>>ผู้หญิงยุคใหม่ที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม มีอยู่ไม่กี่อย่างที่ลดความมั่นใจของเธอลงได้ หนึ่งในนั้นคือความไม่มั่นใจในเรื่องเซ็กซ์ ถึงแม้จะหน้าตาสวย หุ่นดี แต่ถ้ามีภาวะ “ช่องคลอดไม่กระชับ” “ช่องคลอดหย่อน” หรือ ที่คุ้นเคยกันดีกับคำว่า “ช่องคลอดหลวม” ก็ทำให้เธอหมดความมั่นใจไปในทันทีได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อต้องลงสู่สนามรัก... ถึงแม้ว่าเซ็กซ์จะไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด แต่เซ็กซ์ก็เป็นเรื่องสำคัญมาก และแยกจากกันแทบไม่ออกระหว่างเรื่องอื่นๆ ในความสัมพันธ์ของคู่รัก การประสบกับปัญหาช่องคลอดหย่อน ไม่กระชับ ทำให้ผู้หญิงหลายคนขาดความมั่นใจ และกลายเป็นฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอน ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ภาวะช่องคลอดหย่อนยังส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิต และอาจลุกลามทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาได้อีกด้วย
ภาวะช่องคลอดไม่กระชับ-หย่อน-หลวม
ช่องคลอดไม่กระชับ-หย่อน-หลวม” เกิดจากการเสื่อมสภาพของผนังช่องคลอด ถ้าดูให้ลึกถึงระดับเซลล์การเสื่อมสภาพของผนังช่องคลอด มีสาเหตุหลักมาจากการเสื่อมสลายของเส้นใยคอลลาเจน โดยปกติผนังช่องคลอดมีเส้นใยคอลลาเจนที่ทำหน้าที่เหมือนโครงสปริงยึดตรึงให้ช่องคลอดกระชับและยืดหยุ่นดี เมื่อเรามีอายุมากขึ้น หรือเมื่อมีการขยายตัวของช่องคลอดจากการคลอดโดยธรรมชาติจะทำให้มีการเสื่อมหรือฉีกขาดของเส้นใยคอลลาเจน จนทำให้เกิดภาวะช่องคลอดช่องคลอดไม่กระชับในที่สุด สาเหตุที่ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่ไม่มารับการรักษา เพราะคนไข้บางรายไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่มาก แต่บางรายไม่มารับการรักษาเนื่องจากอาย หรือไม่ทราบว่าภาวะนี้สามารถรักษาได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าอุบัติการณ์ทั่วโลกจะพบคนไข้ช่องคลอดไม่กระชับในเปอร์เซ็นต์ที่สูง แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบคล้ายกันคือ คนไข้มาพบแพทย์ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ เนื่องจากมักคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องความเชื่อ เรื่องวัฒนธรรม ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของภาวะช่องคลอดไม่กระชับ
สาเหตุของภาวะช่องคลอดไม่กระชับนั้น เกิดจากผนังของช่องคลอดเสื่อมสภาพ โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจาก
1. อายุ โดยเฉพาะเมื่อถึงวัยหมดระดู ทำให้ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
2. พันธุกรรม
3. การตั้งครรภ์และการคลอดทางช่องคลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีคลอดยากหรือใช้เครื่องมือช่วยคลอด
แนวทางการรักษาภาวะช่องคลอดไม่กระชับ
ปัจจุบันสามารถแบ่งการรักษาออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่
1. การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน โดยการขมิบช่องคลอด (Kegel Exercise) หลักการคือทำให้กล้ามเนื้อที่พยุงช่องคลอดมีความแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้น ซึ่งได้ผลดีสำหรับคนไข้ที่อวัยวะอุ้งเชิงกรานหย่อนไม่มาก ส่วนในรายที่เป็นมาก แม้การขมิบช่องคลอดจะไม่ทำให้หาย แต่ก็สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้ และช่วยลดอาการปัสสาวะเล็ดได้ด้วยเช่นกัน วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีอาการไม่มากหรือเพิ่งเริ่มรู้สึกว่าช่องคลอดไม่กระชับ
