xs
xsm
sm
md
lg

จ่อปล่อย “หญิงกินี” กลับบ้าน หลังตรวจเลือดรอบ 2 ไม่พบ “อีโบลา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจาะเลือดหญิงกินีตรวจหาเชื้อ “อีโบลา” รอบ 2 รู้ผลพรุ่งนี้ “หมอประเสริฐ” ยันหากไม่พบเชื้อปล่อยตัวกลับบ้านได้ทันที พร้อมเลิกเฝ้าระวังผู้มีประวัติสัมผัสทั้ง 16 คน ระบุอาการล่าสุดหญิงกินีอาการดีขึ้น ไม่มีไข้แล้ว 2 วัน เผยยังคงมาตรการเฝ้าระวังประเทศระบาดเท่าเดิม ไม่รวม “เซเนกัล” ที่เพิ่งมีผู้ป่วย

วันนี้ (3 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กรมควบคุมโรค ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค (คร.) ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแนวทางชันสูตรและวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา แถลงข่าวความคืบหน้าอาการของหญิงชาวกินี อายุ 24 ปี ซึ่งเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีโบลา ภายหลังประชุมร่วมกับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. และคณะทำงานฯ ว่า หญิงชาวกินีคนดังกล่าว นับเป็นผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีโบลารายแรก โดยผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการครั้งที่ 1 ให้ผลเป็นลบ คือ ไม่พบเชื้ออีโบลา จากการติดตามอาการพบว่า ขณะนี้อาการดีขึ้น ไม่มีไข้มา 2 วัน โดยจะเจาะเลือดตรวจยืนยันซ้ำรอบ 2 ในวันนี้ ซึ่งนับเป็นวันที่ 5 ของการป่วย คาดว่าจะได้ผลตรวจยืนยันในวันที่ 6 ก.ย.

ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า หากผลการตรวจยืนยันรอบ 2 ยังคงไม่พบเชื้อก็สามารถปล่อยตัวหญิงรายดังกล่าวกลับบ้านได้ รวมถึงไม่ต้องติดตามเฝ้าระวังผู้ที่มีประวัติสัมผัสหญิงรายดังกล่าวอีก 16 คน เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยและผู้สัมผัสต้องเป็นกังวล แต่หากผลออกเป็นบวกก็จะให้การรักษาผู้ป่วย และต้องติดตามอาการผู้สัมผัสทั้ง 16 คน จนกว่าจะพ้นระยะการฟักตัวของโรคคือ 21 วัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หญิงรายดังกล่าวป่วยด้วยโรคอะไร หากไม่ได้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า ผู้ป่วยมาด้วยอาการไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ อาการเริ่มต้นคล้ายอีโบลา และไข้หวัดใหญ่ จึงสงสัยว่าป่วยเป็นโรคอีโบลา เนื่องจากมาจากประเทศที่มีโรคชุกชุมและระบาด แต่จากการตรวจเชื้อทั้งอีโบลาและไข้หวัดใหญ่ต่างให้ผลเป็นลบคือไม่พบเชื้อ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าป่วยด้วยโรคอะไร ซึ่งต่อไปนี้หากพบผู้เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรคอีก จะต้องมีการตรวจวิเคราะห์เชื้อทั้งหมดในคราวเดียว เพื่อดูว่าผู้ป่วยป่วยด้วยโรคใด

เมื่อถามว่าต้องมีการปรับปรุงระบบในการเฝ้าระวังเพิ่มเติมหรือไม่ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้นับเป็นเคสแรกที่ตรวจพบนับแต่เริ่มระบบ หากพบว่าระบบยังคงทำงานได้ดี มีความลื่นไหล ก็ให้คงไว้ตามเดิมไม่จำเป็นต้องแก้ไข แต่หากมีจุดใดที่บกพร่องก็ต้องแก้ไขไปตามระบบ สำหรับการสอบสวนโรคยังยึดตามหลักเกณฑ์เดิมในผู้ป่วย 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค คือ มีไข้ และเดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด 2. กลุ่มสงสัยว่าติดเชื้อ คือ มีอาการชัดเจนกว่ากลุ่มแรก คือ มีเลือดออก 3. อาการน่าจะเป็น คือ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยในพื้นที่ แต่ยังไม่มีผลตรวจยืนยัน และ 4. มีผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการชัดเจน ส่วนการพบผู้ป่วยอีโบลาเพิ่มที่ประเทศเซเนกัลนั้นมีไม่กี่ราย องค์การอนามัยโลกยังไม่ประกาศให้เป็นเขตโรค ดังนั้น มาตรการของไทยที่เฝ้าระวังประเทศที่มีการระบาดยังคงไว้ดังเดิมที่ 3 ประเทศ 1 เมือง คือ กินี เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และ เมืองลากอล ประเทศไนจีเรีย

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


























กำลังโหลดความคิดเห็น