สั่งชะลอแท็บเล็ต ตั้งแต่ปี 56-58 ผบ.ทร. เผยนัดถกสัปดาห์หน้าอีกหนก่อนฟันธงเดินหน้า หรือล้มโครงการ ย้ำพิจารณาตามหลักเหตุและผลดูประโยชน์เป็นสำคัญ ส่วนงบประมาณจะใช้เพื่อการศึกษายันไม่เอาไปเอี่ยวจ่ายจำนาข้าวชาวนา มั่นใจ คสช. ไม่มีปัญหาอนุมัติเงินปล่อยกู้ กยศ. แต่จะเชิญ ศธ. กยศ. และสำนักงบฯ มาคุยการทำงานภาพรวม ทั้งการบริหารจัดการภาพรวมให้เป็นไปอย่างรัดกุม
วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา พร้อมด้วย พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายฯ เดินทางมาประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหน่วยงานในกำกับของ ศธ. โดยมี นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ. นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) พร้อมด้วยข้าราชการ ศธ. ให้การต้อนรับ
จากนั้นเวลา 12.30 น. พล.ร.อ.ณรงค์ แถลงข่าวภายหลังการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า ได้หารือเกี่ยวกับโครงการและนโยบายเร่งด่วนของปีงบประมาณ 2557 และปีงบประมาณ 2558 รวมถึงนโยบายแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ซึ่งปัจจุบันโครงแจกแท็บเล็ตประจำปี 2556 เหลือการจัดซื้ออีก 1 โซนในโซนที่ 4 ระดับ ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ส่วนโครงการจัดซื้อแท็บเล็ตปีงบประมาณ 2557 ยังไม่ได้เริ่มขั้นตอนการประกวดราคา เพราะอยู่ระหว่างจัดทำร่างขอบเขตงาน หรือ ทีโออาร์ เพราะฉะนั้น ต้องมีการประเมินว่าโครงการเหมาะสมที่จะดำเนินการต่อหรือไม่ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกันสัปดาห์หน้าเพื่อหาคำตอบดังกล่าว
“ตอนนี้ให้ชะลอโครงการไว้ก่อน รอคำตอบในสัปดาห์หน้า ซึ่งการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าหรือยกเลิกโครงการแท็บเล็ตนั้น จะยึดหลักเหตุและผล โดยจะย้อนไปดูว่านโยบายแจกแท็บเล็ตที่เริ่มแจกครั้งแรกตั้งแต่ปี 2555 นั้น เมื่อแจกไปแล้วนักเรียนได้ประโยชน์จากสิ่งนี้คุ้มค่าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากมีการยกเลิกโครงการจริงงบประมาณที่ขอมาไว้แล้วนั้นจะนำไปทำโครงการอื่นที่เป็นประโยชน์ด้านการศึกษา เช่น อาจปรับไปทำห้องสมาร์ทคลาสรูม เพื่อให้ใช้ร่วมกันแทนการแจกจ่ายให้เป็นรายบุคคล ทั้งนี้ หากมีการตัดสินใจยกเลิกแจกแท็บเล็ต ปี 2555-2557 เพราะเห็นว่าไม่เหมาะสมและไม่คุ้มค่า ก็เป็นอันแน่นอนว่าจะไม่มีการสานต่อโครงการนี้ในปี 2558”พล.อ.ณรงค์ กล่าวและว่า หากมีการยกเลิกโครงการแจกแท็บเล็ตจริงก็ไม่ได้นำงบประมาณในส่วนนี้ไปใช้จ่ายหนี้ชาวนา ตามโครงการจำนำข้าว แต่จะผันไปใช้กับโครงการด้านการศึกษาต่อไป
ผบ.ทร. กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองทุนกู้กองเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ผ่านมา ศธ. ได้เสนอของบประมาณเพิ่มเติม จำนวน 3,610 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้ให้ผู้กู้รายใหม่ จำนวน 204,000 คน และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร กยศ. แล้ว ซึ่งตนเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีประโยชน์จะเสนอ คสช. พิจารณาจัดสรรงบประมาณซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนจะได้ครบทั้ง 3,610 ล้านบาทหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับสำนักงบฯ อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้าจะเชิญหน่วยงานทั้ง กยศ. ศธ. และสำนักงบฯ มาหารือร่วมกันในภาพรวม โดยเฉพาะกระบวนการติดตามหนี้สินที่จะต้องมีความรัดกุม ไม่ใช่ปล่อยกู้ไปแล้วไม่ได้เงินคืน นอกจากนี้ จะเร่งประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อหางบประมาณซ่อมแซมและสร้างอาคารเรียนใหม่ในโรงเรียนในจังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว
“จะหยิบโครงการอื่นๆ ที่ ศธ. ดำเนินการไปแล้วมาทบทวนด้วย อาทิ โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ฯลฯ โดยจะดูว่าผลการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นประโยชน์ต่อการศึกษามากน้อยเพียงไร เพราะ ศธ. ได้รับงบประมาณด้านการศึกษาจำนวนมาก แต่กลับพบว่ายังมีปัญหาคุณภาพการศึกษา วันนี้เข้ามารับฟังการทำงานของแต่ละองค์กร และเน้นย้ำในเรื่องเร่งด่วนส่วนการทำงานของกระทรวงยังยึดแนวทางเดิม ผมจะไม่เข้ามาปฏิรูประบบราชการอะไรใหม่ เพียงแต่อำนาจที่นอกเหนือจากปลัด ศธ. ผมก็จะช่วยกลั่นกรองให้อีกขั้นหนึ่งเพื่อให้การทำงานเร็วขึ้น เบื้องต้นยังไม่ได้ลงลึกถึงการปฏิรูปภาพรวมระบบงานทั้งกระทรวง เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ต้องใช้เวลา”พล.อ.ณรงค์ กล่าว
ด้าน ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้มีการนำเสนอระบบการบริหารงานของ สกอ. และอธิบายความสำคัญของโครงการมหาวิทยาลัยวิจัย เนื่องจากงานวิจัยมีความสำคัญในการพัฒนาประเทศ รวมถึงได้เสนอโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสิ้นสุดงบประมาณปี 2557 ทาง สกอ.ต้องของบประมาณในปี2558 เพื่อดำเนินการต่อ โดย พล.ร.อ.ณรงค์ เข้าใจและได้เห็นความสำคัญของการดำเนินงานโครงการต่างๆ ดังนั้น หลังจากนี้ สกอ. จะไปดูรายละเอียดของโครงการต่างๆ รวมถึงปรับเรื่องงบประมาณให้เหมาะสม เพื่อจะนำเสนออีกครั้ง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่