เรือนพระยาศรีธรรมาธิราช ของไทย คว้ารางวัลดี การประกวดโครงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี 2557 ของยูเนสโก ระบุตัวอย่างสำคัญของความร่วมมือปกป้องคุ้มครองอาคารที่มีคุณค่าทางมรดกทั้งเป็นศูนย์การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการศึกษา ชุมชนไทย-จีน
นายทิม เคอร์ติส ประธานคณะกรรมการตัดสินและหัวหน้าแผนกวัฒนธรรม องค์การยูเนสโก กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประจำประเทศไทย ได้ประกาศผลการประกวดโครงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี 2557 เพื่อยกย่องบุคคลและองค์กรภาคเอกชน หรือโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการบูรณปฏิสังขรณ์อาคาร และสิ่งก่อสร้างที่เป็นมรดกอันทรงคุณค่าในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ในปีนี้ มีประเทศต่างๆ ส่งโครงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมเข้าร่วมประกวด รวม 46 โครงการ และคณะกรรมการได้คัดเลือกให้ได้รับรางวัล จำนวน 14 โครงการจาก 10 ประเทศ ผลการตัดสินในปีนี้ ไม่มีโครงการใดได้รับรางวัลยอดเยี่ยม
สำหรับรางวัลดี หรือ Award of Merit ได้แก่ 1. เรือนพระยาศรีธรรมาธิราช กรุงเทพฯ ประเทศไทย 2. ฟาร์มเอกเซเตอร์ เมืองเกลนวู้ด รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย 3. วัดศรีสักการ์กาดนิวาสินีเทวี หมู่บ้านคินไห แคว้นมหาราษฎระ ประเทศอินเดีย 4. โรงเก็บเรือแฟรงค์ตัน เมืองควีนส์ทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ และ 5. วัดวักไห่เชงเปี่ยว ประเทศสิงคโปร์
“ผลการตัดสินในปีนี้ไม่มีโครงการใดได้รับรางวัลยอดเยี่ยม แต่จำนวนโครงการที่ได้รับรางวัล จากยูเนสโก มีมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ สะท้อนให้เห็นว่างานอนุรักษ์ที่ดำเนินการโดยภาคเอกชนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกมีมาตรฐานสูงขึ้น สำหรับการพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการต่อการบูรณะเรือนพระยาศรีธรรมาธิราช คือ เป็นอาคารสมัยต้นศตวรรษที่ 20
เป็นตัวอย่างสำคัญของความมุ่งมั่นร่วมมือกันระหว่างผู้มีส่วนร่วมหลายหน่วย งานในการปกป้องคุ้มครองอาคารที่มีคุณค่าทางมรดก สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เจ้าของอาคาร และผู้เช่า มูลนิธิการศึกษาและวัฒนธรรมไทย-จีน ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ให้วิจัยประวัติศาสตร์ของอาคาร ทำให้ทราบถึงบริบทของแหล่งมรดกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
และเผยให้เห็นมัณฑนศิลป์อันล้วนเป็นงานช่างฝีมือ เช่น ห้องจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตร และสิ่งตกแต่งต่างๆ โครงการนี้ทำให้ภูมิทัศน์และสภาพอาคารทั้งภายนอกและภายในกลับคืนมาดังเดิม และหลังจากที่โครงการอนุรักษ์เสร็จสิ้น อาคารนี้จึงได้ใช้งานต่อในฐานะศูนย์การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการศึกษาระหว่างชุมชนไทยและจีน” นายทิม ระบุ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่