หมอรามาฯ เผย พ่อแม่ - ละครไทย ปลูกฝังเด็กแบบผิดๆ เก็บเวอร์จินไว้รอเปิดซิงครั้งแรก จะทำให้ผู้ชายรัก ยิ่งมีลูกยิ่งรักมาก เหมือนนางเอกละคร สวนทางความจริง 69% แม่วัยรุ่นเลิกกับแฟนใน 6 เดือน ระบุการเลี้ยงดูบางครอบครัวทำเด็กขาดความรัก นับถือตนเอง จนยอมมีเซ็กซ์กับคนรัก เพิ่มโอกาสป่อง แถมติดเชื้อ ขณะที่โรงเรียนสอนเพศศึกษาไม่ครอบคลุม ห่วงวัยรุ่นสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ ตัดสินใจพลาดง่าย
พญ.จิราภรณ์ อรุณากร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล บรรยายเรื่อง “เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นแม่วัยรุ่น” ในการประชุมส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2557 “ภาคีสุขภาพดี เวทีสู่อาเซียน” เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า จากการศึกษาเคสวัยรุ่นต่างๆ ที่เข้ามาปรึกษากับคลินิกวัยรุ่นของ รพ.รามาธิบดี พบว่า ความผิดพลาดของวัยรุ่น เช่น การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ซึ่งสุดท้ายพลาดพลั้งติดเชื้อ หรือตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เหล่านี้เกิดจากการที่วัยรุ่นยังตัดสินใจได้ไม่ดีพอ ซึ่งสาเหตุมาจากสมองส่วนหน้า ซึ่งควบคุมเรื่องของความคิดและความยากยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่เหมือนผู้ใหญ่ นั่นเป็นเพราะธรรมชาติของการพัฒนาสมองจะพัฒนาจากด้านหลังมาด้านหน้า ทำให้สมองส่วนหยาบที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความรู้สึก ความหลงใหล คลั่งไคล้ ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ก่อน จึงไม่แปลกที่จะเห็นพฤติกรรมของวัยรุ่นมีการคลั่งไคล้ดารา ชอบท้าทายความเสี่ยง เป็นต้น ซึ่งสมองส่วนหน้าจะเจริญเติบโตเต็มที่ก็เกือบอายุ 25 ปี ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู และการพัฒนาของแต่ละคน
พญ.จิราภรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเกิดขึ้นจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ทำให้เด็กขาดความนับถือตนเองด้วย ซึ่งความนับถือตนเองเกิดขึ้นจากการเลี้ยงดูเชิงบวก การประสบความสำเร็จ และการมีสัมพันธภาพที่ดี แต่จากการศึกษาพบว่า พ่อแม่มักเลี้ยงดูแบบครอบครัวไทย คือ เลี้ยงลูกแบบเชิงตำหนิ ไม่ค่อยชมลูก อย่างเด็กเพิ่งคลอดก็ไม่ชมว่าน่ารัก ต้องชมว่าน่าเกลียดน่าชัง มิเช่นนั้นผีจะนำตัวเด็กไป ขณะที่บางครอบครัวมีการใช้สรรพนามที่กดลูก เช่น แก มึง ก็จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อตนเอง พ่อแม่จึงควรใช้สรรพนามในการเรียกลูก อย่างเช่น ลูก ก็จะช่วยให้เด็กรู้สึกดีมากขึ้น และต้องไม่นำลูกไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น หรือตั้งความคาดหวังกับเด็กมากเกินไป
พญ.จิราภรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับสังคมโรงเรียนก็ส่งผลต่อความนับถือตนเองของเด็กเช่นกัน เพราะการศึกษาไทยถูกวัดกันด้วยเกรดเฉลี่ยและลำดับที่ จากการที่เด็กเข้ามาปรึกษาหลายคนพบว่า เด็กจากโรงเรียนดังมีปัญหาจำนวนมาก เพราะเมื่อก่อนตอนอยู่โรงเรียนธรรมดาเคยได้เกรดเฉลี่ยสูงๆ ได้อันดับที่ 1 ของห้องของโรงเรียน แต่เมื่อย้ายมาเรียนโรงเรียนดังที่มีเด็กเก่งจำนวนมาก แม้จะได้เกรดเฉลี่ยสูงเท่าเดิมแต่ลำดับที่กลายมาเป็นอันดับกลางๆ ของห้อง ทำให้เกิดปัญหา รู้สึกแย่กับตัวเอง เพราะเอาตัวเองไปผูกกับลำดับที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่จัด จึงอยากเสนอว่าไม่ควรจัดลำดับที่ แต่ให้เด็กแข่งขันกับตัวเองก็พอ
