สอศ. จ่อประกาศใช้ประกาศกระทรวง จัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี หวังวางมาตรฐานการจัดทวิภาคีในทุกวิทยาลัยให้มีคุณภาพ ตั้งเป้าขยายทวิภาคีครบทั้ง 421 วิทยาลัยในทุกสาขาวิชาภายในปี 59
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เดินหน้าสร้างมาตรฐานในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี โดยได้ยกร่างประกาศกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีขึ้น เพื่อกำหนดมาตรฐานของสถานประกอบการที่จะมาร่วมจัดการศึกษาระบบทวิภาคี รวมไปถึงกำหนดมาตรฐานของการจัดการเรียนการสอนและรายละเอียดอื่นทุกๆ ด้าน ขณะนี้ ร่างประกาศกระทรวงฯดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเสนอเข้าสู่คณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ในวันที่ 3 ก.ย. เมื่อ กอศ. เห็นชอบแล้ว จะได้เสนอให้รักษาการ รมว.ศธ. พิจารณาและส่งลงนามในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
สาระสำคัญในร่างประกาศดังกล่าว จะกำหนดเกณฑ์มาตรฐานด้านต่างๆ ของการจัดทวิภาคีไว้ ที่สำคัญ เช่น กำหนดโครงสร้างหลักสูตรให้เป็นการจัดการเรียนการสอนในระบบและในระบบทวิภาคี ในสัดส่วน 50 : 50 กำหนดสมรรถนะตามหลักสูตรที่จะต้องเกิดกับผู้เรียนในระหว่างเข้าไปเรียนรู้ในสถานประกอบการ ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันว่า ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทุกทักษะที่จำเป็นจากสถานประกอบการ กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นครูนิเทศก์ และครูฝึกด้วย รวมทั้งกำหนดคุณสมบัติของสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการทวิภาคีด้วย เบื้องต้นจะเป็นสถานประกอบการที่มีความเข้มแข็งและเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพนั่นๆ กำหนดให้สถานประกอบการที่ร่วมจัดทวิภาคีสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่าย เป็นการจูงใจให้สถานประกอบการสนใจร่วมโครงการทวิภาคี
“ที่ผ่านมา การจัดทวิภาคีเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างทำ ต่างมาตรฐาน สอศ. จึงคิดว่าควรจะมีการจัดทำมาตรฐานกลางขึ้นมา เป็นแนวปฏิบัติที่ทุกทวิภาคีต้องดำเนินการตาม เพื่อให้การจัดทวิภาคีในทุกสาขาวิชาของแต่ละวิทยาลัยได้มาตรฐานทัดเทียมกัน ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการการันตีว่า เด็กจะได้เรียนที่มีคุณภาพสูงสุด” นายชัยพฤกษ์ กล่าวและว่า ขณะนี้ วิทยาลัยสังกัด สอศ. ประมาณ 400 แห่ง จากทั้งหมด 421 แห่งทั่วประเทศ มีการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีในบางสาขาวิชาอยู่แล้ว แต่ สอศ. ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2559 วิทยาลัยทั้ง 421 แห่ง ต้องจัดการศึกษาในระบบทวิภาคีให้ครบทุกสาขาวิชา
ติดตาม Instagram และ Facebook
Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
allowtransparency="true">
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เดินหน้าสร้างมาตรฐานในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี โดยได้ยกร่างประกาศกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีขึ้น เพื่อกำหนดมาตรฐานของสถานประกอบการที่จะมาร่วมจัดการศึกษาระบบทวิภาคี รวมไปถึงกำหนดมาตรฐานของการจัดการเรียนการสอนและรายละเอียดอื่นทุกๆ ด้าน ขณะนี้ ร่างประกาศกระทรวงฯดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเสนอเข้าสู่คณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ในวันที่ 3 ก.ย. เมื่อ กอศ. เห็นชอบแล้ว จะได้เสนอให้รักษาการ รมว.ศธ. พิจารณาและส่งลงนามในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
สาระสำคัญในร่างประกาศดังกล่าว จะกำหนดเกณฑ์มาตรฐานด้านต่างๆ ของการจัดทวิภาคีไว้ ที่สำคัญ เช่น กำหนดโครงสร้างหลักสูตรให้เป็นการจัดการเรียนการสอนในระบบและในระบบทวิภาคี ในสัดส่วน 50 : 50 กำหนดสมรรถนะตามหลักสูตรที่จะต้องเกิดกับผู้เรียนในระหว่างเข้าไปเรียนรู้ในสถานประกอบการ ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันว่า ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทุกทักษะที่จำเป็นจากสถานประกอบการ กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นครูนิเทศก์ และครูฝึกด้วย รวมทั้งกำหนดคุณสมบัติของสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการทวิภาคีด้วย เบื้องต้นจะเป็นสถานประกอบการที่มีความเข้มแข็งและเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพนั่นๆ กำหนดให้สถานประกอบการที่ร่วมจัดทวิภาคีสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่าย เป็นการจูงใจให้สถานประกอบการสนใจร่วมโครงการทวิภาคี
“ที่ผ่านมา การจัดทวิภาคีเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างทำ ต่างมาตรฐาน สอศ. จึงคิดว่าควรจะมีการจัดทำมาตรฐานกลางขึ้นมา เป็นแนวปฏิบัติที่ทุกทวิภาคีต้องดำเนินการตาม เพื่อให้การจัดทวิภาคีในทุกสาขาวิชาของแต่ละวิทยาลัยได้มาตรฐานทัดเทียมกัน ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการการันตีว่า เด็กจะได้เรียนที่มีคุณภาพสูงสุด” นายชัยพฤกษ์ กล่าวและว่า ขณะนี้ วิทยาลัยสังกัด สอศ. ประมาณ 400 แห่ง จากทั้งหมด 421 แห่งทั่วประเทศ มีการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีในบางสาขาวิชาอยู่แล้ว แต่ สอศ. ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2559 วิทยาลัยทั้ง 421 แห่ง ต้องจัดการศึกษาในระบบทวิภาคีให้ครบทุกสาขาวิชา
ติดตาม Instagram และ Facebook
Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
allowtransparency="true">