล้อง ลำต้นกลวง อยู่ในวงศ์เดียวกับไผ่ หญ้าคา ข้าว อ้อย หญ้าแฝก เป็นต้น ซึ่งแพทย์พื้นบ้านนำมาใช้รักษาหญิงหลังคลอดมานานหลายร้อยปี ช่วยให้แผลปิดสนิทเร็วขึ้น กระชับช่องคลอด ช่วยมดลูกเข้าอู่เร็ว เป็นต้น

นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า กรมฯ จึงนำหญ้ารีแพร์มาวิจัยต่อยอดถึงสรรพคุณทางยา โดยการวิเคราะห์ด้วยวิธี “แก๊สโครมาโทกราฟี” คือ นำหญ้ามาเผาจนเกิดควัน แล้วตรวจสารเคมีของหญ้าที่ระเหยขึ้นมาโดยพบเจอสาร 2 ชนิด คือ 1. สารกลุ่มโพลีฟีนอล ซึ่งพบมากที่สุด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้านสารอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง ผลคือช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ และ 2. สารไฟโตสเตอรอล มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ในระดับสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ ยังมีสารกลุ่มอื่นอีก ซึ่งจะต้องตรวจวิเคราะห์ในเชิงลึกต่อไป ว่ามีสารที่มีประโยชน์มากกว่านี้หรือไม่ เช่น ซิลิกา ซึ่งช่วยให้เนื้อเยื่อแข็งตัว มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบ และทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น มักนำมาเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง เป็นต้น แต่หากสูดดมสารตัวนี้มากจะก่อให้เกิดโรคปอดจากหินฝุ่นได้ แต่หากการเผาไหม้หญ้ารีแพร์ก่อให้เกิดสารตัวนี้จริงก็ไม่อยู่ในระดับที่เป็นอันตราย รวมถึงการนำไปต้มดื่มก็ไม่ก่อให้เกิดสารตัวนี้

ขณะนี้มีประชาชนกำลังเข้าใจผิดว่าการนำต้มดื่มสามารถช่วยกระชับช่องคลอดให้เต่งตึงได้ เพราะจริงๆ แล้วการนำมาใช้แต่ละแบบก็ให้ผลที่ต่างกัน หากต้องการช่วยกระชับช่องคลอดให้เต่งตึงต้องใช้วิธีในการรมควัน ซึ่งจะได้ความร้อนและน้ำมันหอมระเหย ช่วยฆ่าเชื้อ รักษาแผลหลังคลอดให้หายไว และลดอาการบวม ส่วนการต้มดื่มจะช่วยลดไขมันในเลือด ทำให้คอชุ่มชื่นยามเจ็บไข้ การต่อยอดขณะนี้ได้มีการผลิตเป็นชาชงแล้ว แต่ที่เห็นว่าจะนำไปดำเนินการได้อีกคือการทำเป็นครีมทารักษาแผล รวมถึงนำไปทำในธุรกิจสปาด้วย เพราะมีสรรพคุณช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง” อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าว

ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เภสัชกรเชี่ยวชาญ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า จากการติดตามหมอยามานานพบว่า หญ้ารีแพร์ช่วยให้แผลหายเร็ว อาจนำมาทำเป็นยารักษาแผลได้ นอกจากนี้ ยังช่วยบำรุงเส้นบำรุงเอ็น ทำให้ผู้หญิงผิวพรรณยืดหยุ่น ชะลอความเสื่อม ซึ่ง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร นำมาเป็นส่วนในเครื่องสำอางในกลุ่มบัว ไผ่ ข้าว ทำให้หน้าเด้ง รวมไปถึงสามารถนำมาอบแห้งพัฒนาเป็นอาหารเสริมได้ เพราะมีกลิ่นและรสชาติคล้ายสาหร่ายอบแห้ง อย่างไรก็ตาม จากการศึกษารายงานของต่างชาติมีการพูดถึงหญ้ารีแพร์เช่นกัน โดยในหมู่เกาะแปซิฟิกมีการนำไปใช้เป็นยาแก้ปวด รักษาอาการติดเชื้อ ในแอฟริกามีรายงานว่าเป็นพืชสมุนไพรสำคัญ แต่ไม่ระบุว่านำไปใช้ทำอะไร ขณะที่ตำราฝรั่งเขียนว่าในเอเชียนำใช้รักษาภาวะเลือดออกในช่องคลอด

นายพิทักษ์ ตีเหล็ก เจ้าหนักงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ลักษณะของหญ้ารีแพร์ โดยต้นเล็กใบจะมีขนเล็กๆ นุ่มๆ หากต้นโตขึ้นมาจะไม่ค่อยมีขน ลักษณะพิเศษคือใบมีริ้วสีเขียวอ่อนเขียวแก่ตามเส้นแกนใบ หากลูบสัมผัสจากโคนใบถึงปลายใบจะมีความนุ่มลื่น แต่ถ้าลูบย้อนกลับมาจะรู้สึกสาก เป็นไม้ที่ทนที่ร่มได้ดี หากอยู่ที่แจ้งจะเตี้ยและมีสีอื่นปน เช่น สีม่วง การเจริญเติบโตอยู่ที่ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน การขึ้นจะมีลักษณะเป็นกอ ดอกช่อยาวขึ้นไป หากเดินผ่านเม็ดของดอกจะติดตามเสื้อผ้าได้ง่าย จึงทำให้เกิดการกระจายพันธุ์ไปที่อื่นๆ ได้ง่าย โดยหญ้านี้พบทั่วทุกภาคของไทย เนื่องจากขึ้นได้ดีในเขตร้อน เช่น โซนเอเชีย และแอฟริกา

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่











กำลังโหลดความคิดเห็น