คนไทยเกือบครึ่งไม่ใช้แปรงขนนุ่มแปรงฟัน แต่ใช้ขนปานกลางและขนแข็งทำให้เหงือกร่น แนะวิธีแปรงฟันถูกวิธีเพื่อความปลอดภัย
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สำนักทันตสาธารณสุข ได้สำรวจพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากของคนไทยใน ปี 2554 จำนวน 3,391 คน พบว่าใช้แปรงสีฟันขนนุ่มหรือนุ่มพิเศษ ร้อยละ 52 เลือกใช้ขนนุ่มปานกลาง ร้อยละ 41 และเลือกใช้ขนแปรงแข็ง ร้อยละ 6 นอกจากนี้ ยังพบว่า ไม่เคยอ่านข้อมูลในฉลากแปรงสีฟัน ร้อยละ 57 ทั้งที่เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ต้องระบุข้อมูลให้เพียงพอต่อการเลือกซื้อของประชาชน อาทิ ความอ่อนนุ่มของขนแปรง ลักษณะปลายขนแปรง วัสดุที่ใช้ผลิต และอายุที่เหมาะสมสำหรับแปรงสีฟันเด็ก เป็นต้น
นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า การเลือกซื้อแปรงสีฟัน ควรดูที่ขนแปรงเป็นอันดับแรก เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสฟันและเหงือกโดยตรงในการกำจัดคราบจุลินทรีย์ ซึ่งการวิจัยยืนยันว่าขนแปรงชนิดแข็ง ปานกลาง นุ่ม สามารถกำจัดคราบจุลินทรีย์ได้เหมือนกันโดยผู้ใช้อาจรู้สึกว่าขนแปรงแข็งทำความสะอาดฟันได้ดีกว่า แต่จริงๆ แล้วเป็นอันตรายต่อเหงือก ทำให้เหงือกร่นและทำให้วัสดุอุดฟันบางประเภทเสียหาย ส่วนขนปานกลางและนุ่มอาจมีผลต่อเหงือกเช่นกันหากแปรงฟันไม่เหมาะสม ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยให้เปลี่ยนมาใช้ขนแปรงนุ่มปลอดภัยที่สุด ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกประกาศให้แปรงสีฟันทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ต้องระบุข้อมูล 5 ข้อ คือ ความอ่อนแข็งของขนแปรง ลักษณะปลายขนแปรงฟัน เช่น ปลายมน ปลายเรียวแหลม วัสดุที่ใช้ทำขนแปรงและด้ามแปรง วิธีใช้ ข้อแนะนำ และแปรงสีฟันเด็กต้องระบุกลุ่มอายุ
ด้าน ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การแปรงฟันที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใหญ่ คือ ขยับปัด โดยการวางขนแปรงทำมุม 45 องศากับเหงือกตรงตำแหน่งคอฟัน หรือรอยต่อของเหงือกกับฟัน ซึ่งจะมีคราบจุลินทรีย์สะสมมากที่สุด โดยขยับขนแปรงบริเวณขอบเหงือกเป็นวงกลมเล็กๆ ประมาณ 1 - 2 มิลลิเมตร เพื่อให้คราบจุลินทรีย์หลุดออก และเป็นการช่วยกระตุ้นเหงือก ขยับประมาณ 5 - 6 ครั้ง แล้วปัดขนแปรงผ่านตัวฟันออกไปทางด้านบดเคี้ยว ทำจนครบทุกซี่ฟันทั้ง 2 ด้าน แต่จะต้องใช้แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่มเท่านั้น หากเป็นขนนุ่มปานให้ปัดขึ้นปัดลงไม่ต้องขยับเป็นวงกลม แต่อาจกำจัดคราบจุลินทรีย์ได้ไม่ดีเท่า แนะนำให้ใช้ไหมขัดซอกฟันร่วมด้วยอย่างน้อยวันละครั้ง
ทพ.สุธา กล่าวอีกว่า ส่วนวิธีแปรงฟันเด็กจะต่างจากการแปรงฟันของผู้ใหญ่ เนื่องจากฟันน้ำนมมีรูปทรงแตกต่างไปบ้าง แนะนำให้แปรงฟันโดยวางขนแปรงให้ตั้งฉากกับตัวฟันน้ำนม แล้วถูไปมาสั้นๆ ในแนวขวาง โดยใช้แปรงขนนุ่ม ขนาดเล็กพอเหมาะตามอายุเด็ก เพื่อไม่ให้หัวแปรงกระแทกเหงือกและกระพุ้งแก้มเด็ก และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อขนแปรงบาน เพราะนอกจากประสิทธิภาพในการกำจัดคราบจุลินทรีย์ลดลงแล้ว ขนแปรงที่บานจะไประคายเคืองเหงือกขณะแปรงฟัน ทำให้เจ็บ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กไม่ยอมแปรงฟัน และควรแปรงฟันตามสูตร 2 2 2 คือ วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงฟันนานครั้งละ 2 นาที หลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมงไม่ควรกินอาหารหวาน น้ำอัดลม เพื่อไม่เพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ ยืดเวลาให้ช่องปากสะอาดนานขึ้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สำนักทันตสาธารณสุข ได้สำรวจพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากของคนไทยใน ปี 2554 จำนวน 3,391 คน พบว่าใช้แปรงสีฟันขนนุ่มหรือนุ่มพิเศษ ร้อยละ 52 เลือกใช้ขนนุ่มปานกลาง ร้อยละ 41 และเลือกใช้ขนแปรงแข็ง ร้อยละ 6 นอกจากนี้ ยังพบว่า ไม่เคยอ่านข้อมูลในฉลากแปรงสีฟัน ร้อยละ 57 ทั้งที่เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ต้องระบุข้อมูลให้เพียงพอต่อการเลือกซื้อของประชาชน อาทิ ความอ่อนนุ่มของขนแปรง ลักษณะปลายขนแปรง วัสดุที่ใช้ผลิต และอายุที่เหมาะสมสำหรับแปรงสีฟันเด็ก เป็นต้น
นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า การเลือกซื้อแปรงสีฟัน ควรดูที่ขนแปรงเป็นอันดับแรก เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสฟันและเหงือกโดยตรงในการกำจัดคราบจุลินทรีย์ ซึ่งการวิจัยยืนยันว่าขนแปรงชนิดแข็ง ปานกลาง นุ่ม สามารถกำจัดคราบจุลินทรีย์ได้เหมือนกันโดยผู้ใช้อาจรู้สึกว่าขนแปรงแข็งทำความสะอาดฟันได้ดีกว่า แต่จริงๆ แล้วเป็นอันตรายต่อเหงือก ทำให้เหงือกร่นและทำให้วัสดุอุดฟันบางประเภทเสียหาย ส่วนขนปานกลางและนุ่มอาจมีผลต่อเหงือกเช่นกันหากแปรงฟันไม่เหมาะสม ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยให้เปลี่ยนมาใช้ขนแปรงนุ่มปลอดภัยที่สุด ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกประกาศให้แปรงสีฟันทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ต้องระบุข้อมูล 5 ข้อ คือ ความอ่อนแข็งของขนแปรง ลักษณะปลายขนแปรงฟัน เช่น ปลายมน ปลายเรียวแหลม วัสดุที่ใช้ทำขนแปรงและด้ามแปรง วิธีใช้ ข้อแนะนำ และแปรงสีฟันเด็กต้องระบุกลุ่มอายุ
ด้าน ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การแปรงฟันที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใหญ่ คือ ขยับปัด โดยการวางขนแปรงทำมุม 45 องศากับเหงือกตรงตำแหน่งคอฟัน หรือรอยต่อของเหงือกกับฟัน ซึ่งจะมีคราบจุลินทรีย์สะสมมากที่สุด โดยขยับขนแปรงบริเวณขอบเหงือกเป็นวงกลมเล็กๆ ประมาณ 1 - 2 มิลลิเมตร เพื่อให้คราบจุลินทรีย์หลุดออก และเป็นการช่วยกระตุ้นเหงือก ขยับประมาณ 5 - 6 ครั้ง แล้วปัดขนแปรงผ่านตัวฟันออกไปทางด้านบดเคี้ยว ทำจนครบทุกซี่ฟันทั้ง 2 ด้าน แต่จะต้องใช้แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่มเท่านั้น หากเป็นขนนุ่มปานให้ปัดขึ้นปัดลงไม่ต้องขยับเป็นวงกลม แต่อาจกำจัดคราบจุลินทรีย์ได้ไม่ดีเท่า แนะนำให้ใช้ไหมขัดซอกฟันร่วมด้วยอย่างน้อยวันละครั้ง
ทพ.สุธา กล่าวอีกว่า ส่วนวิธีแปรงฟันเด็กจะต่างจากการแปรงฟันของผู้ใหญ่ เนื่องจากฟันน้ำนมมีรูปทรงแตกต่างไปบ้าง แนะนำให้แปรงฟันโดยวางขนแปรงให้ตั้งฉากกับตัวฟันน้ำนม แล้วถูไปมาสั้นๆ ในแนวขวาง โดยใช้แปรงขนนุ่ม ขนาดเล็กพอเหมาะตามอายุเด็ก เพื่อไม่ให้หัวแปรงกระแทกเหงือกและกระพุ้งแก้มเด็ก และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อขนแปรงบาน เพราะนอกจากประสิทธิภาพในการกำจัดคราบจุลินทรีย์ลดลงแล้ว ขนแปรงที่บานจะไประคายเคืองเหงือกขณะแปรงฟัน ทำให้เจ็บ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กไม่ยอมแปรงฟัน และควรแปรงฟันตามสูตร 2 2 2 คือ วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงฟันนานครั้งละ 2 นาที หลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมงไม่ควรกินอาหารหวาน น้ำอัดลม เพื่อไม่เพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ ยืดเวลาให้ช่องปากสะอาดนานขึ้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่