เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหิน บุก ก.อุตสาหกรรม ยื่นคำขาดยกเลิกใช้แร่ใยหิน รองอธิบดีกรมโรงงาน ยันส่งเรื่องต่อให้ คสช. พิจารณาแล้ว ขออุบเป็นความลับ วอนเห็นใจระบบราชการมีขั้นตอนมากทำให้ล่าช้า
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงอุตสาหกรรม กลุ่มเครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย (T-BAN) นำโดย นางสมบุญ สีคำดอกแค ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย (T-BAN) เข้ายื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินการยกเลิกการนำเข้าและใช้แร่ใยหินในประเทศไทย โดยมี นายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้รับมอบแทน
นางสมบุญ กล่าวภายหลังว่า ขณะนี้ทราบว่า กระทรวงสาธารสุข (สธ.) ได้ส่งผลสรุปของคณะทำงานเกี่ยวกับเรื่องแร่ใยหิน มาให้กระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว โดยมีมติขอให้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินในทุกผลิตภัณฑ์โดยทันที ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 พร้อมเสนอให้สำนักควบคุมวัตถุอันตรายกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาให้ใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และให้ปรับค่ามาตรฐานของฝุ่นใยหินในที่ทำงานให้เหลือ 0.1 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ.ซม. จากปัจจุบันที่สูงถึง 5 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ.ซม. และสนับสนุนเทคโนโลยีการใช้วัสดุหรือสารทดแทน มาตรการป้องกันการรับสัมผัส ปรับปรุงระบบวินิจฉัย รวมไปถึงต้องจัดกองทุนผู้ได้รับผลกระทบจากแร่ใยหิน ดังนั้น ทางเครือข่ายฯ T-BAN เดินทางมาเพื่อติดตามทวงถามถึงการจัดทำแผนงดนำเข้าและยกเลิกการใช้ผลิตภัณฑ์แร่ใยหินของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมเคยแจ้งว่า จะยกเลิกให้ได้ภายใน 2-5 ปี ตามมติ ครม. ดังกล่าว แต่จนปัจจุบันระยะเวลาล่วงเลยมาถึง 3 ปีแล้วก็ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด
“ขอเรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นแก่สุขภาพของคนไทย เลิกซื้อเวลาให้ภาคธุรกิจได้แล้ว เพราะตลอด 70 ปีที่ผ่านมา คนไทยต้องตายด้วยโรคมะเร็งจากแร่ใยหินจำนวนมาก กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเสนอยกเลิกการใช้แร่ใยหินโดยทันที และต้องเสนอเรื่องไปยัง คสช. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจอยู่ในเวลานี้ เพื่อเร่งดำเนินการเร่งรัดออกกฎหมายบังคับใช้โดยด่วนต่อไป โดยต่อไป เครือข่าย T-BAN จะติดตามสอบถามความคืบหน้าจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ของ คสช. ว่าจะมีมาตรการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร” นางสมบุญ กล่าว
ด้าน นายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ก่อนที่ทางเครือข่าย T-BAN จะเข้ายื่นหนังสือนั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ทำเรื่องเสนอขึ้นไปตามลำดับถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาแร่ใยหินต่อ คสช.แล้ว ทั้งนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมไม่ได้เพิกเฉย หรือเอาใจกลุ่มนายทุนแต่อย่างใด แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าช่วงระยะ 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง และมีการปิดล้อมสถานที่ราชการจนไม่สามารถทำงานได้ ทำให้การส่งเรื่องต่อต้องพักไว้ก่อน แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มเป็นปกติ เราก็เร่งดำเนินการให้ทันที สำหรับหนังสือจากกระทรวงสาธารณสุขนั้น เพิ่งจะมาถึงกระทรวงอุตสาหกรรมในวันนี้ (8 สิงหาคม) และตนจะดำเนินการเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยด่วน และอาจจะต้องเชิญตัวแทนจากทางกระทรวงสาธารณสุขมาชี้แจง ส่วนความเห็นของเครือข่าย T-BAN นั้น ได้รวบรวมเอาไว้แล้ว และอาจจะเชิญมาประชุมด้วยเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ทั้งนี้ แม้จะได้เสนอความเห็นไปยัง คสช. แล้ว แต่หากมีข้อมูลใหม่ก็ยังสามารถเสนอเพิ่มเติมได้อีก
“ในฐานะคนไทยคนหนึ่งเข้าใจดีถึงเจตนาของทางเครือข่าย T-BAN ที่ต้องการปกป้องสุขภาพของคนไทย อย่างไรก็ตาม อยากขอความเห็นใจการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย เพราะเราอยู่ในระบบราชการมีหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง และไม่มีอำนาจตัดสินใจ และยังต้องรับฟังความเห็นของทั้งสองฝ่าย เราทำงานโดยยึดหลักเดินสายกลาง ส่วนข้อเสนอที่ส่งไปยัง คสช. นั้น ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่า เสนอให้ยกเลิกโดยทันที หรือให้ยกเลิกภายใน 2 - 5 ปี เพราะต้องพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียโดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดกับภาคอุตสาหกรรม หากจะต้องยกเลิกการใช้โดยทันที เนื่องจากมีการลงทุนไปจำนวนมหาศาล”นายศักดา กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงอุตสาหกรรม กลุ่มเครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย (T-BAN) นำโดย นางสมบุญ สีคำดอกแค ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย (T-BAN) เข้ายื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินการยกเลิกการนำเข้าและใช้แร่ใยหินในประเทศไทย โดยมี นายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้รับมอบแทน
