ทบทวนแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาค้ามนุษย์ เดินหน้าปรับระบบป้องกัน การตรวจพร้อมแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เร่งสื่อสารให้สังคมไทย-นานาชาติเข้าใจแนวทางแก้ปัญหา
ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยถึงผลประชุมคณะทำงานจัดทำและติดตามแผนปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมได้นำข้อสังเกตของสหรัฐอเมริกาที่จัดอันดับประเทศที่ต้องเฝ้าระวัง เรื่องค้ามนุษย์ให้ประเทศไทยลดลงอยู่ในระดับ 3 มาพิจารณาทบทวนแนวทางการดำเนินการป้องกันและแก้ปัญหาที่ผ่านมาโดยมีข้อสรุปว่า กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องร่วมกันดำเนินการใน 4 ส่วน ให้เข้มข้นมากขึ้น ทั้งในเรื่องจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวและการป้องกันการค้ามนุษย์และตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) การตรวจแรงงานในสถานประกอบการต่างๆและเรือประมงการแก้ไขกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการค้ามนุษย์และจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมไทยและนานาชาติ
รองปลัด รง. กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่ต้องเน้นอย่างมาก คือในส่วนของแรงงานภาคประมงเนื่องจากถูกมองว่ามีปัญหาค้ามนุษย์ ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กรมประมง กรมเจ้าท่า กำลังปรับแก้กฎหมาย การป้องกันและตรวจแรงงานในภาคประมง เช่น ขึ้นทะเบียนเรือ จัดทำบัญชีและขึ้นทะเบียนลูกจ้างต่างด้าวโดยมีศูนย์ประสานงานแรงงานประมง ซึ่งขณะนี้จัดตั้งขึ้นมาแล้วใน 7 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง ตราด ชุมพร สงขลา ระนอง และสตูล เป็นกลไกหลักในการป้องกันและตรวจแรงงานภาคประมง รวมทั้งส่งเสริมให้สถานประกอบการด้านประมง และอุตสาหกรรมประมงต่อเนื่อง มีการใช้แนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (จีแอลพี) เพื่อนำมาเป็นหลักฐานยืนยันกับลูกค้าในประเทศต่างๆ ว่า ไม่มีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และไม่มีการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นว่าจะต้องมีการสื่อสารให้สังคมไทยมีความรู้ความเข้าใจถึงแนวทางแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ของหน่วยงานภาครัฐให้มากขึ้น โดยจะจัดเวทีสาธารณะเพื่อที่กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันชี้แจงในวันที่ 1 ส.ค. นี้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยถึงผลประชุมคณะทำงานจัดทำและติดตามแผนปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมได้นำข้อสังเกตของสหรัฐอเมริกาที่จัดอันดับประเทศที่ต้องเฝ้าระวัง เรื่องค้ามนุษย์ให้ประเทศไทยลดลงอยู่ในระดับ 3 มาพิจารณาทบทวนแนวทางการดำเนินการป้องกันและแก้ปัญหาที่ผ่านมาโดยมีข้อสรุปว่า กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องร่วมกันดำเนินการใน 4 ส่วน ให้เข้มข้นมากขึ้น ทั้งในเรื่องจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวและการป้องกันการค้ามนุษย์และตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) การตรวจแรงงานในสถานประกอบการต่างๆและเรือประมงการแก้ไขกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการค้ามนุษย์และจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมไทยและนานาชาติ
รองปลัด รง. กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่ต้องเน้นอย่างมาก คือในส่วนของแรงงานภาคประมงเนื่องจากถูกมองว่ามีปัญหาค้ามนุษย์ ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กรมประมง กรมเจ้าท่า กำลังปรับแก้กฎหมาย การป้องกันและตรวจแรงงานในภาคประมง เช่น ขึ้นทะเบียนเรือ จัดทำบัญชีและขึ้นทะเบียนลูกจ้างต่างด้าวโดยมีศูนย์ประสานงานแรงงานประมง ซึ่งขณะนี้จัดตั้งขึ้นมาแล้วใน 7 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง ตราด ชุมพร สงขลา ระนอง และสตูล เป็นกลไกหลักในการป้องกันและตรวจแรงงานภาคประมง รวมทั้งส่งเสริมให้สถานประกอบการด้านประมง และอุตสาหกรรมประมงต่อเนื่อง มีการใช้แนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (จีแอลพี) เพื่อนำมาเป็นหลักฐานยืนยันกับลูกค้าในประเทศต่างๆ ว่า ไม่มีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และไม่มีการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นว่าจะต้องมีการสื่อสารให้สังคมไทยมีความรู้ความเข้าใจถึงแนวทางแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ของหน่วยงานภาครัฐให้มากขึ้น โดยจะจัดเวทีสาธารณะเพื่อที่กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันชี้แจงในวันที่ 1 ส.ค. นี้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่