ภาคประชาชนร้อง คสช. ปฏิรูปสำนักงานสลากฯ แก้ขายเกินราคา เน้นโปร่งใส ไม่ตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง ด้านสภาคนพิการฯ เสนอร่างกฎหมาย 3 ฉบับ วอน คสช. คืนความสุขสู่ผู้ด้อยโอกาส - ผู้พิการ - ผู้มีรายได้น้อย
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากฯ พร้อมด้วยเครือข่ายผู้ด้อยโอกาส เครือข่ายผู้ค้าสลากฯรายย่อย เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา เครือข่ายนักวิชาการ สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมเพื่อคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย สมาคมบุคคลออทิซึม (ไทย) สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิต และภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนขึ้นได้ทุกคัน กว่า 80 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เป็นสลากเพื่อสังคม หยุดขายเกินราคา ไม่ตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง พร้อมเสนอร่างกฎหมายปฏิรูปสลากฯ และกฎหมายเพื่อคนพิการ รวม 4 ฉบับ ทั้งนี้ สุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องแทน
นายธนากร กล่าวว่า ตาม ที่ คสช. ได้มีการสั่งให้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยมอบหมายให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ไปรวบรวมข้อมูลองค์ประกอบของราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร และให้รายงานกลับมายัง คสช. ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เพื่อพิจารณาแนวทางการกำหนดราคาที่แท้จริงตามโครงสร้างราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อดำเนินการให้ราคาสลากฯ ในท้องตลาดอยู่ที่ คู่ละ 80 บาท ซึ่งเป็นราคาที่กำหนดไว้ ประชาชนในฐานะผู้ซื้อและส่วนหนึ่งที่เป็นผู้ขาย ต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาสลากเกินราคามาโดยตลอด และหวังอย่างยิ่งว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของกิจการสลากฯไปในทางที่เหมาะสมโปร่งใส ซึ่งจากยอดจำหน่ายแต่ละงวดมีมากถึง 72 ล้านฉบับ รายได้จากสลากแต่ละปีเกือบ 2 หมื่นล้านบาท จากจำนวนสลากที่ขายได้7หมื่นล้านบาทต่อปี
“สำนักงานสลากฯเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้สลากราคาแพง เนื่องจากการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ปล่อยให้ผูกขาดโควตาของผู้ค้ารายใหญ่ไม่กี่รายและปล่อยให้คนเหล่านี้มีอิทธิพลเหนือราคา ขณะที่สำนักงานสลากฯไม่สามารถควบคุมราคาขายสลากฯในท้องตลาดได้ แต่กลับใช้เป็นข้ออ้างเพิ่มจำนวนการพิมพ์ หรือการใช้ตู้จำหน่ายอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประเภทของสลากใหม่ๆ ซึ่งแท้จริงแล้ว เป็นเพียงการสับขาหลอก เพื่อประโยชน์ของตนและกลุ่มผู้มีอิทธิพลมากกว่า เป็นคนละเรื่องกัน จึงน่าสงสัยว่าการใช้เงินของสำนักงานสลากฯไปในทางที่เหมาะสมหรือไม่ โปร่งใสเพียงใด และที่สำคัญสำนักงานสลากฯชอบทำตนเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่มีมาตรการช่วยเหลือดูแลความเดือดร้อนของผู้ค้ารายย่อย ที่เป็นประชาชนผู้มีรายได้น้อย หรือผู้พิการเลย ภาระทั้งหลายตกอยู่กับผู้ค้ารายย่อยและผู้พิการอย่างหลีกเลี่ยงมิได้” นาธนากร กล่าว
นายธนากร กล่าวต่อว่า จากข้อห่วงใยดังกล่าว เครือข่ายภาคประชาชนจึงมีข้อเสนอต่อ คสช. เพื่อนำไปพิจารณาดังนี้ 1. ขอให้ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้บุคคลที่เหมาะสมเข้ามาดำเนินการปฏิรูปกิจการสลากให้โปร่งใส แก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ และนำเงินสลากมาพัฒนาสังคม โดยขอให้ศึกษาจากรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการสลากในประเทศไทยของวุฒิสภาปี 2556 และ 2. สั่งการให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินการยกเลิกโควตาการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีอยู่ และจัดสรรใหม่ด้วยวิธีที่โปร่งใสยึดหลักความเป็นธรรม โดยเฉพาะความทุกข์ร้อนของกลุ่มผู้ค้ารายย่อยผู้อยู่ในฐานะยากลำบาก และ ข้อ 3. ขอให้มีการตรวจสอบการใช้จ่ายของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ที่อยู่ในอำนาจ ผู้อำนวยการที่มักจะมีข่าวว่าเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายการเมืองในพื้นที่
ด้าน นายสมชาย ปัญญ์เอกวงศ์ ประธานฝ่ายส่งเสริมอาชีพและการจ้างงาน สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หวังว่า คสช. จะให้ความสำคัญกับผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสในการยกระดับรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการ และรับพิจารณาผลักดันร่างกฎหมายเพื่อคนพิการทั้ง 3 ฉบับ ประกอบด้วย 1. ร่าง พ.ร.บ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....2. ร่าง พ.ร.บ.พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ 3. ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... อย่างไรก็ตาม ขอให้ คสช. ทำภารกิจนี้ให้เต็มที่ เพื่อผลักดันปฏิรูปสลากอย่างยั่งยืน เพื่อคืนความสุขกลับสู่ผู้มีรายได้น้อย ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และครั้งนี้เป็นความหวังเดียวของพวกเราจึงอย่างให้เรื่องนี้สำเร็จโดยเร็ว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่