นางสมบุญ กล่าวภายหลังว่า ขณะนี้ทราบว่า กระทรวงสาธารสุข (สธ.) ได้ส่งผลสรุปของคณะทำงานเกี่ยวกับเรื่องแร่ใยหิน มาให้กระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว โดยมีมติขอให้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินในทุกผลิตภัณฑ์โดยทันที ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 พร้อมเสนอให้สำนักควบคุมวัตถุอันตรายกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาให้ใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และให้ปรับค่ามาตรฐานของฝุ่นใยหินในที่ทำงานให้เหลือ 0.1 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ.ซม. จากปัจจุบันที่สูงถึง 5 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ.ซม. และสนับสนุนเทคโนโลยีการใช้วัสดุหรือสารทดแทน มาตรการป้องกันการรับสัมผัส ปรับปรุงระบบวินิจฉัย รวมไปถึงต้องจัดกองทุนผู้ได้รับผลกระทบจากแร่ใยหิน ดังนั้น ทางเครือข่ายฯ T-BAN เดินทางมาเพื่อติดตามทวงถามถึงการจัดทำแผนงดนำเข้าและยกเลิกการใช้ผลิตภัณฑ์แร่ใยหินของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมเคยแจ้งว่า จะยกเลิกให้ได้ภายใน 2-5 ปี ตามมติ ครม. ดังกล่าว แต่จนปัจจุบันระยะเวลาล่วงเลยมาถึง 3 ปีแล้วก็ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด
“ขอเรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นแก่สุขภาพของคนไทย เลิกซื้อเวลาให้ภาคธุรกิจได้แล้ว เพราะตลอด 70 ปีที่ผ่านมา คนไทยต้องตายด้วยโรคมะเร็งจากแร่ใยหินจำนวนมาก กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเสนอยกเลิกการใช้แร่ใยหินโดยทันที และต้องเสนอเรื่องไปยัง คสช. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจอยู่ในเวลานี้ เพื่อเร่งดำเนินการเร่งรัดออกกฎหมายบังคับใช้โดยด่วนต่อไป โดยต่อไป เครือข่าย T-BAN จะติดตามสอบถามความคืบหน้าจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ของ คสช. ว่าจะมีมาตรการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร” นางสมบุญ กล่าว
ด้าน นายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ก่อนที่ทางเครือข่าย T-BAN จะเข้ายื่นหนังสือนั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ทำเรื่องเสนอขึ้นไปตามลำดับถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาแร่ใยหินต่อ คสช.แล้ว ทั้งนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมไม่ได้เพิกเฉย หรือเอาใจกลุ่มนายทุนแต่อย่างใด แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าช่วงระยะ 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง และมีการปิดล้อมสถานที่ราชการจนไม่สามารถทำงานได้ ทำให้การส่งเรื่องต่อต้องพักไว้ก่อน แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มเป็นปกติ เราก็เร่งดำเนินการให้ทันที สำหรับหนังสือจากกระทรวงสาธารณสุขนั้น เพิ่งจะมาถึงกระทรวงอุตสาหกรรมในวันนี้ (8 สิงหาคม) และตนจะดำเนินการเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยด่วน และอาจจะต้องเชิญตัวแทนจากทางกระทรวงสาธารณสุขมาชี้แจง ส่วนความเห็นของเครือข่าย T-BAN นั้น ได้รวบรวมเอาไว้แล้ว และอาจจะเชิญมาประชุมด้วยเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ทั้งนี้ แม้จะได้เสนอความเห็นไปยัง คสช. แล้ว แต่หากมีข้อมูลใหม่ก็ยังสามารถเสนอเพิ่มเติมได้อีก
“ในฐานะคนไทยคนหนึ่งเข้าใจดีถึงเจตนาของทางเครือข่าย T-BAN ที่ต้องการปกป้องสุขภาพของคนไทย อย่างไรก็ตาม อยากขอความเห็นใจการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย เพราะเราอยู่ในระบบราชการมีหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง และไม่มีอำนาจตัดสินใจ และยังต้องรับฟังความเห็นของทั้งสองฝ่าย เราทำงานโดยยึดหลักเดินสายกลาง ส่วนข้อเสนอที่ส่งไปยัง คสช. นั้น ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่า เสนอให้ยกเลิกโดยทันที หรือให้ยกเลิกภายใน 2 - 5 ปี เพราะต้องพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียโดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดกับภาคอุตสาหกรรม หากจะต้องยกเลิกการใช้โดยทันที เนื่องจากมีการลงทุนไปจำนวนมหาศาล”นายศักดา กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
