คุรุสภา ตั้ง คกก.1 ชุด หาหนทางให้ผู้จบวิชาชีพอื่นมาเป็นครู แก้ปัญหาขาดแคลนครูให้อาชีวะ “ไพฑูรย์” ย้ำช่องทางพิเศษใช้แต่ครูอาชีวะก่อน ระบุการให้ตั๋วครูอัตโนมัติไม่สามารถทำได้ พร้อมไฟเขียวขยายระยะเวลาตั๋วครูชั่วคราวเป็น 6 ปี จากเดิม 4 ปี
วันนี้ (1 ส.ค.) ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า ที่ประชุมหารือกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทำหนังสือแจ้งตัวเลขครูในสาขาที่ขาดแคลน เพื่อขอให้คุรุสภาหาแนวทางให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพอื่นมาเป็นครูได้ ซึ่งคณะกรรมการรับทราบ และเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อศึกษาความเป็นไปได้มีผู้แทนจาก สอศ. ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ผู้แทนจากสภาคณะบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) ผู้แทนจากคุรุสภา และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เข้าร่วม
ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้คณะกรรมการชุดนี้ ไปดูเรื่องช่องที่จะให้ผู้ที่จบในสายวิชาชีพอื่นมาเป็นครู รวมถึงการบรรจุแต่งตั้ง เพื่อหาทางออกให้กับ สอศ. แต่ย้ำว่าจะต้องเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับกฎหมาย และระบบการพัฒนาวิชาชีพครู และช่องทางพิเศษที่ให้ไปศึกษานี้จะใช้เฉพาะกับครูในสังกัด สอศ. ก่อน แต่หากสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ก็อาจจะใช้แนวทางเดียวกันนี้หารือเพื่อใช้กับทุกสังกัดด้วย โดยขอให้คณะกรรมการเร่งสรุปแนวทางแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางใหม่ แต่การจะให้ได้ใบประกอบอนุญาตฯ โดยอัตโนมัติคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะเป็นการเอาเปรียบคนที่เรียนในสายครูโดยตรง อีกทั้งหากทำแบบนั้น อนาคตการรับคนมาเป็นครูก็จะไม่เป็นระบบ
ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้ครูที่สอนเกิน 4 ปี และไม่มีโอกาสเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือ ป.บัณฑิต เนื่องจากในช่วงที่คุรุสภาประกาศยกเลิกหลักสูตรดังกล่าว ทำให้มีครูโรงเรียนเอกชนประมาณ 8,000 คน เสียโอกาสในการมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตัวจริง ดังนั้น ที่ประชุมจึงขยายเวลาการถือใบอนุญาตปฏิบัติการสอนชั่วคราว เป็น 6 ปี จากเดิมทีกำหนดให้ถือได้แค่ 4 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ครูกลุ่มนี้ได้ไปเรียนป.บัณฑิต และสามารถขอรับใบอนุญาตฯ ตัวจริงได้ รวมถึงยังเป็นการช่วยให้โรงเรียนเอกชน มีครูทำหน้าที่สอนไปได้อย่างต่อเนื่อง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (1 ส.ค.) ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า ที่ประชุมหารือกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทำหนังสือแจ้งตัวเลขครูในสาขาที่ขาดแคลน เพื่อขอให้คุรุสภาหาแนวทางให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพอื่นมาเป็นครูได้ ซึ่งคณะกรรมการรับทราบ และเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อศึกษาความเป็นไปได้มีผู้แทนจาก สอศ. ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ผู้แทนจากสภาคณะบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) ผู้แทนจากคุรุสภา และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เข้าร่วม
ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้คณะกรรมการชุดนี้ ไปดูเรื่องช่องที่จะให้ผู้ที่จบในสายวิชาชีพอื่นมาเป็นครู รวมถึงการบรรจุแต่งตั้ง เพื่อหาทางออกให้กับ สอศ. แต่ย้ำว่าจะต้องเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับกฎหมาย และระบบการพัฒนาวิชาชีพครู และช่องทางพิเศษที่ให้ไปศึกษานี้จะใช้เฉพาะกับครูในสังกัด สอศ. ก่อน แต่หากสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ก็อาจจะใช้แนวทางเดียวกันนี้หารือเพื่อใช้กับทุกสังกัดด้วย โดยขอให้คณะกรรมการเร่งสรุปแนวทางแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางใหม่ แต่การจะให้ได้ใบประกอบอนุญาตฯ โดยอัตโนมัติคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะเป็นการเอาเปรียบคนที่เรียนในสายครูโดยตรง อีกทั้งหากทำแบบนั้น อนาคตการรับคนมาเป็นครูก็จะไม่เป็นระบบ
ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้ครูที่สอนเกิน 4 ปี และไม่มีโอกาสเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือ ป.บัณฑิต เนื่องจากในช่วงที่คุรุสภาประกาศยกเลิกหลักสูตรดังกล่าว ทำให้มีครูโรงเรียนเอกชนประมาณ 8,000 คน เสียโอกาสในการมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตัวจริง ดังนั้น ที่ประชุมจึงขยายเวลาการถือใบอนุญาตปฏิบัติการสอนชั่วคราว เป็น 6 ปี จากเดิมทีกำหนดให้ถือได้แค่ 4 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ครูกลุ่มนี้ได้ไปเรียนป.บัณฑิต และสามารถขอรับใบอนุญาตฯ ตัวจริงได้ รวมถึงยังเป็นการช่วยให้โรงเรียนเอกชน มีครูทำหน้าที่สอนไปได้อย่างต่อเนื่อง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