2. การผ่าตัด เป็นการผ่าตัดที่เราคุ้นเคยกันในชื่อว่า “การรีแพร์ (Repair)” จุดประสงค์คือการตัดผนังช่องคลอดส่วนที่หย่อนออกและเย็บให้ผนังช่องคลอดแข็งแรงและกระชับมากขึ้น คนไข้ต้องใช้เวลาพักฟื้นตัวหลังการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์
3. การใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอด การใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดจัดเป็นนวัตกรรมที่เพิ่งนำมารักษาภาวะช่องคลอดไม่กระชับ ข้อดีของวิธีการรักษานี้คือ คนไข้ไม่เจ็บ ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังเลซอร์ หลักการการทำงานของเลเซอร์คือการเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียสที่บริเวณผนังช่องคลอด ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้คอลลาเจนที่ผนังช่องคลอดเกิดการหดตัวลงในทันที ส่งผลให้ผนังช่องคลอดหดตัวและกระชับขึ้น นอกเหนือจากการเกิดปฏิกิริยาการหดตัวของผนังช่องคลอดแล้ว ความร้อนยังกระตุ้นเนื้อเยื่อบริเวณผนังช่องคลอดให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ในช่วงเวลาอีก 1-3 เดือนถัดมา ทำให้ช่องคลอดกระชับและมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น
เลเซอร์กระชับช่องคลอด Laser Vaginal Tightening (LVT)
เลเซอร์กระชับช่องคลอด Laser Vaginal Tightening (LVT) ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูให้ช่องคลอดมีความกระชับมากขึ้น วิธีการนี้ใช้เลเซอร์เออเบียมแย็ก (Erbium:YAG) ยิงที่ผนังช่องคลอดโดยรอบ 360 องศา ผ่านหัวยิงที่พัฒนาเพื่อให้เกิดการกระจายของแสงอย่างสม่ำเสมอ พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นในผนังช่องคลอดจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ซึ่งเส้นใยคอลลาเจนที่สร้างขึ้นมาใหม่จะช่วยให้ช่องคลอดกระชับและยืดหยุ่นดีขึ้น เลเซอร์เออเบียมแย็กเป็นเลเซอร์ระบบเดียวกับที่แพทย์ผิวหนังใช้มานานแล้ว เพื่อรักษาริ้วรอย แผลหลุมสิวและยกกระชับผิว ซึ่งให้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจและมีความปลอดภัยสูง
จากงานวิจัยที่ทำในยุโรปที่ทำเสร็จเมื่อไม่นานมานี้เพื่อศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษาภาวะช่องคลอดไม่กระชับด้วยเลเซอร์เออเบียมแย็ก ในคนไข้ 21 รายที่ได้เข้ารับการรักษา 2 ครั้ง โดยมีการเว้นระยะห่างระหว่างการทำแต่ละครั้งประมาณ 15-30 วัน งานวิจัยนี้ใช้ทั้งคนไข้ แพทย์และการตอบแบบสอบถามเพื่อประเมินผลของการรักษา คนไข้เป็นผู้ประเมินความพึงพอใจหลังการรักษาโดยประเมินจาก ความพึงพอใจขณะมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน แพทย์ทำการประเมินระดับการหย่อนและการเปลี่ยนแปลงภายในของช่องคลอดก่อนและหลังการรักษาโดยการวัดจากชุดคำถาม PISQ-12 ที่ใช้เป็นมาตรฐานในการประเมินอาการหย่อนของอวัยวะเพศ และความพึงพอใจทางเพศ นอกจากนี้คนไข้ยังเป็นผู้ประเมินเกี่ยวกับการระคายเคืองและหรืออาการเจ็บในระหว่างขั้นตอนการรักษา
ผลการศึกษาพบว่า มีคนไข้จำนวน 20 ราย จากทั้งหมด 21 ราย (95%) รายงานว่า ช่องคลอดมีความกระชับขึ้น (ปานกลางและมาก) และได้รับการยืนยันจากคู่นอนว่าช่องคลอดกระชับขึ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ (85% ประเมินว่ามีความกระชับขึ้นมาก และ 15% บอกว่ายังไม่ค่อยได้ผล) 14% ของคนไข้มีจำนวนครั้งของการถึงจุดสุดยอดเพิ่มขึ้น การวัดความลึกของช่องคลอดพบว่าช่องคลอดหดตัวสั้นลงโดยเฉลี่ยประมาณ 1.2 ซม.
นวัตกรรมการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอด ดีอย่างไร
ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านเลเซอร์เพื่อเอามาใช้ในงานด้านการแพทย์อย่างมากมาย ที่เห็นทั่วไปมักมีการนำเลเซอร์มาใช้ทางด้านศัลยกรรมความงาม โดยล่าสุดมีนวัตกรรมใหม่ที่นำมารักษาภาวะช่องคลอดไม่กระชับ คือการใช้เลเซอร์ ต้องถือว่าเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่อาจได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ข้อดี คือ ทำได้ง่าย สะดวก คนไข้มีอาการเจ็บตัวน้อย สามารถทดแทนการผ่าตัดได้
นวัตกรรมการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอด เหมาะกับคนไข้ประเภทใด
นวัตกรรมการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอด เหมาะเฉพาะกับคนไข้ที่มีปัญหาช่องคลอดไม่กระชับหรือช่องคลอดหย่อนในระยะเบื้องต้น หลักการทำงานของเลเซอร์ คือ กระตุ้นเนื้อเยื่อที่มีการเสื่อมสภาพให้มีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมา หรือทำให้เนื้อเยื่อเดิมหดสั้นขึ้น กระชับขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่รองรับช่องคลอดมีความตึงตัวและแข็งแรงขึ้น การศึกษาวิจัยการรักษาช่องคลอดหย่อนด้วยเลเซอร์ในต่างประเทศ พบมีรายงานในเบื้องต้นว่าผลการรักษามีประสิทธิภาพดี สำหรับในเมืองไทยมีการทดลองใช้ในคนไข้จำนวนหนึ่ง จากผลการรายงานเบื้องต้นถือว่าคนไข้หลายรายมีการตอบสนองในทางที่ดี แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาวิจัย
ภาวะช่องคลอดไม่กระชับ-หย่อน-หลวม มีผลกระทบอย่างไร
ภาวะช่องคลอดไม่กระชับและหย่อนยานนี้ เป็นภาวะที่ทางการแพทย์ถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้น ถ้ารู้สึกว่าอาการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อชีวิต ควรจะมาพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วางแผนทำการรักษา และการรักษาในปัจจุบันก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนอย่างในอดีต เนื่องจากวิทยาการทางการแพทย์พัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ มีนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ เลเซอร์เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับกลุ่มคนที่เหมาะสมที่จะใช้เลเซอร์ในการรักษาภาวะนี้ โดยจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเหมือนในอดีต
ควรเตรียมตัวก่อนทำการรักษาอย่างไร
การรักษาด้วยเลเซอร์ เนื่องจากไม่ต้องพึ่งการดมยา ไม่ต้องฉีดยาชา จึงไม่ต้องเตรียมตัวมากเหมือนอย่างการผ่าตัด แต่ควรทำความสะอาดช่องคลอดให้สะอาด ระหว่างการทำเลเซอร์คนไข้อาจมีอาการร้อนทางช่องคลอดบ้างเล็กน้อย แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ ในคนไข้รายที่ทนความร้อนไม่ได้แพทย์จะใช้ยาชาชนิดพ่นบริเวณปากช่องคลอดก่อนทำเลเซอร์
ควรดูแลตัวเองหลังทำการรักษาอย่างไร
หลังจากทำการกระชับช่องคลอดด้วยเลเซอร์ เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนค่อนข้างต่ำมาก จึงไม่มีอะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คนไข้สามารถใช้ชีวิตและปฎิบัติกิจวัตรประจำวันได้ปกติ แต่ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 สัปดาห์
นอกจากนี้ แนะนำว่าหลังการรักษาแล้ว ควรหมั่นออกกำลังกายช่องคลอด หรือการขมิบช่องคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่คนไข้สามารถทำได้เอง โดยการขมิบช่องคลอดค้างไว้ 10 วินาที หลังจากนั้นจึงคลายตัวออก และทำซ้ำแบบเดิมเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้ววิธีการออกกำลังกายช่องคลอดนั้นก็สามารถทำได้หลายสูตรไม่มีตายตัว หลักการง่ายๆ ก็คือช่วยให้กล้ามเนื้อช่องคลอดได้ออกกำลังนั่นเอง
ทิ้งท้ายจากคุณหมอนุสรา
ในการเข้ารับการรักษาถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของผู้หญิง ซึ่งหมอเชื่อว่าผู้หญิงหลายคนที่มีปัญหาแต่ยังไม่กล้าเข้ามารับการรักษา เพราะด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ ความกลัว กังวล ความอายและอาจไม่ทราบว่ามีนวัตกรรมทันสมัยที่ช่วยได้ เราขอเป็นกำลังใจให้คุณ ว่าหากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้น คุณสามารถทำได้ โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงจิตใจและเพิ่มความมั่นใจและความกล้าให้กับตัวเอง เพราะผลของการรักษาจะทำให้คุณพอใจ มั่นใจ และมีความสุขมากขึ้น เพราะนวัตกรรมการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอด Laser Vaginal Tightening (LVT) แบบนี้ถือเป็นทางเลือกใหม่แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ ช่วยให้คนไข้ผู้หญิงสามารถเลือกรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในการรักษาควรเข้ารับการรักษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์ หรือโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน เพื่อทำให้มั่นใจว่าการรักษานี้เป็นไปอย่างปลอดภัยและได้รับผลการรักษาที่พึงพอใจ เหมาะสมตรงกับความต้องการและคาดหวังของคนไข้มากที่สุด
ปรึกษาแพทย์และทีมงานผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์ ไอสกาย (iSKY Center) ทั้ง 3 สาขา ได้แก่
สาขาหนองแขม โทร.0-2441-6969-70 (อยู่ใน รพ.วิชัยเวชอินเตอร์เนชั่นแนลหนองแขม ติดกับไทยทีวีสีช่อง 3)
สาขาชิดลม โทร.0-2656-0208-9 (อาคารเพรสสิเด้นท์เพลส ติดกับโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล) ล่าสุด สาขาบางนา โทร.0-2136-0936 (คอนโด The Coast ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางนา) หรือ www.iskycenter.com :: Text by FLASH