เตือนอย่าหลงเชื่อนายหน้าส่งไปทำงานนวดแผนไทยในเกาหลี ชี้ยังไม่มีผู้ประกอบการไทยไปเปิดธุรกิจสปาไทยและนวดไทย ย้ำกฎหมายท้องถิ่นสงวนสิทธิ์เฉพาะผู้พิการทางสายตาที่ผ่านการอบรมแล้วเท่านั้น แนะศึกษาข้อมูลก่อน
นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล แจ้งเตือนมาว่า ตามที่ได้ปรากฏในการรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยหลายแห่งเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ในรูปแบบของการล่อลวงหญิงไทย เพื่อมาทำงานเป็นพนักงานบริการนวดแผนโบราณที่สาธารณรัฐเกาหลี รวมทั้งมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการข่มขู่และใช้กำลังบังคับให้ค้าประเวณีร่วมด้วย โดยที่ผ่านมาฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ให้ความช่วยเหลือหญิงไทยในกรณีดังกล่าวอยู่เป็นระยะนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนที่กำลังจะเดินทางไป หรือมีแผนที่จะเดินทางไปทำงานยังสาธารณรัฐเกาหลีต้องตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์จึงขอแจ้งข้อมูลสำคัญเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ โดยปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการไทยไปดำเนินธุรกิจสปาไทยและนวดไทยในสาธารณรัฐเกาหลีเนื่องจากกฎหมายท้องถิ่นว่าด้วยเรื่องการให้บริการด้านสุขภาพของสาธารณรัฐเกาหลี (Medical Service Act) สงวนอาชีพผู้ให้บริการนวดไว้เฉพาะผู้พิการทางสายตาที่ผ่านการอบรมแล้วเท่านั้น ดังนั้น การประกอบธุรกิจนวดแผนไทย และผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริการนวดแผนไทย จึงถือเป็นกลุ่มบุคคลที่ทำผิดกฎหมายของสาธารณรัฐเกาหลี และอาจถูกจับกุม เนรเทศหรือบังคับให้ออกจากประเทศ รวมทั้งได้รับโทษตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ในการเดินทางเข้าสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อมาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับการตรวจลงตรา (Visa) ประเภทที่ถูกต้องตามกฎหมายท้องถิ่น แต่กลับอาศัยประโยชน์จากการได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวเป็นระยะเวลา 90 วัน นั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายท้องถิ่น อาจนำมาซึ่งการถูกตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การบังคับให้ออกนอกประเทศ และการขึ้นบัญชีบุคคลที่รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีห้ามเข้าประเทศ (Blacklist) ดังนั้น บุคคลที่จะเดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการประกอบอาชีพ จึงต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทที่อนุญาตให้สามารถทำงานได้เท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในกรณีดังกล่าวหรือผู้ที่พบเห็นเบาะแสสามารถติดต่อฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล โดยสามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ +82 2 795 0095, +82 2 795 3258, +82 795 3098 ต่อ 101 - 108 เพื่อแจ้งรายชื่อและนามสกุล รวมทั้งข้อมูลบุคคลของผู้เดือดร้อน หรือให้ผู้ปกครอง ญาติ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ติดต่อกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ได้ที่ 02 575 1048 หรือ 02 981 7171 ต่อ 3106 เพื่อยื่นคำร้องพร้อมแจ้งข้อมูลบุคคลของผู้เดือดร้อนเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล แจ้งเตือนมาว่า ตามที่ได้ปรากฏในการรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยหลายแห่งเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ในรูปแบบของการล่อลวงหญิงไทย เพื่อมาทำงานเป็นพนักงานบริการนวดแผนโบราณที่สาธารณรัฐเกาหลี รวมทั้งมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการข่มขู่และใช้กำลังบังคับให้ค้าประเวณีร่วมด้วย โดยที่ผ่านมาฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ให้ความช่วยเหลือหญิงไทยในกรณีดังกล่าวอยู่เป็นระยะนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนที่กำลังจะเดินทางไป หรือมีแผนที่จะเดินทางไปทำงานยังสาธารณรัฐเกาหลีต้องตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์จึงขอแจ้งข้อมูลสำคัญเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ โดยปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการไทยไปดำเนินธุรกิจสปาไทยและนวดไทยในสาธารณรัฐเกาหลีเนื่องจากกฎหมายท้องถิ่นว่าด้วยเรื่องการให้บริการด้านสุขภาพของสาธารณรัฐเกาหลี (Medical Service Act) สงวนอาชีพผู้ให้บริการนวดไว้เฉพาะผู้พิการทางสายตาที่ผ่านการอบรมแล้วเท่านั้น ดังนั้น การประกอบธุรกิจนวดแผนไทย และผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริการนวดแผนไทย จึงถือเป็นกลุ่มบุคคลที่ทำผิดกฎหมายของสาธารณรัฐเกาหลี และอาจถูกจับกุม เนรเทศหรือบังคับให้ออกจากประเทศ รวมทั้งได้รับโทษตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ในการเดินทางเข้าสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อมาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับการตรวจลงตรา (Visa) ประเภทที่ถูกต้องตามกฎหมายท้องถิ่น แต่กลับอาศัยประโยชน์จากการได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวเป็นระยะเวลา 90 วัน นั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายท้องถิ่น อาจนำมาซึ่งการถูกตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การบังคับให้ออกนอกประเทศ และการขึ้นบัญชีบุคคลที่รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีห้ามเข้าประเทศ (Blacklist) ดังนั้น บุคคลที่จะเดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการประกอบอาชีพ จึงต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทที่อนุญาตให้สามารถทำงานได้เท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในกรณีดังกล่าวหรือผู้ที่พบเห็นเบาะแสสามารถติดต่อฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล โดยสามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ +82 2 795 0095, +82 2 795 3258, +82 795 3098 ต่อ 101 - 108 เพื่อแจ้งรายชื่อและนามสกุล รวมทั้งข้อมูลบุคคลของผู้เดือดร้อน หรือให้ผู้ปกครอง ญาติ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ติดต่อกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ได้ที่ 02 575 1048 หรือ 02 981 7171 ต่อ 3106 เพื่อยื่นคำร้องพร้อมแจ้งข้อมูลบุคคลของผู้เดือดร้อนเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
