xs
xsm
sm
md
lg

สิ่งที่ลูกไม่ควรทำกับพ่อแม่ / ดร.แพง ชินพงศ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
วันแม่แห่งชาติ (12 สิงหาคม) ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของพวกเราชาวไทย เพราะตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ของปวงชนชาวไทย และเป็นวันที่ช่วยย้ำเตือนให้พวกเราได้แสดงความกตัญญูต่อคุณแม่ ทั้งด้วยคำพูดและด้วยการปฏิบัติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในฐานะของลูกที่ดี เราต้องแสดงความกตัญญูต่อคุณพ่อคุณแม่ของเราทุกวันเวลา ไม่เฉพาะแต่ในเทศกาลวันพ่อหรือวันแม่อย่างเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเหลือเกินที่ปัจจุบันนี้เรามักได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆ ถึงกรณีที่ลูกทำร้ายพ่อแม่สารพัดทั้งร่างกาย จิตใจ และรุนแรงจนถึงทำลายชีวิตของพ่อและแม่ ดังนั้น จึงอยากให้ลูกๆ ปฏิบัติตนกับพ่อแม่ให้ดีเพื่อให้พ่อแม่มีความสุข โดยหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำตัวไม่ดีกับคุณพ่อคุณแม่ ดังนี้

1.หยาบคายกับพ่อแม่ มีลูกๆ หลายคนกระทำหยาบคายกับพ่อแม่ด้วยคำพูด เช่น พูดคำเถียงคำ ตวาดใส่อารมณ์ พูดประชดประชัน ว่ากล่าวให้น้อยใจ บางคนถึงขนาดพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคาย ขึ้นอี ขึ้นไอ้ ขึ้นมึง ขึ้นกู บางคนหยาบคายกับพ่อแม่ด้วยการกระทำ เช่น ชักสีหน้าใส่ ทำกระแทกกระทั้น ขว้างปาสิ่งของใส่ ทำร้ายร่างกายพ่อแม่ก็มี ไม่น่าเชื่อว่าในสังคมของเราทุกวันนี้มีลูกที่กระทำหยาบคายกับพ่อแม่อยู่มากมาย ผู้เขียนเคยรู้จักคุณแม่ท่านหนึ่งซึ่งมีอายุมากแล้วและมีลูกชายคนเดียว คุณแม่ท่านนี้ได้ร้องไห้ระบายให้ฟังว่าลูกชอบตวาดใส่ และถ้าวันไหนที่ลูกอารมณ์เสียมากๆ ก็ขว้างปาสิ่งของใส่ก็มี ผู้เขียนได้ฟังแล้วก็รู้สึกสะท้อนใจและรู้สึกสงสารคุณแม่ท่านนี้เหลือเกิน จึงอยากให้ลูกที่เคยประพฤติตนหยาบคายกับพ่อแม่ได้เลิกจากการกระทำนี้เสีย เพราะมันทำให้พ่อแม่ของเราเจ็บปวดเสียใจ

2.ล้างผลาญพ่อแม่ พ่อแม่มีหน้าที่เลี้ยงดูลูก ให้ความรัก ความเอาใจใส่ ให้สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต ทั้งอาหาร ที่อยู่ เครื่องนุ่งห่ม ดูแลรักษาโรค ให้การศึกษา ให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมถึงให้ในสิ่งนอกเหนือจากความจำเป็นแต่ทำให้ลูกรู้สึกพอใจและมีความสุข เช่น ของเล่น โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้การท่องเที่ยวพักผ่อน การให้ของพ่อแม่ไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่าการให้ลูกได้มีความสุขสบายทั้งทางร่างกายและจิตใจ

แต่ลูกบางคนไม่เคยเข้าใจว่าการให้ของพ่อแม่ของตนเองนั้นบางครั้งก็มีขีดจำกัด อาจเพราะฐานะทางการเงินหรือความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญกว่าจึงไม่สามารถให้ลูกได้อย่างเต็มที่ทั้งๆ ที่ใจของพ่อแม่อยากจะให้ลูกมากแค่ไหนก็ตาม เมื่อลูกไม่เข้าใจหรือไม่ยอมที่จะเข้าใจถึงเหตุผลนี้ก็มักจะเรียกร้องเอาในสิ่งที่ตนต้องการ เช่น ขอเงินเยอะๆ เพื่อเอาไปเที่ยวกับเพื่อน ขอโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่เอี่ยมเพื่อให้ไม่น้อยหน้าใคร ขอรถยนต์ป้ายแดงเพื่อขับไปเรียนหนังสือ ขอคอนโดเพื่อจะได้อยู่อย่างอิสระเสรี ดังนั้น เราจึงไม่ควรจะรบกวนพ่อแม่มากจนเกินไป ควรใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ไม่สุรุ่ยสุร่าย และเมื่อเรียนจบมีงานทำแล้วก็ควรหาเลี้ยงตนเองโดยที่ไม่ควรมารบกวนพ่อแม่และหากพอมีเหลือก็แบ่งปันให้ท่านได้ชื่นใจบ้าง อย่าเป็นลูกที่ไม่รู้จักโตที่ยังคอยมาเบียดเบียนพ่อแม่ บางคนถึงขนาดยักยอกโกงเอาสมบัติของพ่อแม่ไปขายกินจนทำให้พ่อแม่พบกับความยากลำบาก ก็มีอยู่ให้ได้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่มากมายทุกวันนี้

