ร.ร. ทุกสังกัด ทั่วประเทศพร้อมเปิดเรียวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. นี้ ขณะที่ ปลัด ศธ. เตรียมนำทิศทางการทำงานหลังเข้าพบ สคช. มาทำความเข้าใจกับผู้บริหารองค์กรหลักพรุ่งนี้ เช่นเดียวกับ สพฐ.เตรียมหารือดำเนินการโครงการแท็บเล็ต โซน 4 ที่ค้างอยู่
วันนี้ (25 พ.ค.) นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีประกาศประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สถานศึกษาทั้งสังกัดรัฐและเอกชน ทั่วประเทศหยุดการเรียนการสอนระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคมนั้น ซึ่งในวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคมนี้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งสังกัดรัฐและเอกชนทุกจะเปิดเรียนตามปกติ ยกเว้นระดับอุดมศึกษาที่ปีนี้เลื่อนเปิดภาคเรียนไปในช่วงเดือนสิงหาคม 2557 ทั้งนี้ พรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ตนจะประชุมร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและรับทราบแนวทางปฏิบัติงานในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจะนำแนวทางและนโยบายจากที่ได้รับภายหลังเข้าไปรายงานตัวต่อ สคช. เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แจ้งให้ให้ผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ได้รับทราบ และซักซ้อมการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์กับการการศึกษาของชาติ
ด้าน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. นี้ สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทุกแห่งทั่วประเทศ จะเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ขณะนี้จากที่ประเมินสถานการณ์น่าจะไม่ส่งผลกระทบใดแก่นักเรียน นักศึกษา แต่อย่างไรก็ตาม ได้ให้อำนาจผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้พิจารณา หากเห็นว่าจุดใดเหตุการณ์ยังไม่ปกติและเกิดผลกระทบกับนักเรียน นักศึกษา ก็สามารถสั่งปิดการเรียนการสอนได้
ขณะที่ นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า โรงเรียนทุกแห่งในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเปิดเรียนตามปกติในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) ซึ่งในเรื่องการเรียนการสอนไม่มีปัญหาใด เพราะโรงเรียนได้เปิดเทอมและเริ่มทำการเรียนการสอนไปตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เมื่อได้มีคำสั่ง คสช. ให้หยุดเรียน 23-25 พฤษภาคมทุกแห่งก็ปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม ในการประชุมผู้บริหาร ศธ. พรุ่งนี้ ตนจะหารือเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ปีการศึกษา 2556 ที่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะในโซน 4 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ที่เพิ่งมีการประกาศขายซองและคาดจะเริ่มการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการจัดซื้อเพราะเป็นโครงการต่อเนื่อง แต่เนื่องจาก คสช. มีประกาศในเรื่องเกี่ยวกับการอนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณ ดังนั้น จะต้องหารือว่ากรณีดังกล่าวจะต้องดำเนินการเช่นไร