พม. จัดประชุมภาคีด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียนครั้งที่ 3 มีตัวแทนจาก 10 ประเทศสมาชิกเข้าร่วม เร่งพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานงานสังคมสงเคราะห์รับเออีซี
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดการประชุมภาคีความร่วมมือด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียน ครั้งที่ 3 เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้ปฏิบัติงานนักการศึกษา และสถาบันการศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์ของประเทศไทย โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศบวกสาม ได้แก่ ประเทศจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมทั้งผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนด้านสังคมสงเคราะห์ เข้าร่วมประชุม
นายวิเชียร กล่าวว่า จากการริเริ่มของประเทศฟิลิปปินส์และไทยที่ทำให้เกิดภาคีความร่วมมือด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียน ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งและความเป็นหนึ่งเดียว ระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านสังคมสงเคราะห์ นักการศึกษา และสถาบันการศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์ โดยในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในปีที่ผ่านมา ได้ให้การรับรองปฏิญญาที่สำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับงานสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ อาทิ ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการคุ้มครองทางสังคม ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อสตรีและการขจัดความรุนแรงต่อเด็ก ปฏิญญาบันดาร์เสรีเบกาวันว่าด้วยผู้ประกอบการเยาวชนและการจ้างงาน นอกจากนี้ ในปีหน้า จะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน จึงคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ที่ดีขึ้น เช่น การเพิ่มศักยภาพในการบริโภค การมีขนาดเศรษฐกิจที่โตขึ้น มีแรงดึงดูดเงินลงทุนที่อยู่นอกอาเซียนสูงขึ้น เป็นต้น
ปลัด พม. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบผลสำเร็จในการพัฒนางานสังคมสงเคราะห์ โดยได้มีการออกกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ขึ้น แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพื่อให้นักสังคมสงเคราะห์สามารถแสดงบทบาทได้อย่างเต็มที่ในทุกระดับ โดยการประชุมครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญ คือ บทบาทของงานสังคมสงเคราะห์ในสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจและสังคม และการร่วมกันหาแนวทางในการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติงานของภาคี ปี 2010 - 2014 ให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งการกำหนดประเด็นที่ควรให้ความสำคัญในการดำเนินงานของภาคีภายหลังจากการเป็นประชาคมอาเซียน อีกด้วย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดการประชุมภาคีความร่วมมือด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียน ครั้งที่ 3 เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้ปฏิบัติงานนักการศึกษา และสถาบันการศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์ของประเทศไทย โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศบวกสาม ได้แก่ ประเทศจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมทั้งผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนด้านสังคมสงเคราะห์ เข้าร่วมประชุม
นายวิเชียร กล่าวว่า จากการริเริ่มของประเทศฟิลิปปินส์และไทยที่ทำให้เกิดภาคีความร่วมมือด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียน ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งและความเป็นหนึ่งเดียว ระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านสังคมสงเคราะห์ นักการศึกษา และสถาบันการศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์ โดยในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในปีที่ผ่านมา ได้ให้การรับรองปฏิญญาที่สำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับงานสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ อาทิ ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการคุ้มครองทางสังคม ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อสตรีและการขจัดความรุนแรงต่อเด็ก ปฏิญญาบันดาร์เสรีเบกาวันว่าด้วยผู้ประกอบการเยาวชนและการจ้างงาน นอกจากนี้ ในปีหน้า จะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน จึงคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ที่ดีขึ้น เช่น การเพิ่มศักยภาพในการบริโภค การมีขนาดเศรษฐกิจที่โตขึ้น มีแรงดึงดูดเงินลงทุนที่อยู่นอกอาเซียนสูงขึ้น เป็นต้น
ปลัด พม. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบผลสำเร็จในการพัฒนางานสังคมสงเคราะห์ โดยได้มีการออกกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ขึ้น แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพื่อให้นักสังคมสงเคราะห์สามารถแสดงบทบาทได้อย่างเต็มที่ในทุกระดับ โดยการประชุมครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญ คือ บทบาทของงานสังคมสงเคราะห์ในสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจและสังคม และการร่วมกันหาแนวทางในการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติงานของภาคี ปี 2010 - 2014 ให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งการกำหนดประเด็นที่ควรให้ความสำคัญในการดำเนินงานของภาคีภายหลังจากการเป็นประชาคมอาเซียน อีกด้วย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่