ฝันค้าง! บรรจุ ขรก.สธ.ใหม่ เหตุยังไร้ ครม.ชุดใหม่ สธ.เผยเตรียมพร้อมเสนอแล้ว ยันไม่กระทบขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ อ้างอัตราลาออกของแพทย์จบใหม่ปี 2557 มีแค่ 9 คนเท่านั้น
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการขอตำแหน่งข้าราชการเพิ่มใหม่ 7,547 อัตรา เพื่อบรรจุในปี 2557 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2555 ในการแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคน สธ.จำนวน 22,641 อัตรา ระหว่างปี 2556-2558 ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการบรรจุข้าราชการใหม่ทุกสายวิชาชีพได้ รวมทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร จบใหม่ใช้ทุนตามสัญญาจำนวน 2,947 อัตรา เนื่องจากการต้องเสนอ ครม.ชุดใหม่ก่อน เพราะ ครม.รักษาการไม่มีอำนาจ ซึ่งระหว่างนี้ได้เตรียมความพร้อมเพื่อนำเสนอ ครม.ชุดใหม่แล้ว
นพ.วชิระ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) กำหนดให้ สธ.ดำเนินมาตรการเร่งด่วนและระยะยาว โดยมาตรการเร่งด่วน คือให้ สธ.วางแผนอัตรากำลังคนที่จำเป็นและตามความเหมาะสมก่อนในปีงบประมาณ 2557-2558 เพื่อให้ คปร.พิจารณาจัดสรรอัตราข้าราชการสายวิชาชีพ 24 สายงาน เพิ่มใหม่จำนวนปีละ 7,547 อัตรา ก่อนนำเข้าเสนอ ครม.ซึ่งขณะนี้ สธ.ได้วิเคราะห์อัตรากำลังที่เหมาะสมแล้ว โดยพิจารณาจากภาระงานของตำแหน่งแต่ละวิชาชีพ ในสถานบริการสาธารณสุขสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับใน 12 เขตบริการสุขภาพ และเชื่อมโยงข้อมูลกับฐานข้อมูลกำลังคนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) พร้อมเสนอ ครม.ชุดใหม่ได้ทันที
“ระหว่างการรอบรรจุเป็นข้าราชการใหม่นั้น มั่นใจว่าไม่กระทบกับขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ ยังมีความเชื่อมั่นในระบบของ สธ.ตัวอย่างจากกลุ่มแพทย์จบใหม่ในปี 2557 พบว่ามีแพทย์ลาออกเพียง 9 คน เป็นแพทย์จบใหม่จากโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท 3 คน จากที่จบทั้งหมด 878 คน เป็นแพทย์ที่จบจากมหาวิทยาลัยต่างๆ 6 คน จากจบทั้งหมด 1,830 คน คิดเป็นร้อยละ 0.3” รองปลัด สธ.กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวว่า นอกจากเรื่องบรรจุข้าราชการใหม่แล้ว สธ.ยังเร่งแก้ไขการเยียวยาให้ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ ที่จบการศึกษาปี 2545-2550 และได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการก่อนวันที่ 11 ธ.ค. 2555 จำนวนประมาณ 12,000 คน เนื่องจากหลังการบรรจุพบว่ามีความแตกต่างจากลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการที่ได้รับการบรรจุเมื่อปี 2556 จำนวน 7,547 อัตรา ซึ่งหลักเกณฑ์ของ ก.พ.ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2556 ที่สามารถนำอายุงานตั้งแต่เริ่มเป็นลูกจ้างชั่วคราวมานับรวมอายุราชการ เพื่อใช้ประกอบการจัดทำเอกสารวิชาการเลื่อนระดับที่สูงขึ้นได้ และได้รับอัตราเงินเดือนต่อจากฐานเดิมได้เลย ไม่ต้องเริ่มต้นในตำแหน่งใหม่ ส่งผลให้ผู้ที่บรรจุรุ่นหลังนี้ได้รับสิทธิที่เหลื่อมล้ำกว่ากลุ่มแรก กระทรวงฯได้เร่งแก้ไขเยียวยาโดยหารือกับ ก.พ.ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ก.พ.คาดว่าจะทราบผลสิ้นเดือนนี้
