สธ. เร่งคลอดเกณฑ์จริยธรรมจัดซื้อจัดจ้างทั้งยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทันตกรรม และสำนักงาน ตั้ง 5 คณะทำงานศึกษาทบทวน ดีเดย์ 1 ต.ค. 2557 หวังยกเลิกการผูกขาดผู้ซื้อผู้ขาย สร้างธรรมาภิบาลให้องค์กร
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขต ว่า ได้หารือเรื่องการทำให้ระบบสาธารณสุขมีธรรมาภิบาลและจริยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อจัดจ้าง ยา เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา อุปกรณ์ทันตกรรมและวัสดุสำนักงาน ซึ่งจะมีการกำหนดเกณฑ์จริยธรรมครอบคลุมทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ขาย ผู้ซื้อ และผู้ใช้ อาจออกเป็นระเบียบ สธ. รวมถึงจะดำเนินการในเรื่องกำหนดราคากลาง การเผยแพร่ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง และการติดตามการดำเนินการควบคู่ด้วย โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงาน 5 คณะ เพื่อศึกษา ทบทวนระบบการจัดซื้อจัดจ้างของ สธ. ใช้เวลา 1 เดือน จากนั้นช่วง ส.ค. - ก.ย. จะให้ทุกหน่วยงานใน สธ. เริ่มทำแผนการจัดซื้อจัดจ้าง และเริ่มใช้เกณฑ์จริยธรรมการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ 2558 หรือ 1 ต.ค. 2557 เป็นต้นไป
“เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งการทำให้การบริหารภายใน สธ. มีธรรมาภิบาลมากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะมีการนำหลักเกณฑ์จริยธรรมนี้เสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เพื่อให้เกณฑ์นี้ใช้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งของรัฐนอก สธ. และเอกชน แม้บุคลากรส่วนใหญ่มีจริยธรรมในการจัดซื้อจัดจ้างอยู่แล้ว แต่การมีเกณฑ์จริยธรรมจะทำให้คนที่ยังไม่ทราบได้มีการระมัดระวังในการดำเนินการให้ถูกต้องตามจริยธรรม เช่น ความสัมพันธ์ที่มากเกินไประหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ การที่ผู้ขายเข้ามาคลุกคลีอยู่ภายในสำนักงาน เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดจัดซื้อจัดจ้าง” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้มีการพิจารณาถึงการเวลาการทำงานของแพทย์และพยาบาลในสถานพยาบาลสังกัด สธ. ด้วย โดยจะมีการกำกับ ดูแลให้แพทย์ พยาบาลทำงานตามเวลาราชการ ซึ่งปัจจุบันพบว่าแพทย์ พยาบาลบางส่วนต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของเวลาการทำงาน เพื่อให้ระบบบริการสุขภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขต ว่า ได้หารือเรื่องการทำให้ระบบสาธารณสุขมีธรรมาภิบาลและจริยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อจัดจ้าง ยา เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา อุปกรณ์ทันตกรรมและวัสดุสำนักงาน ซึ่งจะมีการกำหนดเกณฑ์จริยธรรมครอบคลุมทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ขาย ผู้ซื้อ และผู้ใช้ อาจออกเป็นระเบียบ สธ. รวมถึงจะดำเนินการในเรื่องกำหนดราคากลาง การเผยแพร่ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง และการติดตามการดำเนินการควบคู่ด้วย โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงาน 5 คณะ เพื่อศึกษา ทบทวนระบบการจัดซื้อจัดจ้างของ สธ. ใช้เวลา 1 เดือน จากนั้นช่วง ส.ค. - ก.ย. จะให้ทุกหน่วยงานใน สธ. เริ่มทำแผนการจัดซื้อจัดจ้าง และเริ่มใช้เกณฑ์จริยธรรมการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ 2558 หรือ 1 ต.ค. 2557 เป็นต้นไป
“เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งการทำให้การบริหารภายใน สธ. มีธรรมาภิบาลมากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะมีการนำหลักเกณฑ์จริยธรรมนี้เสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เพื่อให้เกณฑ์นี้ใช้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งของรัฐนอก สธ. และเอกชน แม้บุคลากรส่วนใหญ่มีจริยธรรมในการจัดซื้อจัดจ้างอยู่แล้ว แต่การมีเกณฑ์จริยธรรมจะทำให้คนที่ยังไม่ทราบได้มีการระมัดระวังในการดำเนินการให้ถูกต้องตามจริยธรรม เช่น ความสัมพันธ์ที่มากเกินไประหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ การที่ผู้ขายเข้ามาคลุกคลีอยู่ภายในสำนักงาน เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดจัดซื้อจัดจ้าง” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้มีการพิจารณาถึงการเวลาการทำงานของแพทย์และพยาบาลในสถานพยาบาลสังกัด สธ. ด้วย โดยจะมีการกำกับ ดูแลให้แพทย์ พยาบาลทำงานตามเวลาราชการ ซึ่งปัจจุบันพบว่าแพทย์ พยาบาลบางส่วนต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของเวลาการทำงาน เพื่อให้ระบบบริการสุขภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น