เปิดสถิติแว้นไร้หมวกกันน็อกตายปีละ 1.4 หมื่นคน ส่วนโจ๋ไทยทำถูกกฎหมายสวมหมวกกันน็อกมีแค่ 3% จี้ทุกหน่วยงานช่วยคืนหัวปลอดภัยให้ลูกหลานก่อนเกิดภาวะเด็กไทยสมองไหล ด้าน สตช. ลั่นจับปรับจริง ดีเดย์ 1 ก.ย. นี้
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับและเลขาธิการชมรมคนห่วงหัว กล่าวในเวทีเสวนา “รวมพลังแก้วิกฤตเด็กไทยสมองไหล” จัดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว ว่า ในแต่ละปีคนไทยกว่า 24,000 คน ต้องตายบนท้องถนน บาดเจ็บอีกกว่า 1 ล้านคน โดยกลุ่มรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดร้อยละ 80 ซึ่งร้อยละ 90 ของผู้เสียชีวิตไม่สวมหมวกกันน็อก ทำให้คนไทยเสียชีวิตบนท้องถนนมากถึง 14,000 คนต่อปี จากเหตุไม่สวมหมวกกันน็อก ถ้าวันนี้ คสช. มีนโยบายคืนความสุขให้ประชาชน มูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว ขอเรียกร้องให้พวกเราช่วยกันคืนหัวปลอดภัยให้ลูกหลานด้วยเช่นเดียวกัน
พลตำรวจเอก วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า สตช. จะใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมาย จับปรับจริง ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนที่ไม่สวมหมวกนิรภัย โดยผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกจะมีโทษปรับ 500 บาท ผู้ซ้อนท้ายถ้าไม่สวมหมวกผู้ขับขี่จะถูกเป็นปรับ 2 เท่า คือ 1,000 บาท เริ่มปฏิบัติการพร้อมกันในวันที่ 1 ก.ย. 2557 ทั้งนี้เริ่มในเขตอำเภอเมืองและเทศบาลก่อนเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีอุบัติเหตุรุนแรงกว่าพื้นที่อื่น 3 เท่า และจะขยายผลครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมกันในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 เป็นต้นไป
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ต้องทำความเข้าใจปัญหาไม่ปล่อยให้เป็นภาระของผู้ปกครองทั้งหมด ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องอีก เช่น การขาดแคลนระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน สภาพความเป็นอยู่ของแต่ละครอบครัว โอกาสและการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละบุคคล ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้ามอเตอร์ไซค์ที่ยังขาดข้อห้ามหรือข้อกำหนดในการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและเยาวชนอย่างชัดเจน จึงควรเร่งส่งเสริมให้เด็กเยาวชนไทยใส่หมวกนิรภัยเพราะหมวกกันน็อกสามารถช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรงได้ถึง 72% และลดการตายได้ถึง 43% สำหรับผู้ขับขี่ และ 58% สำหรับผู้ซ้อนท้าย
นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและการป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า เด็กไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับสอง รองจากการจมน้ำ เนื่องจากเวลาเกิดอุบัติเหตุเด็กไทยส่วนใหญ่จะไม่สวมหมวกนิรภัยจึงทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูง ซึ่งพบใส่หมวกแค่ร้อยละ 3 เท่านั้น จึงต้องเร่งแก้ไขทั้งเด็กที่ใช้มอเตอร์ไซค์ และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับและเลขาธิการชมรมคนห่วงหัว กล่าวในเวทีเสวนา “รวมพลังแก้วิกฤตเด็กไทยสมองไหล” จัดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว ว่า ในแต่ละปีคนไทยกว่า 24,000 คน ต้องตายบนท้องถนน บาดเจ็บอีกกว่า 1 ล้านคน โดยกลุ่มรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดร้อยละ 80 ซึ่งร้อยละ 90 ของผู้เสียชีวิตไม่สวมหมวกกันน็อก ทำให้คนไทยเสียชีวิตบนท้องถนนมากถึง 14,000 คนต่อปี จากเหตุไม่สวมหมวกกันน็อก ถ้าวันนี้ คสช. มีนโยบายคืนความสุขให้ประชาชน มูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว ขอเรียกร้องให้พวกเราช่วยกันคืนหัวปลอดภัยให้ลูกหลานด้วยเช่นเดียวกัน
พลตำรวจเอก วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า สตช. จะใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมาย จับปรับจริง ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนที่ไม่สวมหมวกนิรภัย โดยผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกจะมีโทษปรับ 500 บาท ผู้ซ้อนท้ายถ้าไม่สวมหมวกผู้ขับขี่จะถูกเป็นปรับ 2 เท่า คือ 1,000 บาท เริ่มปฏิบัติการพร้อมกันในวันที่ 1 ก.ย. 2557 ทั้งนี้เริ่มในเขตอำเภอเมืองและเทศบาลก่อนเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีอุบัติเหตุรุนแรงกว่าพื้นที่อื่น 3 เท่า และจะขยายผลครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมกันในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 เป็นต้นไป
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ต้องทำความเข้าใจปัญหาไม่ปล่อยให้เป็นภาระของผู้ปกครองทั้งหมด ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องอีก เช่น การขาดแคลนระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน สภาพความเป็นอยู่ของแต่ละครอบครัว โอกาสและการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละบุคคล ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้ามอเตอร์ไซค์ที่ยังขาดข้อห้ามหรือข้อกำหนดในการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและเยาวชนอย่างชัดเจน จึงควรเร่งส่งเสริมให้เด็กเยาวชนไทยใส่หมวกนิรภัยเพราะหมวกกันน็อกสามารถช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรงได้ถึง 72% และลดการตายได้ถึง 43% สำหรับผู้ขับขี่ และ 58% สำหรับผู้ซ้อนท้าย
นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและการป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า เด็กไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับสอง รองจากการจมน้ำ เนื่องจากเวลาเกิดอุบัติเหตุเด็กไทยส่วนใหญ่จะไม่สวมหมวกนิรภัยจึงทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูง ซึ่งพบใส่หมวกแค่ร้อยละ 3 เท่านั้น จึงต้องเร่งแก้ไขทั้งเด็กที่ใช้มอเตอร์ไซค์ และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่