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการขอตำแหน่งข้าราชการเพิ่มใหม่ 7,547 อัตรา เพื่อบรรจุในปี 2557 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2555 ในการแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคน สธ.จำนวน 22,641 อัตรา ระหว่างปี 2556-2558 ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการบรรจุข้าราชการใหม่ทุกสายวิชาชีพได้ รวมทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร จบใหม่ใช้ทุนตามสัญญาจำนวน 2,947 อัตรา เนื่องจากการต้องเสนอ ครม.ชุดใหม่ก่อน เพราะ ครม.รักษาการไม่มีอำนาจ ซึ่งระหว่างนี้ได้เตรียมความพร้อมเพื่อนำเสนอ ครม.ชุดใหม่แล้ว
นพ.วชิระ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) กำหนดให้ สธ.ดำเนินมาตรการเร่งด่วนและระยะยาว โดยมาตรการเร่งด่วน คือให้ สธ.วางแผนอัตรากำลังคนที่จำเป็นและตามความเหมาะสมก่อนในปีงบประมาณ 2557-2558 เพื่อให้ คปร.พิจารณาจัดสรรอัตราข้าราชการสายวิชาชีพ 24 สายงาน เพิ่มใหม่จำนวนปีละ 7,547 อัตรา ก่อนนำเข้าเสนอ ครม.ซึ่งขณะนี้ สธ.ได้วิเคราะห์อัตรากำลังที่เหมาะสมแล้ว โดยพิจารณาจากภาระงานของตำแหน่งแต่ละวิชาชีพ ในสถานบริการสาธารณสุขสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับใน 12 เขตบริการสุขภาพ และเชื่อมโยงข้อมูลกับฐานข้อมูลกำลังคนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) พร้อมเสนอ ครม.ชุดใหม่ได้ทันที
“ระหว่างการรอบรรจุเป็นข้าราชการใหม่นั้น มั่นใจว่าไม่กระทบกับขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ ยังมีความเชื่อมั่นในระบบของ สธ.ตัวอย่างจากกลุ่มแพทย์จบใหม่ในปี 2557 พบว่ามีแพทย์ลาออกเพียง 9 คน เป็นแพทย์จบใหม่จากโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท 3 คน จากที่จบทั้งหมด 878 คน เป็นแพทย์ที่จบจากมหาวิทยาลัยต่างๆ 6 คน จากจบทั้งหมด 1,830 คน คิดเป็นร้อยละ 0.3” รองปลัด สธ.กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวว่า นอกจากเรื่องบรรจุข้าราชการใหม่แล้ว สธ.ยังเร่งแก้ไขการเยียวยาให้ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ ที่จบการศึกษาปี 2545-2550 และได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการก่อนวันที่ 11 ธ.ค. 2555 จำนวนประมาณ 12,000 คน เนื่องจากหลังการบรรจุพบว่ามีความแตกต่างจากลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการที่ได้รับการบรรจุเมื่อปี 2556 จำนวน 7,547 อัตรา ซึ่งหลักเกณฑ์ของ ก.พ.ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2556 ที่สามารถนำอายุงานตั้งแต่เริ่มเป็นลูกจ้างชั่วคราวมานับรวมอายุราชการ เพื่อใช้ประกอบการจัดทำเอกสารวิชาการเลื่อนระดับที่สูงขึ้นได้ และได้รับอัตราเงินเดือนต่อจากฐานเดิมได้เลย ไม่ต้องเริ่มต้นในตำแหน่งใหม่ ส่งผลให้ผู้ที่บรรจุรุ่นหลังนี้ได้รับสิทธิที่เหลื่อมล้ำกว่ากลุ่มแรก กระทรวงฯได้เร่งแก้ไขเยียวยาโดยหารือกับ ก.พ.ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ก.พ.คาดว่าจะทราบผลสิ้นเดือนนี้