กรมแพทย์แผนไทยฯ เผยผู้ป่วยมะเร็งรับยาเบญจอำมฤตย์พบบางรายก้อนมะเร็งเล็กลง ตั้งเป้าทำให้เป็นโรคเรื้อรัง เผยเตรียมกระจายยาไปยัง 14 โรงพยาบาล หวังช่วยผู้ป่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เริ่ม 1 มิ.ย.
วันนี้ (7 พ.ค.) นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวการขยายการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายด้วยตำรับเบญจอำมฤตย์ใน 14 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ว่า หลังจากเปิดให้ผู้ป่วยมะเร็งมารับยาเบญจอำมฤตย์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 30 เม.ย. พบว่า มีจำนวน 3,147 ราย เป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งตับมากที่สุดประมาณ 2,200 ราย นอกจากนี้ ยังมีมะเร็งปอด ลำไส้ ต่อมน้ำเหลือง เต้านม ถุงน้ำดี และท่อน้ำดี เป็นต้น ซึ่งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาจากการติดตามอาการผู้ป่วยมะเร็งพบว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และที่เห็นผลชัดคือบางรายขนาดของมะเร็งเล็กลง กรมฯจึงตั้งเป้าว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โรคมะเร็งกลายเป็นเพียงโรคเรื้อรังเท่านั้น
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ปัญหาหนึ่งของการมารับยาเบญจอำมฤตย์คือค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ดังนั้น กรมฯจึงได้กระจายยาไปยังโรงพยาบาล 14 แห่งที่เข้าร่วมการพัฒนาศักยภาพระบบบริการการแพทย์แผนไทย ได้แก่ รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี, รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี, รพ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว, รพ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว, รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี, รพ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ, รพ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร, รพ.เทิง จ.เชียงราย, รพ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่, รพ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี, รพ.ท่าโรงช้าง จ.สุราษฎร์ธานี, รพ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และ รพ.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กรุงเทพฯ (รพ.ยศเส) ซึ่งจะเริ่มให้บริการพร้อมกันวันที่ 1 มิ.ย. ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการติดตามอาการกับทางกรมฯ จะได้รับยาเบญจอำมฤตย์ฟรีเช่นเดิม ส่วนกลุ่มอื่นก็สามารถใช้สิทธิการรักษาได้ทั้ง 3 สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การรักษาต้องควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันด้วย
วันนี้ (7 พ.ค.) นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวการขยายการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายด้วยตำรับเบญจอำมฤตย์ใน 14 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ว่า หลังจากเปิดให้ผู้ป่วยมะเร็งมารับยาเบญจอำมฤตย์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 30 เม.ย. พบว่า มีจำนวน 3,147 ราย เป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งตับมากที่สุดประมาณ 2,200 ราย นอกจากนี้ ยังมีมะเร็งปอด ลำไส้ ต่อมน้ำเหลือง เต้านม ถุงน้ำดี และท่อน้ำดี เป็นต้น ซึ่งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาจากการติดตามอาการผู้ป่วยมะเร็งพบว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และที่เห็นผลชัดคือบางรายขนาดของมะเร็งเล็กลง กรมฯจึงตั้งเป้าว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โรคมะเร็งกลายเป็นเพียงโรคเรื้อรังเท่านั้น
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ปัญหาหนึ่งของการมารับยาเบญจอำมฤตย์คือค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ดังนั้น กรมฯจึงได้กระจายยาไปยังโรงพยาบาล 14 แห่งที่เข้าร่วมการพัฒนาศักยภาพระบบบริการการแพทย์แผนไทย ได้แก่ รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี, รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี, รพ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว, รพ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว, รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี, รพ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ, รพ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร, รพ.เทิง จ.เชียงราย, รพ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่, รพ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี, รพ.ท่าโรงช้าง จ.สุราษฎร์ธานี, รพ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และ รพ.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กรุงเทพฯ (รพ.ยศเส) ซึ่งจะเริ่มให้บริการพร้อมกันวันที่ 1 มิ.ย. ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการติดตามอาการกับทางกรมฯ จะได้รับยาเบญจอำมฤตย์ฟรีเช่นเดิม ส่วนกลุ่มอื่นก็สามารถใช้สิทธิการรักษาได้ทั้ง 3 สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การรักษาต้องควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันด้วย