สธ. ส่งทีมสำรวจผลกระทบคราบน้ำมันปากอ่าวมหาชัย สุ่มเก็บตัวอย่างปลา ปู กุ้งเลี้ยงตรวจหาสารก่อมะเร็ง ทราบผล 11 เม.ย. นี้ หากพบปริมาณสูงจ่อประกาศเตือน สุ่มตรวจซ้ำทุกสัปดาห์จนกว่าจะไม่พบ
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีเรือบรรทุกกากน้ำมันล่มกลางทะเล เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ทำให้มีคราบน้ำมันในทะเลบริเวณปากอ่าวมหาชัย จ.สมุทรสาคร และมีผลกระทบกับชาวประมงริมฝั่งที่เลี้ยงปลา กุ้ง ในกระชัง ว่า ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรสาคร ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปร่วมสำรวจกับทีมผู้ว่าราชการจังหวัดฯ พบว่ามีคราบน้ำมันรัศมีประมาณ 1 กิโลเมตร ได้ใช้ห่วงยางล้อมคราบน้ำมัน ไม่ให้แพร่กระจายและใช้โฟมฉีดเพื่อให้น้ำมันรวมตัวตกตะกอนลงใต้ทะเลเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 เม.ย. กลุ่มงานอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม สสจ.สมุทรสาคร ได้ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประจำ จ.สมุทรสาคร สำรวจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะชาวประมงริมชายฝั่งที่เลี้ยงปลา ปู กุ้งในกระชังที่มีประมาณ 100 กว่าฟาร์ม ที่คราบน้ำมันลอยไปถึงว่าได้รับผลกระทบหรือไม่ พร้อมสุ่มเก็บตัวอย่างปลา ปู กุ้งเลี้ยงในกระชังจากฟาร์ม ประมาณ 15-20 ตัวอย่าง ส่งตรวจสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่สำคัญ 2 ตัว ได้แก่ ทาร์และเบนซีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและเกิดจากน้ำมันที่ใช้แล้ว ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สมุทรสงคราม จะทราบผลภายในวันที่ 11 เม.ย.นี้
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า หากพบสารทั้ง 2 ตัวในปริมาณสูงที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค จะออกประกาศเตือนห้ามประชาชนนำมาบริโภค และจะสุ่มตรวจซ้ำทุกสัปดาห์จนกว่าจะไม่พบ จึงจะยกเลิกประกาศ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยได้ประกาศเตือนห้ามประชาชนลงเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าว ส่วนผู้ปฏิบัติงานให้สวมชุดป้องกันน้ำมันที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จาก รพ.สมุทรสาครและ สสจ.สมุทรสาคร ไปตั้งจุดบริการให้คำปรึกษาและรักษาเบื้องต้นที่บริเวณปากอ่าวมหาชัย อ.มหาชัย เป็นเวลา 1 สัปดาห์
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีเรือบรรทุกกากน้ำมันล่มกลางทะเล เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ทำให้มีคราบน้ำมันในทะเลบริเวณปากอ่าวมหาชัย จ.สมุทรสาคร และมีผลกระทบกับชาวประมงริมฝั่งที่เลี้ยงปลา กุ้ง ในกระชัง ว่า ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรสาคร ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปร่วมสำรวจกับทีมผู้ว่าราชการจังหวัดฯ พบว่ามีคราบน้ำมันรัศมีประมาณ 1 กิโลเมตร ได้ใช้ห่วงยางล้อมคราบน้ำมัน ไม่ให้แพร่กระจายและใช้โฟมฉีดเพื่อให้น้ำมันรวมตัวตกตะกอนลงใต้ทะเลเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 เม.ย. กลุ่มงานอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม สสจ.สมุทรสาคร ได้ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประจำ จ.สมุทรสาคร สำรวจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะชาวประมงริมชายฝั่งที่เลี้ยงปลา ปู กุ้งในกระชังที่มีประมาณ 100 กว่าฟาร์ม ที่คราบน้ำมันลอยไปถึงว่าได้รับผลกระทบหรือไม่ พร้อมสุ่มเก็บตัวอย่างปลา ปู กุ้งเลี้ยงในกระชังจากฟาร์ม ประมาณ 15-20 ตัวอย่าง ส่งตรวจสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่สำคัญ 2 ตัว ได้แก่ ทาร์และเบนซีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและเกิดจากน้ำมันที่ใช้แล้ว ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สมุทรสงคราม จะทราบผลภายในวันที่ 11 เม.ย.นี้
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า หากพบสารทั้ง 2 ตัวในปริมาณสูงที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค จะออกประกาศเตือนห้ามประชาชนนำมาบริโภค และจะสุ่มตรวจซ้ำทุกสัปดาห์จนกว่าจะไม่พบ จึงจะยกเลิกประกาศ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยได้ประกาศเตือนห้ามประชาชนลงเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าว ส่วนผู้ปฏิบัติงานให้สวมชุดป้องกันน้ำมันที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จาก รพ.สมุทรสาครและ สสจ.สมุทรสาคร ไปตั้งจุดบริการให้คำปรึกษาและรักษาเบื้องต้นที่บริเวณปากอ่าวมหาชัย อ.มหาชัย เป็นเวลา 1 สัปดาห์