สธ. เตรียมเผาทำลายยาเสพติดกว่า 3 พันกิโลกรัม มูลค่ากว่า 8.8 พันล้านบาท ในวันต่อต้านยาเสพติดสากล เผยยาเสพติดของกลางแทบล้นคลังเก็บ อัดแน่นถึง 40 ตัน จากพื้นที่จัดเก็บมาตรฐานเพียง 25 ตัน เล็งแก้ กม. ขอเผายาเสพติดของกลางก่อนคดีเสร็จสิ้น พร้อมของบ 105 ล้านบาทสร้างอาคารจัดเก็บหลังใหม่
วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. นพ.ทรงยศ ชัยชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวจัดกิจกรรมเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง ว่า สธ. ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานปราบปรามและป้องกันยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) และบริษัทที่ดินบางปะดิน จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จัดให้มีการเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง ครั้งที่ 43 เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มิ.ย. ของทุกปี โดยมีปริมาณของกลางที่จะเผาทำลายรวมกว่า 3,094 กิโลกรัม จาก 2,911 คดี มูลค่ารวม 8,867 ล้านบาท ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า 2,504 กิโลกรัม หรือประมาณ 27 ล้านเม็ด มูลค่า 8,348 ล้านบาท ยาไอซ์ 243 กิโลกรัม มูลค่า 487 ล้านบาท เฮโรอีน 21 กิโลกรัม มูลค่า 17 ล้านบาท ยาอี 2 กิโลกรัม ประมาณ 9 พันเม็ด มูลค่า 9 ล้านบาท และฝิ่น 74 กิโลกรัม มูลค่า 2 ล้านบาท
นพ.ทรงยศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีกัญชาของกลางที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำมาร่วมเผา 5,066 กิโลกรัม มูลค่า 12 ล้านบาทด้วย โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเผาทำลายที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยวิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชัน (Pyrolytic Incineration) ซึ่งเป็นการเผาที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุล กลายเป็นคาร์บอนในระยะเวลาอันรวดเร็วและไม่ก่อให้เกิดควันหรือมลพิษ เพราะมีกระบวนการเผาทำลายควันที่เกิดขึ้นภายใน 0.5 วินาที โดยผงที่เหลือจากการเผาทุกครั้ง เมื่อนำไปตรวจสอบแล้วไม่พบสารเสพติดทั้งหมด
“การเผาทำลายยาเสพติดมีการดำเนินการอย่างเข้มงวด รัดกุม โปร่งใส จากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน โดยพิธีเผาทำลายยาเสพติดฯ ครั้งที่ 43 จะจัดขึ้นวันที่ 26 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา” รองปลัด สธ. กล่าว
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ที่มาของยาเสพติดฯ มาจากการจับกุม ซึ่งระหว่างการดำเนินคดียาเสพติดฯ เหล่านี้จะถูกนำมาเก็บไว้ที่คลังเก็บยาเสพติดของ อย. ซึ่งมีระบบที่รัดกุม ปลอดภัย มีผู้รับผิดชอบในการเปิดคลังถึง 6 คน โดยการเปิดคลังแต่ละครั้งต้องขออนุญาต อย. ก่อน สำหรับการขนย้ายไปเผาทำลายครั้งนี้มีผู้รับผิดชอบ 4 คณะ ได้แก่ คณะทำงานตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลาง ซึ่งจะตรวจรับยาเสพติดในวันที่ 25 มิ.ย. คณะทำงานขนยาเสพติดฯ ไปยังศูนย์บริหารสาธารณูปโภคฯ คณะทำงานรักษาความปลอดภัยและทำลายยาเสพติดฯ และคณะทำงานประชาสัมพันธ์
“ที่น่าห่วงคือขณะนี้มียาเสพติดฯ อยู่ในคลังมากถึง 40 ตัน ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานของคลังที่จะรับได้เพียง 25 ตัน แต่ อย. ยังสามารถจัดเก็บยาเสพติดไว้ในคลังได้ โดยไม่กระทบเองการรักษาความปลอดภัย ซึ่งการแก้ปัญหามี 2 แนวทางคือ 1. ของบประมาณปี 2558 จำนวน 105 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารเก็บยาเสพติดแห่งใหม่ และ 2. ต้องแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ในมาตราที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ อย.สามารถเผาทำลายยาเสพติดฯ ได้แม้การตัดสินคดีความในชั้นศาลยังไม่เสร็จสิ้น เช่น ของกลางจำนวน 100 กิโลกรัม จะต้องกันยาเสพติดไว้เท่าไรเพื่อไม่ให้กระทบต่อการพิจารณาคดี ส่วนจำนวนที่เหลือสามารถนำไปเผาทำลายได้ และอาจปรับให้มีการเผาทำลายมากกว่า 1 ครั้งต่อปี ซึ่งจะช่วยให้ยาเสพติดฯ ไม่ล้นคลังมากจนเกินไป” เลขาธิการ อย. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่