xs
xsm
sm
md
lg

เล็งตั้งเครื่อง AED ทุกสนามแข่ง หวังช่วยนักบอลหัวใจวาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดัน ส.ฟุตบอลตั้งเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ ในสนามทุกทีม ช่วยลดอัตราเสี่ยงหัวใจวายและตายของนักบอล เสนอทุกสมาคมกีฬาติดตั้งด้วย รวมถึงพื้นที่สาธารณะ จัดอบรมประชาชนใช้เครื่องเองเป็น

นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ ว่าที่กรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน และกรรมการฝ่ายแพทย์ คณะกรรมการฝ่ายแพทย์ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ FIFA Sports Medicine Panel of Doctors กล่าวว่า ฟีฟาได้ออกข้อกำหนดว่าการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติจะต้องมีเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator : AED) รถพยาบาลและทีมแพทย์ประจำสนาม เพื่อช่วยเหลือนักกีฬาที่บาดเจ็บและป่วยฉุกเฉินขณะทำการแข่งขั้น สำหรับประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) จึงได้รับการแจกเครื่อง AED จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งเป็นประโยชน์มาก ตนจึงผลักดันให้สมาคมฟุตบอลมีการจัดซื้อเครื่อง AED แจกจ่ายให้กับสโมสรฟุตบอลต่างๆ เพิ่มเติม โดยขณะนี้มอบให้สโมสรต่างๆ แล้ว 20 ทีม และเร็วๆ นี้ จะผลักดันให้มีการติดตั้งในสนามกีฬาทุกทีม รวม 38 ทีม ทั้งการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ฯลฯ

นพ.ไพศาล กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนจะผลักดันให้สมาคมกีฬาประเภทอื่นๆ ติดตั้งเครื่อง AED ไว้ในสนามกีฬาของตนเอง เพราะนักกีฬามีภาวะความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นได้ และในสถานที่ออกกำลังกายทุกแห่งก็ควรมีการติดตั้งเครื่องนี้ด้วย รวมทั้งผลักดันให้มีกฎหมายบังคับให้มีการติดตั้งเครื่อง AED ในบริเวณที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ศูนย์การค้า สวนสาธารณะ เหมือนที่ต่างประเทศบังคับใช้ ซึ่งจะมีการจัดอบรมให้ประชาชนใช้งานเครื่อง AED ได้ด้วยตนเอง

“การจัดบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินในสนามแข่งขันฟุตบอลคือ แต่ละทีมจะต้องมีแพทย์ประจำทีม ต้องเตรียมรถพยาบาล จำนวน 2 ชุด พร้อมแพทย์ประจำสนาม 1 คน เพื่อให้มีความพร้อมในการดูแลภาวะฉุกเฉินในสนามแข่งขัน พร้อมนำผู้บาดเจ็บส่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือโรงพยาบาลที่รับผิดชอบในการแข่งขัน ส่วนที่ต้องมีรถพยาบาล 2 คัน เพราะอาจเกิดเหตุฉุกเฉินรายต่อไปได้ ระหว่างรถคันแรกนำส่งโรงพยาบาล ที่สำคัญควรมีการซักซ้อมกรณีเกิดสาธารณภัยหมู่ เช่นการจลาจลระหว่างการแข่ง” นพ.ไพศาล กล่าว

ด้าน นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า เครื่อง AED จะใช้ป้องกันและแก้ปัญหาผู้ป่วยภาวะหัวใจขาดเลือดหรือหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของไทย รวมถึงนักกีฬาฟุตบอล การแก้ปัญหาที่ดีคือต้องทำให้เกิดความพร้อมในการช่วยเหลือมากขึ้น ทั้งเรื่องการปฐมพยาบาล การช่วยฟื้นคืนชีพ และการช่วยเหลือโดยการใช้เครื่อง AED ประเทศที่เจริญแล้วทั้งญี่ปุ่น อเมริกา และยุโรป พิสูจน์มาแล้วว่าการช่วยฟื้นคืนชีพและการใช้เครื่อง AED เพิ่มโอกาสการรอดชีวิต เราจึงควรมีการผลักดันและรณรงค์ให้มีการติดตั้งเครื่อง AED ในพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งควรฝึกให้บุคลากรในพื้นที่สาธารณะนั้นๆ และประชาชนใช้เครื่อง AED ให้ได้ทั่วประเทศ และใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

นพ.อนุชา กล่าวอีกว่า การช่วยชีวิตคนนั้นมีอยู่ 3 H คือ 1. Hazard อันตรายหรือภาวะเสี่ยง คือการเหลียวดูว่าบริเวณที่ผู้ป่วยอยู่นั้นมีอะไรอันตรายบ้างที่จะมีผลกระทบต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน 2. Help คือ การช่วยเหลือโดยโทร.ผ่านสายด่วน 1669 พร้อมทั้งทำการปฐมพยาบาลตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และ 3. Hello คือ การเข้าไปปลุกเรียกผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งหากผู้ป่วยไม่ตอบสนองจากการช่วยเหลือตามแนวทางสาม H แล้วให้ผู้เข้าให้การช่วยเหลือทำการฟื้นคืนชีพทันทีและรีบนำเครื่อง AED เข้ามาช่วยในการฟื้นคืนชีพก็จะทำให้โอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มมากขึ้นได้

ทั้งนี้ เราสามารถตรวจสอบคลื่นหัวใจว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เมื่อมีการเปิดใช้งานเครื่อง AED โดยผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจผิดปกติคลื่นหัวใจจะเป็นเส้นคลื่นตัวหนอน และถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีคลื่นหัวใจจะเป็นเส้นตรงหยุดนิ่ง ซึ่งในระหว่างที่คลื่นหัวใจเป็นตัวหนอนถ้าได้รับการช่วยฟื้นคืนชีพด้วยการกระตุกไฟฟ้าเร็วเท่าไหร่อัตราการรอดชีวิตก็จะสูงขึ้นมากเท่านั้น

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น