ทีมแพทย์จิตเวช สธ. พร้อมลงพื้นที่สร้างสมานฉันท์ ล้างขั้วต่างทางการเมือง ปลัด สธ. เห็นด้วยสถาบันพระปกเกล้าให้จัดเสวนาแบบทุกฝ่ายเปิดใจ โดยเฉพาะคนเห็นเป็นกลาง อย่าให้นักการเมืองมาหาเสียง หรือมาพูดแต่เรื่องของตัวเอง เสนอปฏิรูปสื่อ ต้องเป็นกลาง
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงแนวทางการสร้างความสมานฉันท์ คนในชาติ ตามนโยบายของฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ขณะนี้ในส่วนของ สธ. ได้เตรียมความพร้อมของบุคลากรทีมแพทย์จิตเวช ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อลงไปสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ตามการประเมินของ กอ.รมน. จังหวัดแล้ว ซึ่งพื้นที่ไหนมีความพร้อมก็สามารถเริ่มดำเนินการได้เลย อย่างตอนนี้ก็มีการดำเนินกิจกรรมสันทนาการนำร่องแล้วหลายพื้นที่ ล่าสุด กรมสุขภาพจิตได้ส่งแผนงานและงบประมาณมาแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณา สำหรับการดำเนินงานแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกัน อยู่ที่ผลการประเมินอุณหภูมิการเมือง
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นด้วยกับเวทีสถาบันพระปกเกล้าที่ระบุว่าการจัดเวทีเสวนาต่างๆ ไม่ใช่การเอาคนที่มีความเห็นต่างมาพูดเรื่องของตัวเอง ที่สำคัญ ต้องไม่เปิดช่องให้นักการเมืองมาหาเสียง หรือให้คนมาใช้เวทีเพื่อหาชื่อเสียงให้กับตัวเอง แต่ควรจะมีพื้นที่สำหรับคนที่ยังมีความเห็นเป็นกลางซึ่งยังมีอยู่มากในสังคมไทย โดยการจะทำให้สำเร็จได้คือทุกคนต้องเปิดเผย เปิดใจ จะได้เข้าใจว่าคนอื่นคิดอะไร ส่วนการสร้างความสมานฉันปรองดองในระดับพื้นที่หมู่บ้านนั้น จะเห็นว่าตรงนี้เป็นชุดความคิดที่ถูกครอบงำโดยสื่อด้านเดียว ดังนั้น จึงได้เสนอให้มีการปฏิรูปสื่อ สื่อต้องเป็นกลาง ต้องไม่เป็นพวกใคร สื่อต้องเปิดใจรับข้อมูล และนำเสนอให้ข้อมูลทุกด้านเพื่อไม่ให้สังคมถูกชี้นำโดยสื่อด้านเดียว สื่อต้องคิดถึงประเทศชาติ
“การเปิดเวทีต่างๆ ถ้าทุกคนเปิดใจแล้วจะทำให้เห็นความหวังว่าประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ชุมชนเราเห็นอะไร คนที่มีความขัดแย้งเห็นชุมชนเราเป็นอย่างไร อยากจะอยู่กันแบบนี้อย่างนั้นหรือ” ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
frameborder="0" style="border:none; overflow:hidden; width:450px; height:590px;" allowTransparency="true">
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงแนวทางการสร้างความสมานฉันท์ คนในชาติ ตามนโยบายของฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ขณะนี้ในส่วนของ สธ. ได้เตรียมความพร้อมของบุคลากรทีมแพทย์จิตเวช ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อลงไปสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ตามการประเมินของ กอ.รมน. จังหวัดแล้ว ซึ่งพื้นที่ไหนมีความพร้อมก็สามารถเริ่มดำเนินการได้เลย อย่างตอนนี้ก็มีการดำเนินกิจกรรมสันทนาการนำร่องแล้วหลายพื้นที่ ล่าสุด กรมสุขภาพจิตได้ส่งแผนงานและงบประมาณมาแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณา สำหรับการดำเนินงานแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกัน อยู่ที่ผลการประเมินอุณหภูมิการเมือง
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นด้วยกับเวทีสถาบันพระปกเกล้าที่ระบุว่าการจัดเวทีเสวนาต่างๆ ไม่ใช่การเอาคนที่มีความเห็นต่างมาพูดเรื่องของตัวเอง ที่สำคัญ ต้องไม่เปิดช่องให้นักการเมืองมาหาเสียง หรือให้คนมาใช้เวทีเพื่อหาชื่อเสียงให้กับตัวเอง แต่ควรจะมีพื้นที่สำหรับคนที่ยังมีความเห็นเป็นกลางซึ่งยังมีอยู่มากในสังคมไทย โดยการจะทำให้สำเร็จได้คือทุกคนต้องเปิดเผย เปิดใจ จะได้เข้าใจว่าคนอื่นคิดอะไร ส่วนการสร้างความสมานฉันปรองดองในระดับพื้นที่หมู่บ้านนั้น จะเห็นว่าตรงนี้เป็นชุดความคิดที่ถูกครอบงำโดยสื่อด้านเดียว ดังนั้น จึงได้เสนอให้มีการปฏิรูปสื่อ สื่อต้องเป็นกลาง ต้องไม่เป็นพวกใคร สื่อต้องเปิดใจรับข้อมูล และนำเสนอให้ข้อมูลทุกด้านเพื่อไม่ให้สังคมถูกชี้นำโดยสื่อด้านเดียว สื่อต้องคิดถึงประเทศชาติ
“การเปิดเวทีต่างๆ ถ้าทุกคนเปิดใจแล้วจะทำให้เห็นความหวังว่าประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ชุมชนเราเห็นอะไร คนที่มีความขัดแย้งเห็นชุมชนเราเป็นอย่างไร อยากจะอยู่กันแบบนี้อย่างนั้นหรือ” ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
frameborder="0" style="border:none; overflow:hidden; width:450px; height:590px;" allowTransparency="true">