“สิ่งที่มีผลต่อการนับถือตนเองมีทั้งปัจจัยภายนอก เช่น หน้าตาดี และปัจจัยภายในคือ รู้ว่าตัวเองเป็นที่รัก และมีความหมายกับพ่อแม่ ซึ่งความรักเป็นสิ่งที่บอกว่าเราเป็นบุคคลที่มีคุณค่า เด็กที่ขาดความรัก หรือได้รับการเลี้ยงดูอย่างไม่ถูกต้องจากพ่อแม่มักมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ขาดการนับถือตนเอง ทำให้พอมีคนเข้ามารักก็มักจะยอมให้เขาทุกเรื่อง แม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสุดท้ายนำมาซึ่งการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ การท้องก่อนวัยอันควร และที่น่าห่วงคือ ขณะนี้เด็กกำลังปลูกฝังความคิดจากพ่อแม่ที่ว่า ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว เพราะผู้หญิงบริสุทธิ์จะทำให้ผู้ชายรัก ยิ่งมีลูก ผู้ชายก็จะยิ่งรักมาก และทุกวันนี้ละครก็มักนำเสนอเรื่องเหล่านี้คือ นางเอกซึ่งรักษาความบริสุทธิ์มาตลอด เมื่อยอมมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับพระเอก และยิ่งท้องก็พบว่าพระเอกจะยิ่งรักเราคนเดียว แต่ชีวิตจริงคือ 69% ของแม่วัยรุ่นเลิกกับแฟนภายใน 6 เดือน” พญ.จิราภรณ์ กล่าว
พญ.จิราภรณ์ กล่าวว่า การสอนเรื่องเพศศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่สามารถห้ามเด็กในเรื่องมีเพศสัมพันธ์ได้ ทางที่ดีคือควรสอนให้ลูกรู้จักการป้องกันตนเอง โอกาสมีปัญหาตามมาก็จะน้อยกว่า ขณะที่โรงเรียนพบว่าเด็กได้รับการสอนเรื่องเพศศึกษาเพียง 69% ส่วนที่เหลือไม่รู้ว่าได้รับการสอนอะไรไป ปัญหานี้เกิดจากครูยังมีความละอายใจในการสอนเรื่องเพศศึกษา หรือคิดว่าเป็นการชี้โพรงให้กระรอก ซึ่งจริงๆ แล้วการสอนเรื่องเพศศึกษามีหลายวิธี
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พญ.จิราภรณ์ อรุณากร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล บรรยายเรื่อง “เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นแม่วัยรุ่น” ในการประชุมส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2557 “ภาคีสุขภาพดี เวทีสู่อาเซียน” เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า จากการศึกษาเคสวัยรุ่นต่างๆ ที่เข้ามาปรึกษากับคลินิกวัยรุ่นของ รพ.รามาธิบดี พบว่า ความผิดพลาดของวัยรุ่น เช่น การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ซึ่งสุดท้ายพลาดพลั้งติดเชื้อ หรือตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เหล่านี้เกิดจากการที่วัยรุ่นยังตัดสินใจได้ไม่ดีพอ ซึ่งสาเหตุมาจากสมองส่วนหน้า ซึ่งควบคุมเรื่องของความคิดและความยากยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่เหมือนผู้ใหญ่ นั่นเป็นเพราะธรรมชาติของการพัฒนาสมองจะพัฒนาจากด้านหลังมาด้านหน้า ทำให้สมองส่วนหยาบที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความรู้สึก ความหลงใหล คลั่งไคล้ ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ก่อน จึงไม่แปลกที่จะเห็นพฤติกรรมของวัยรุ่นมีการคลั่งไคล้ดารา ชอบท้าทายความเสี่ยง เป็นต้น ซึ่งสมองส่วนหน้าจะเจริญเติบโตเต็มที่ก็เกือบอายุ 25 ปี ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู และการพัฒนาของแต่ละคน
