xs
xsm
sm
md
lg

เตือน ก.พ.-มิ.ย. เลี่ยงกินไข่แมงดา เหตุแพลงก์ตอนมีพิษแพร่พันธุ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ. เตือน ก.พ.-มิ.ย. เลี่ยงกินไข่แมงดาทะเล เหตุแมงดาถ้วยกินแพลงก์ตอนมีพิษซึ่งแพร่พันธุ์ช่วงนี้ ระบุพิษจะเข้าไปสะสมในไข่แมงดาถ้วย ย้ำอันตรายเพราะไข่แมงดาถ้วยเหมือนไข่แมงดาจานที่กินได้ เสี่ยงขายปะปน กินแล้วชารอบปาก อาเจียน เวียนศีรษะ ถึงขั้นตายไม่รู้ตัว

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. - 12 มี.ค. ได้รับรายงานจากสำนักระบาดวิทยา พบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการกินไข่แมงดาทะเลเผาและยำ ใน จ.ตราด 5 เหตุการณ์ ผู้ป่วยรวม 17 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยอาการผู้ป่วยที่พบคือชาที่ปาก ลิ้น แขน ขา และลำตัว พูดไม่ชัด อาเจียน เวียนศีรษะ ทั้งนี้ แมงดาทะเลมีอยู่ 2 ชนิดคือ แมงดาจาน หรือแมงดาทะเลหางเหลี่ยม มีขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย และแมงดาถ้วย หรือแมงดาทะเลหางกลม หรือเหรา หรือแมงดาไฟ ตัวมีขนาดเล็กกว่า มีสีส้มหรือน้ำตาลเข้ม อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลน

ลักษณะของแมงดา 2 ชนิดนี้ สังเกตได้ที่หาง โดยแมงดาจานจะมีหางเหลี่ยม ส่วนแมงดาถ้วยมีหางกลม ซึ่งแมงดาจานไม่มีพิษสามารถกินได้ แต่แมงดาถ้วยกินไม่ได้เนื่องจากมีพิษ ซึ่งไม่ได้สร้างขึ้นโดยตัวของมันเอง แต่เกิดมาจาก 2 สาเหตุ คือ 1. กินตัวแพลงก์ตอนที่มีพิษ หรือกินหอย/หนอนที่กินแพลงก์ตอนที่มีพิษเข้าไป ทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วย และ 2. เกิดจากแบคทีเรียในลำไส้ของแมงดาถ้วยสร้างพิษขึ้นมาได้เอง จึงขอย้ำเตือนให้ระมัดระวังในการกินไข่แมงดาในช่วงนี้” ปลัด สธ. กล่าว

ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ช่วง ก.พ. - มิ.ย. ทุกปี จะมีการแพร่พันธุ์ของแพลงก์ตอนที่สร้างสารพิษจำนวนมาก แมลงดาถ้วยจะกินแพลงก์ตอนเหล่านี้ และพิษจะไปสะสมที่ไข่ เมื่อคนกินไข่แมงดาจะทำให้ได้รับพิษจำนวนมาก เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงและรวดเร็วภายใน 10-45 นาที หลังกินเข้าไป โดยจะชารอบปากและลิ้น บางรายอาจมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ และคลื่นไส้อาเจียน ชาตามปลายนิ้วมือและเท้า และมีอ่อนแรงของปลายมือและเท้า กลืนลำบาก หนังตาตก หยุดหายใจ และเสียชีวิตได้

นพ.โสภณ กล่าวว่า สารพิษที่พบในไข่ของแมงดาถ้วย คือเตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) และเซซิท็อกซิน (Sasitoxin)
ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า สารพิษนี้ทนทานความร้อนสูงมาก การต้ม ทอด ย่าง หรือปิ้ง ไม่สามารถทำลายพิษได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ ไม่ควรกินไข่แมงดาทะเลในช่วงเวลานี้ เนื่องจากอาจมีไข่แมงดาถ้วยที่มีพิษอันตรายปะปนอยู่กับไข่แมงดาจานที่กินได้ ซึ่งไข่มีลักษณะเหมือนกัน จึงมีโอกาสเสี่ยงได้รับพิษจากแมงดาทะเลที่มีพิษโดยไม่รู้ตัว สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกินไข่แมงดาทะเล หากกินแล้วเกิดอาการดังกล่าวให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด และแจ้งแพทย์ว่ากินไข่แมงดาทะเล จะได้รักษาอย่างทันท่วงที เช่น ล้างท้อง ใช้เครื่องช่วยหายใจประคับประคองอาการ เพราะปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษจากแมงดาทะเล


กำลังโหลดความคิดเห็น