คสช. นัดประชุม 3 ฝ่าย สธ.- สปสช.- สสส. 31 ก.ค. หารือการบริหารงบประมาณปี 2558 รองปลัด สธ. เผยเตรียมประชุมร่วม สปสช. ก่อน 1 วัน หวังจัดทำข้อตกลงและแผนการดำเนินงานร่วมกัน ระบุเน้นกรอบดำเนินงานปฏิรูป 3 ด้าน ทั้งโครงสร้างแบบเขตบริการ การเงินการคลัง และข้อมูลข่าวสาร
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า คณะทำงานของหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นัดประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในวันที่ 31 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ เพื่อหารือการบริหารงบประมาณแบบบูรณาการโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2558 สป.สธ. จึงจะเชิญคณะทำงานของ สปสช. ร่วมประชุมปรึกษาหารือก่อนในวันที่ 30 ก.ค. เพื่อจัดทำข้อตกลงเตรียมข้อมูลและแผนดำเนินงานร่วมกัน ในฐานะผู้ซื้อบริการและผู้จัดบริการ
นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า สำหรับ สธ. วางกรอบทิศทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2558 ไว้ 3 ประเด็น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ดังนี้ 1. การปฏิรูปโครงสร้างการทำงานแบบเขตบริการ 2. การปฏิรูประบบการเงินการคลัง และ 3. การปฏิรูประบบข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ เพื่อจัดบริการประชาชนทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น มีคุณภาพเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ การปฏิรูปโครงสร้างการทำงานแบบเขตบริการสุขภาพ เดินหน้ามากว่า 1 ปี จนได้รูปแบบที่เกือบสมบูรณ์แบบ โดยเป็นการกระจายอำนาจให้เขตฯ บริหารจัดการ ทั้งงบประมาณ บุคลากร และทรัพยากรเอง เพื่อจัดบริการต่างๆ แก่ประชาชน โดยมีคณะกรรมการ 5 ส่วน คือ ผู้รับบริการ คือ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ระดับ อบจ. เทศบาล และ อบต. และภาคประชาชน ผู้จัดบริการ ผู้ซื้อบริการ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่างๆ และผู้กำกับและประเมินผล โดย สธ. จะปรับบทบาทเป็นผู้กำกับ กำหนดนโยบาย ออกกฎกติกากลาง เพื่อให้เขตไปปรับใช้ตามความเหมาะสม
ด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ช่วยปลัด สธ. กล่าวว่า การปฏิรูประบบการเงินการคลัง ในปีงบประมาณ 2558 จะมีงบประมาณจัดสรรลงในพื้นที่ 2 ส่วนใหญ่ คือ งบบูรณาการของกระทรวง ซึ่งมาจากกรมต่างๆ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพประชาชนตามกลุ่มวัย 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเด็กปฐมวัยและหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มเด็กวัยเรียน กลุ่มเด็กวัยรุ่น กลุ่มวัยแรงงาน และกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ ประมาณ 3,300 ล้านบาท และงบรายหัวโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของ สปสช. ประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท จะปรับหลักการจัดสรรให้สอดคล้องกับพื้นที่มากขึ้น ส่งไปให้ผู้จัดบริการโดยตรง ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ 1. งบส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ส่งไปที่เครือข่ายบริการสุขภาพระดับอำเภอ เพื่อใช้ดูแลประชาชนรายกลุ่ม 2. งบบริการผู้ป่วยนอกทั่วไป ส่งไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อปรับเกลี่ยให้สถานบริการ 3. งบบริการผู้ป่วยในทั่วไป จัดไว้ที่เขตบริการสุขภาพ และ 4. งบกองทุนต่างๆ รวมทั้งมาตรา 41 โดยจะมีการบริหารงบร่วมกันกับ สปสช. และมีระบบรายงานตามตัวชี้วัดชัดเจน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถจัดบริการที่ดีที่สุดแก่ประชาชน และงบประมาณอยู่ที่ผู้ทำงานโดยแท้จริง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า คณะทำงานของหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นัดประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในวันที่ 31 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ เพื่อหารือการบริหารงบประมาณแบบบูรณาการโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2558 สป.สธ. จึงจะเชิญคณะทำงานของ สปสช. ร่วมประชุมปรึกษาหารือก่อนในวันที่ 30 ก.ค. เพื่อจัดทำข้อตกลงเตรียมข้อมูลและแผนดำเนินงานร่วมกัน ในฐานะผู้ซื้อบริการและผู้จัดบริการ
นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า สำหรับ สธ. วางกรอบทิศทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2558 ไว้ 3 ประเด็น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ดังนี้ 1. การปฏิรูปโครงสร้างการทำงานแบบเขตบริการ 2. การปฏิรูประบบการเงินการคลัง และ 3. การปฏิรูประบบข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ เพื่อจัดบริการประชาชนทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น มีคุณภาพเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ การปฏิรูปโครงสร้างการทำงานแบบเขตบริการสุขภาพ เดินหน้ามากว่า 1 ปี จนได้รูปแบบที่เกือบสมบูรณ์แบบ โดยเป็นการกระจายอำนาจให้เขตฯ บริหารจัดการ ทั้งงบประมาณ บุคลากร และทรัพยากรเอง เพื่อจัดบริการต่างๆ แก่ประชาชน โดยมีคณะกรรมการ 5 ส่วน คือ ผู้รับบริการ คือ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ระดับ อบจ. เทศบาล และ อบต. และภาคประชาชน ผู้จัดบริการ ผู้ซื้อบริการ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่างๆ และผู้กำกับและประเมินผล โดย สธ. จะปรับบทบาทเป็นผู้กำกับ กำหนดนโยบาย ออกกฎกติกากลาง เพื่อให้เขตไปปรับใช้ตามความเหมาะสม
ด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ช่วยปลัด สธ. กล่าวว่า การปฏิรูประบบการเงินการคลัง ในปีงบประมาณ 2558 จะมีงบประมาณจัดสรรลงในพื้นที่ 2 ส่วนใหญ่ คือ งบบูรณาการของกระทรวง ซึ่งมาจากกรมต่างๆ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพประชาชนตามกลุ่มวัย 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเด็กปฐมวัยและหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มเด็กวัยเรียน กลุ่มเด็กวัยรุ่น กลุ่มวัยแรงงาน และกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ ประมาณ 3,300 ล้านบาท และงบรายหัวโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของ สปสช. ประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท จะปรับหลักการจัดสรรให้สอดคล้องกับพื้นที่มากขึ้น ส่งไปให้ผู้จัดบริการโดยตรง ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ 1. งบส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ส่งไปที่เครือข่ายบริการสุขภาพระดับอำเภอ เพื่อใช้ดูแลประชาชนรายกลุ่ม 2. งบบริการผู้ป่วยนอกทั่วไป ส่งไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อปรับเกลี่ยให้สถานบริการ 3. งบบริการผู้ป่วยในทั่วไป จัดไว้ที่เขตบริการสุขภาพ และ 4. งบกองทุนต่างๆ รวมทั้งมาตรา 41 โดยจะมีการบริหารงบร่วมกันกับ สปสช. และมีระบบรายงานตามตัวชี้วัดชัดเจน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถจัดบริการที่ดีที่สุดแก่ประชาชน และงบประมาณอยู่ที่ผู้ทำงานโดยแท้จริง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