พญ.จิราภรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเกิดขึ้นจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ทำให้เด็กขาดความนับถือตนเองด้วย ซึ่งความนับถือตนเองเกิดขึ้นจากการเลี้ยงดูเชิงบวก การประสบความสำเร็จ และการมีสัมพันธภาพที่ดี แต่จากการศึกษาพบว่า พ่อแม่มักเลี้ยงดูแบบครอบครัวไทย คือ เลี้ยงลูกแบบเชิงตำหนิ ไม่ค่อยชมลูก อย่างเด็กเพิ่งคลอดก็ไม่ชมว่าน่ารัก ต้องชมว่าน่าเกลียดน่าชัง มิเช่นนั้นผีจะนำตัวเด็กไป ขณะที่บางครอบครัวมีการใช้สรรพนามที่กดลูก เช่น แก มึง ก็จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อตนเอง พ่อแม่จึงควรใช้สรรพนามในการเรียกลูก อย่างเช่น ลูก ก็จะช่วยให้เด็กรู้สึกดีมากขึ้น และต้องไม่นำลูกไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น หรือตั้งความคาดหวังกับเด็กมากเกินไป
พญ.จิราภรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับสังคมโรงเรียนก็ส่งผลต่อความนับถือตนเองของเด็กเช่นกัน เพราะการศึกษาไทยถูกวัดกันด้วยเกรดเฉลี่ยและลำดับที่ จากการที่เด็กเข้ามาปรึกษาหลายคนพบว่า เด็กจากโรงเรียนดังมีปัญหาจำนวนมาก เพราะเมื่อก่อนตอนอยู่โรงเรียนธรรมดาเคยได้เกรดเฉลี่ยสูงๆ ได้อันดับที่ 1 ของห้องของโรงเรียน แต่เมื่อย้ายมาเรียนโรงเรียนดังที่มีเด็กเก่งจำนวนมาก แม้จะได้เกรดเฉลี่ยสูงเท่าเดิมแต่ลำดับที่กลายมาเป็นอันดับกลางๆ ของห้อง ทำให้เกิดปัญหา รู้สึกแย่กับตัวเอง เพราะเอาตัวเองไปผูกกับลำดับที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่จัด จึงอยากเสนอว่าไม่ควรจัดลำดับที่ แต่ให้เด็กแข่งขันกับตัวเองก็พอ
“สิ่งที่มีผลต่อการนับถือตนเองมีทั้งปัจจัยภายนอก เช่น หน้าตาดี และปัจจัยภายในคือ รู้ว่าตัวเองเป็นที่รัก และมีความหมายกับพ่อแม่ ซึ่งความรักเป็นสิ่งที่บอกว่าเราเป็นบุคคลที่มีคุณค่า เด็กที่ขาดความรัก หรือได้รับการเลี้ยงดูอย่างไม่ถูกต้องจากพ่อแม่มักมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ขาดการนับถือตนเอง ทำให้พอมีคนเข้ามารักก็มักจะยอมให้เขาทุกเรื่อง แม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสุดท้ายนำมาซึ่งการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ การท้องก่อนวัยอันควร และที่น่าห่วงคือ ขณะนี้เด็กกำลังปลูกฝังความคิดจากพ่อแม่ที่ว่า ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว เพราะผู้หญิงบริสุทธิ์จะทำให้ผู้ชายรัก ยิ่งมีลูก ผู้ชายก็จะยิ่งรักมาก และทุกวันนี้ละครก็มักนำเสนอเรื่องเหล่านี้คือ นางเอกซึ่งรักษาความบริสุทธิ์มาตลอด เมื่อยอมมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับพระเอก และยิ่งท้องก็พบว่าพระเอกจะยิ่งรักเราคนเดียว แต่ชีวิตจริงคือ 69% ของแม่วัยรุ่นเลิกกับแฟนภายใน 6 เดือน” พญ.จิราภรณ์ กล่าว
พญ.จิราภรณ์ กล่าวว่า การสอนเรื่องเพศศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่สามารถห้ามเด็กในเรื่องมีเพศสัมพันธ์ได้ ทางที่ดีคือควรสอนให้ลูกรู้จักการป้องกันตนเอง โอกาสมีปัญหาตามมาก็จะน้อยกว่า ขณะที่โรงเรียนพบว่าเด็กได้รับการสอนเรื่องเพศศึกษาเพียง 69% ส่วนที่เหลือไม่รู้ว่าได้รับการสอนอะไรไป ปัญหานี้เกิดจากครูยังมีความละอายใจในการสอนเรื่องเพศศึกษา หรือคิดว่าเป็นการชี้โพรงให้กระรอก ซึ่งจริงๆ แล้วการสอนเรื่องเพศศึกษามีหลายวิธี
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่