นิมิตร์ เทียนอุดม
เดือนนี้เป็นเดือนที่ ๗ ของปีแล้ววันเวลาเดินหน้าตลอดเวลา เดือนนี้ จึงเป็นเดือนที่คนทำงานด้านเอดส์ ใช้เป็นเดือนของการรณรงค์ สะกิดเตือนให้เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายคิดถึงวิถีชีวิตทางเพศที่ผ่านมาที่อาจจะมีครั้งใดครั้งหนึ่งที่เป็นความเสี่ยงอันเป็นเหตุให้อาจจะทำให้ เราๆ ท่านๆ ติดเชื้อ ไวรัสเอชไอวี และมีแต่เพียงการไปตรวจเลือดเท่านั้น ที่จะทำให้เรารู้ว่า ความเสี่ยงที่ผ่านมาทั้งหมดของเรานั้น ทำให้เราติดเชื้อหรือไม่
ผมอยากย้ำว่า “มีแต่การตรวจเลือด” เท่านั้น ที่จะรู้ว่าเราติดเชื้อหรือไม่ ที่ต้องย้ำเพราะว่ามีคนจำนวนมากโทร. มาที่ ๑๖๖๓ เพื่อจะปรึกษาว่า ตนเองสงสัยจะติดเชื้อ สงสัยว่าอาการแบบนั้น แบบนี้ มีตุ่มขึ้น ท้องเสีย มีฝ้าในปาก มีอาการสารพัด ภาวะกังวลจากอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ได้ป้องกัน ไม่สามารถจะใช้เป็นเครื่องชี้วัดได้เลยว่าติดเชื้อหรือไม่ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังกังวลกับอาการที่ว่ามาข้างต้น ขอแนะนำให้คิดถึงการตรวจเลือดหาเอชไอวีจะดีที่สุด เพราะเป็นการจัดการกับความกังวลที่รบกวนจิตใจคุณอยู่ หรือจะโทรปรึกษากับ ๑๖๖๓ ก่อนก็ได้ครับ จะได้ช่วยกันคลี่คลายความกังวลและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจเลือด การป้องกัน และการรักษาเอดส์เป็นเบื้องต้นก่อนไปตรวจเลือด
ในยุคที่การรักษาเอชไอวี/เอดส์ก้าวหน้าไปมาก การตรวจเลือดเพื่อรู้สถานการณ์ติดเชื้อเอชไวอีของตัวเองเป็นเรื่องที่ “ดีมาก” ครับ ขณะนี้เรามีข้อมูลมากพอที่ชี้ว่า การมีไวรัสในกระแสเลือดจำนวนมากส่งผลทำให้ผู้ติดเชื้อคนนั้นมีความเสี่ยงที่จะป่วยจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้มากกว่าผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาแล้ว และผู้ติดเชื้อที่มารักษาช้าหมายถึงติดเชื้อมานานจนเกิดอาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ แล้ว (เขาไม่รู้ตัวมาก่อนว่าติดเชื้อ) จะต้องใช้เวลาในการรักษา กินยานาน กว่าจะมีร่างกายกลับมาแข็งแรง หรือบางรายอาจจะกู้สภาพความเจ็ป่วยไม่ได้จนทำให้เสียชีวิตไปก่อนที่ยาต้านไวรัสจะช่วยไว้ได้ แต่ผู้ติดเชื้อที่รู้ตัวเร็วเข้าสู่การรักษาเร็ว จะมีคุณภาพชีวิตดีกว่า ที่เป็นเช่นนี้ เพราะความรู้ ทางวิทยาศาสตร์บอกเราว่า ถ้าเรารีบจัดการกับไวรัสที่เข้าไปในร่างกาย ยิ่งจัดการได้เร็วเท่าไร ยิ่งทำให้มีโอกาสที่จะขจัดให้ไวรัสหมดไปจากร่างกายได้ สมมติฐานนี้ เป็นแนวคิดหลักในการทดลองวิธีการรักษาต่างๆ เพื่อจะนำไปสู่ “เอดส์รักษาหาย” เพราะว่าการรู้เร็วว่ามีเชื้อไวรัสเอชไอวี เข้าไปสู่ร่างกายและได้รับยารักษาอย่างเร็ว ยาจะไปขัดขวางการขยายตัวและขัดขวางไม่ให้เข้าใน ในเซลล์ ยิ่งเรารู้ว่ามันเข้าไปอยู่ตรงส่วนไหนของร่างกาย นักวิทยาศาสตร์จะจัดการขจัดมันออกไป ได้ แต่สิ่งสำคัญของแนวทางนี้คือ “ต้องรู้ให้เร็ว” ว่าติดเชื้อ รู้เมื่อไรรักษาทันที
การรู้ว่าติดเชื้อช้า เข้าสู่การรักษาช้า เป็นสาเหตุหลักที่อัตราการตายจากเอดส์ยังมากกว่า ปีละ ๒๐,๐๐๐ ราย และยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละหมื่นกว่าคน ถ้าจะหยุดหรือลดจำนวนการตายการติดเชื้อรายใหม่ได้ สิ่งที่เราๆ ท่านๆ จะช่วยกันได้ ด้วยตัวเราเองคือ การทบทวนสำรวจว่า ตนเองมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงก็ “ไปตรวจเลือด” ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเสี่ยงหรือไม่ ก็โทรปรึกษา ๑๖๖๓ ถ้าพบว่าติดเชื้อให้บอกกับตนเองเลยว่า “โชคดีที่รู้” และเตรียมตัวเองเข้าสู่ การรักษาและดำเนินชีวิตไปตามเดิมและมีสิ่งที่ต้องทำเพิ่มขึ้นคือกินยาอย่างเคร่งครัดเวลาเดิมทุกวัน มีเพศสัมพันธ์ที่ใช้ถุงยางทุกครั้ง... อย่าช้าอยู่ครับ ตรวจก็ฟรี รักษาก็ฟรี
ถ้าเราๆ ท่านๆ ช่วยกันทำแบบนี้ ไม่ต้องรอให้ใครมาคืนความสุขให้เรา แต่เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสุข ให้สังคมได้ด้วยมือของเราเอง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่