3.ทอดทิ้งพ่อแม่ น่าแปลกที่ยิ่งสังคมเจริญมากขึ้นเท่าไหร่ จิตใจของคนยิ่งตกต่ำลงมากขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันเราพบว่ามีคนสูงอายุถูกทอดทิ้งมากมายและยิ่งน่าสลดใจมากไปกว่านั้นคือคนแก่ที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวและลำบากขัดสนนั้นมักจะมีลูกหลานกันทั้งนั้น แต่ลูกหลานกลับไม่ดูแลเลย ผู้เขียนเคยไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่บ้านพักคนชราแห่งหนึ่งและได้มีโอกาสคุยกับคุณยายท่านหนึ่ง ท่านเล่าให้ฟังว่ามีลูกชายสองคน เรียนจบปริญญาตรีทั้งคู่ เมื่อแต่งงานมีครอบครัวแล้วต่างก็แยกออกไปอยู่กับภรรยา นานๆ ก็จะมาเยี่ยมสักทีหนึ่ง แต่หลายๆ ปีหลังมานี้ ลูกชายทั้งสองหายไปไม่เคยมาเยี่ยมเยียนเลย แล้วคุณยายก็ไม่รู้จะติดต่อพวกเขาอย่างไรด้วย ในที่สุดคุณยายเลยตัดสินใจมาอยู่ที่บ้านพักคนชราเพราะไม่อยากอยู่อย่างโดดเดี่ยว อีกทั้งมีสุขภาพที่ไม่ดีเท่าไหร่จึงอยากอยู่ในที่ที่มีคนดูแลใกล้ชิด น่าสงสารคุณยายท่านนี้จริงๆ ที่มีลูกถึงสองคนแต่ไม่สามารถเลี้ยงดูแม่เพียงคนเดียวได้

สำหรับผู้เขียนเองก็มีคุณพ่อคุณแม่ที่อายุมากแล้วและมีโรคประจำตัวด้วยกันทั้งคู่ คุณแม่ของผู้เขียนมีปัญหาในเรื่องของการเดินที่ต้องคอยจูงและต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตลอด นอกจากนี้ ระยะหลังยังมีปัญหาในเรื่องของการได้ยินเนื่องจากประสาทหูเสื่อมต้องใส่เครื่องช่วยฟัง เวลาผู้เขียนพูดคุยกับคุณแม่จะต้องพูดเสียงดังมากๆเพราะกลัวว่าท่านจะไม่ได้ยิน จนบางครั้งคุณแม่จะบ่นว่า “ไม่ต้องพูดดังขนาดนั้นก็ได้ ฟังแล้วเหมือนกับกำลังตวาดแม่” แต่พอลดเสียงเบาๆ ลงก็จะไม่ได้ยินแล้วบอกให้ผู้เขียนพูดให้ดังขึ้นอีก ซึ่งก็เป็นวนเวียนสลับกันอยู่เช่นนี้อยู่นานกว่าที่ผู้เขียนจะปรับตัวได้ ซึ่งก็ต้องใช้ความอดทนมากพอสมควร แต่ทุกครั้งที่ท้อแท้และเหนื่อย ก็จะนึกถึงภาพที่คุณแม่อุ้มเรา กอดเรา ดูแลและเลี้ยงดูเรามาอย่างอบอุ่นและดีที่สุด ขับรถรับส่งเราไปโรงเรียนทุกวัน รับฟังและอยู่ข้างๆ เราเสมอในวันที่เราอ่อนแอและมีความทุกข์ แล้วในวันนี้ที่ท่านป่วยทำไมเราถึงไม่เข้าใจท่านและไม่รู้จักอดทน

คุณพ่อคุณแม่เป็นคนที่รักและมีบุญคุณกับชีวิตของลูกอย่างที่สุด ดังนั้น ในฐานะของลูกที่ดี เราจึงต้องประพฤติตนให้คุณพ่อคุณแม่ของเรามีความสุขกาย สบายใจ อีกทั้งมีความภูมิใจในตัวของเรา Happy Mother's Day สุขสันต์วันแม่ถึงผู้อ่านทุกท่าน

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น